ยัยเด็กนี่ต้องได้ยินข่าวลืออะไรมาแน่ๆ แต่เหลิ่งชิงฮวนไม่สนใจ
“เหรอ? แต่ข้ากลับคิดว่าออกไปข้างนอกกับรัชทายาทเสิ่นก็เหมาะสมดีออก เจ้าอย่าไปเชื่อคำพูดยุยงพวกนั้นมาก ข้ามีธุระกลับมาแล้วจะเล่าให้เจ้าฟัง กลัวแต่ว่าเจ้าจะตกใจจนกรีดร้อง”
โตวโตวยังคงยืนนิ่งไม่ยอมขยับไปไหน “ท่านอ๋องจะโกรธเอานะเจ้าคะ เมื่อวานเขาก็รอคุณหนูอยู่ครึ่งค่อนวัน”
“รอข้า?” เหลิ่งชิงฮวนเยาะเย้ยเบาๆ “วันที่ข้าอยู่ตำหนักฉาวเทียนกลับไม่เห็นเงาของเขา แต่ทุกครั้งที่ข้าออกไปข้างนอกเขากลับใส่ใจข้าขึ้นมา”
เธอดึงมือของโตวโตวออกแล้วเดินออกจากตำหนักฉาวเทียนไปคนเดียว โตวโตวที่อยู่ด้านหลังก็ร้อนรน
เมื่อออกมาจากตำหนักด้านหลังของเหลิ่งชิงฮวนก็มีหางงอกออกมาสองหาง คือองครักษ์หน้ากากผีสองคนที่มู่หรงฉีส่งมาเพื่อติดตามเธอ พวกเขายังคงสวมหน้ากากผีที่ดูดุร้าย สวมชุดองครักษ์ที่ทำจากผ้าแพร เดินไปเดินมาบนถนนก็มีแต่เสียงร้องว้าว
เสิ่นหลินเฟิงนั่งรอเธออยู่หน้ารถม้า เมื่อเห็นองครักษ์หน้ากากผีสองคนก็เอ่ยอย่างไม่พอใจ “พวกเจ้าสองคนอีกแล้วรึ?”
หนึ่งในองครักษ์หน้ากากผีเอ่ย “ท่านอ๋องมีรับสั่งให้พวกกระหม่อมดูแลความปลอดภัยของพระชายาห้ามหย่อนยานแม้แต่นิดเดียว เมื่อวานพวกกระหม่อมก็ถูกลงโทษ ขอรัชทายาทเสิ่นโปรดอภัย”
เหลิ่งชิงฮวนจนปัญญา แค่ฉีดยาสลบให้พวกเขาคนละเข็มคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร อยากตามก็ตามมา ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัว
“ช่างเถอะ อยากตามก็ตามมา แค่ไม่เกะกะก็พอ”
เสิ่นหลินเฟิงก็ไม่สนใจอะไร “นี่ก็ดึกแล้วกว่าจะกลับมาถึงเมืองก็น่าจะกลางดึก ท่านบอกท่านพี่หรือยังเขาจะได้ไม่เป็นห่วง”
บอกให้เขารู้ ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เหลิ่งชิงฮวนโกหก “เขาไม่ได้อยู่ในจวน แต่หม่อมฉันกำชับคนไว้แล้ว”
เสิ่นหลินเฟิงถึงได้โล่งใจ เชิญเหลิ่งชิงฮวนขึ้นรถม้า ส่วนเขายังคงนั่งอยู่ด้านหน้าข้างคนขับรถม้า องครักษ์หน้าผีสองคนก็ควบม้าตามมาด้านหลัง
รถม้าออกจากเมืองตรงไปยังวัดฝ่าหวา เมื่อมาถึงวัดก็ยามดึกแล้ว เสิ่นหลินเฟิงลงจากรถม้าพร้อมกับเหลิ่งชิงฮวนก่อนจะแอบเข้าไปในวัด
องครักษ์หน้ากากผีสองคนเดินตามหลังมา เหลิ่งชิงฮวนเหลือบมองท่าทางของพวกเขา นี่มันแอบเข้ามาที่ไหน เรียกว่ายกพวกตีกันชัดๆ
เธอหันหน้าไปพูดอย่างจริงจัง “ข้ากับรัชทายาทเสิ่นมีเรื่องสำคัญต้องทำ พวกเจ้าไม่ต้องตามมา”
องครักษ์หน้ากากผีที่พูดเป็นคนแรกชำเลืองมองสหายที่อยู่ข้างๆ "พวกกระหม่อมแค่เดินตาม ไม่พูดอะไร พระชายาก็ทำเป็นว่าพวกกระหม่อมไม่มีตัวตนเป็นพอ"
เหลิ่งชิงฮวนพลิกข้อมือของเธอและหยิบเข็มเงินสองเล่มออกมา "ข้ารู้ว่าพวกเจ้ามีฝีมือมาก แต่ข้าเองก็วางยาโดยที่ไม่มีใครรู้ได้เหมือนกัน แต่หากพวกเจ้ากลัวว่าจะไม่มีอะไรกลับไปรายงาน ข้าจะมอบเข็มให้พวกเจ้าสองเล่ม ดีไหม?"
องครักษ์หน้ากากผีจ้องมองเธอด้วยความลำบากใจและหมดสติไปโดยไม่รู้ตัว ชายร่างใหญ่อีกคนจ้องมาที่เธอ จากนั้นก็นั่งคุกเข่าลงกับพื้นไม่ได้เดินตามไป
เสิ่นหลินเฟิงหัวเราะเบาๆ “ปลูกถั่วเหลืองทำเต้าหู้จริงๆ ของอย่างหนึ่งย่อมพิชิตอีกอย่างได้ ปกติองครักษ์สองคนนี้ก็คอยติดตามท่านอยู่แบบนี้หรือ”
ปกติเธอแทบไม่มีโอกาสได้ออกไปข้างนอกเลยด้วยซ้ำ เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะเบาๆ “พวกเขาก็แค่รู้จักเอาตัวรอด”
ทั้งสองคนสบตาและยกยิ้ม ก่อนจะเดินเลาะทางเดินไปด้านหน้าวัด ท้องฟ้ามืดสนิท ประตูวัดปิดแน่น มีเสียงสวดมนต์ดังออกมาจากด้านใน
เสิ่นหลินเฟิงมองท้องฟ้า “โลงศพของคุณชายใหญ่อยู่ที่เจดีย์ข้างๆ มีคนรับใช้สองคนที่จวนท่านโหวจัดแจงมาให้สลับเวรยามกันเฝ้า พระในวัดฝ่าหวามีเรียนภาคค่ำและจะกลับเข้าอารามในยามซวี ก่อนหน้านี้มีพระสงฆ์สองรูปที่ผลัดกันสวดพระธรรม ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก่อนที่พวกเขาจะกลับไป พวกเรารอก่อนไหม”
เหลิ่งชิงฮวนลังเลเล็กน้อย “หากครึ่งชั่วโมงนี้พระทุกรูปล้วนอยู่ในโบสถ์ใหญ่ไม่ออกไปไหนก็นับว่าเป็นโอกาสได้”
“หากลงมือตอนนี้ก็ทำได้แค่ให้พระที่กำลังสวดสองรูปนั้นสลบ จะไม่เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...