ประโยคเดียวช่วยดึงสติเสนาบดีเหลิ่งและเหลิ่งชิงเฮ่อที่กำลังสับสนท่ามกลางความโกลาหลจนพวกเขาลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท เมื่อเสิ่นหลินเฟิงเอ่ยขึ้นมาก็ถึงได้สติ
“ใช่ ใช่ ต้องรีบช่วยคนก่อน”
เหลิ่งชิงเฮ่อเดินจากไป “ข้าจะไปหาชิงฮวน”
เสิ่นหลินเฟิงคว้าแขนเขาไว้ “ตอนนี้พี่สะใภ้อยู่ในคุกสวรรค์ การออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาตเท่ากับเป็นการหลบหนี ประตูพระราชวังก็ปิดอยู่ พวกเราเข้าพบฝ่าบาทไม่ได้ อีกทั้งการไปๆ มาๆ ก็เสียเวลา ไม่สู้รีบพาชายารองเข้าไปรักษาในคุกสวรรค์ดีกว่า”
“แต่ฝ่าบาทมีรับสั่งว่าห้ามใครเข้าไปหานาง”
“ตอนนี้พระสนมฮุ่ยเฟยเองก็อยู่ในคุกสวรรค์ พวกเราใช้ข้ออ้างนี้เข้าไปด้านใน หากมีใครซักถามก็บอกว่ามาเยี่ยมพระสนมฮุ่ยเฟย”
แม้ว่าข้ออ้างนี้จะดูเหมือนคนโง่ที่หลอกตัวเองได้แต่หลอกคนอื่นไม่สำเร็จ แต่คนอื่นก็คงไม่มีทางมาซักไซ้ไล่เลียง แบบนี้เรียกว่าอาศัยช่องโหว่ทะลวงเข้าไป
เสนาบดีเหลิ่งได้ยินดังนั้นก็เห็นด้วย
เขารีบสั่งเหลิ่งชิงเฮ่อ “เรียกคนขับรถม้ามาเร็ว”
ก่อนจะหันหน้ากลับไปหาพระชายาเฮ่า “หมอในจวนล่ะ? รีบเรียกเขามาปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ชิงเหยาก่อน เดี๋ยวระหว่างทางขรุขระจะลำบาก”
พระชายาเฮ่ามองเด็กน้อยในอ้อมอกไม่เงยหน้าขึ้นมา “เขากลับไปส่งข่าวที่จวน ตอนนี้ไม่อยู่”
ท่าทางเหยียดหยามเช่นนี้ทำให้เสนาบดีเหลิ่งต้องข่มความโกรธเอาไว้ รู้สึกว่าความสง่างามในฐานะหัวหน้าขุนนางกำลังถูกยั่วยุ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทนไม่ได้
คนอื่นตั้งมากมายแต่ให้หมอกลับจวนไปรายงาน? ยิ่งไปกว่านั้นประตูเมืองก็ปิดแล้วจะเข้าเมืองไปรายงานได้อย่างไร?
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาถามหาเหตุผลอะไร ต่อให้ฆ่านางตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์
“หากวันนี้ลูกของข้าปลอดภัยก็ดี แต่หากเกิดอะไรขึ้นกับนาง ข้าจะให้เจ้าชดใช้ด้วยชีวิต!”
เสิ่นหลินเฟิงก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เพราะเหลิ่งชิงเหยาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เนื่องจากอาการบาดเจ็บของนาง เขาจึงใช้เท้าเตะประตูและเข้าไปด้านใน ก่อนจะช่วยกันลากผ้านวมเปื้อนเลือดพร้อมกับร่างของเหลิ่งชิงเหยาออกมา และหามนางออกไป
เหลิ่งชิงเฮ่อได้ขับรถม้าไปที่ประตูแล้ว ทั้งสามคนจัดแจงวางเหลิ่งชิงเหยาให้ดีก่อนจะรีบขับรถม้าไปที่เมืองหลวง
พระชายาเฮ่าไม่คิดจะชำเลืองสายตามองทั้งสามคนเลยแม้แต่น้อย ความเย่อหยิ่งจองหองเช่นนี้แตกต่างจากภาพที่นางเคยแสดงต่อหน้าทุกคนในอดีตมาก
ไม่มีใครสนใจเรื่องนี้ ทุกคนกำลังรีบร้อนช่วยชีวิต
เสิ่นหลินเฟิงบังคับม้าเร็วขึ้นนำหน้าไปเรียกให้เปิดประตูเมือง เพื่อให้รถม้าแล่นไปได้ตลอดทางโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง
เซวียอี๋เหนียงร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง นางนั่งอย่างไร้เรี่ยวแรงอยู่บนรถม้าพลางสะอื้นเรียกชื่อเหลิ่งชิงเหยา
นางกังวลว่าลูกสาวของนางจะแบกรับแรงกระแทกบนถนนไม่ไหว แต่นางก็หวังในทางตรงกันข้ามว่ารถม้าจะเร็วขึ้นอีก
โชคดีที่วันนี้แสงจันทร์สว่าง พอเข้าเมืองมาทุกอย่างก็ราบรื่น ทุกคนคิดว่าเหลิ่งชิงฮวนสามารถทำให้คนตายฟื้นคืนชีพได้ และตราบใดที่เหลิ่งชิงเหยายังมีลมหายใจเฮือกสุดท้าย นางก็จะรอดอย่างแน่นอน
เสียงเกือกม้าดังบนถนนที่เงียบสงัด
คืนนี้ คือคืนที่นอนไม่หลับในคุกสวรรค์
พระสนมฮุ่ยเฟยไม่คาดคิดมาก่อนว่านางจะมีเพื่อนโต้เถียงและเล่นสนุกกันในคุกสวรรค์
เดิมทีนางคิดว่าอีกสักพักก็คงจะได้กลับไป แต่ใครจะรู้ สถานที่นี้มีชีวิตชีวามากกว่าวัง พระสนมฮุ่ยเฟยจึงอยู่ต่ออีกสองวัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...