สรุปเนื้อหา ตอนที่ 86 ตะปูเหล็กที่ฝังอยู่หลังหัว – ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดย เฉลิมพล
บท ตอนที่ 86 ตะปูเหล็กที่ฝังอยู่หลังหัว ของ ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ในหมวดนิยายนิยาย โรแมนติค เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เฉลิมพล อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ทั้งสามคนเข้ามาในเจดีย์ข้างๆ เหลิ่งชิงฮวนหยิบหน้ากากป้องกันและถุงมือออกมาจากห่อผ้าและส่งให้เสิ่นหลินเฟิง
เสิ่นหลินเฟิงวางมือบนโลงศพและสั่งองครักษ์หน้ากากผี "เปิดฝาโลง"
องครักษ์หน้ากากผีเหลือบมองโลงศพแล้วยืนนิ่งไม่ไหวติง เจ้าเด็กนี่ไม่ฉลาดจริงๆ
เสิ่นหลินเฟิงรีบเร่ง “เร็วเข้า!”
ชายคนนั้นก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่เต็มใจและร่วมกับเสิ่นหลินเฟิงเลื่อนฝาโลงศพออกไป จากนั้นก้าวถอยหลังไปสามก้าวอย่างรวดเร็วและเช็ดมือบนร่างกายซ้ำๆ ราวกับหลีกเลี่ยงสิ่งอันตราย
เสิ่นหลินเฟิงเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างครุ่นคิดแล้วกะพริบตา
กลิ่นของซากศพที่เน่าเปื่อยในโลงศพโชยออกมา แม้ว่าเหลิ่งชิงฮวนจะสวมหน้ากากป้องกันแต่เธอก็ยังทนไม่ไหวจนต้องหันหน้าหนีและก้มลงอาเจียนแห้งสองสามครั้งเสิ่นหลินเฟิงกลั้นหายใจ หยิบเทียนไขสีขาวจากด้านข้างแล้วเอนตัวไปตรวจสอบศพอย่างพิถีพิถัน
หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็หันหน้าไปอีกทางแล้วสูดลมหายใจยาว “นอกจากบาดแผลบนศีรษะก็ไม่มีตรงไหนที่ร้ายแรงถึงชีวิต อีกทั้งแผลนี้ยังดูไม่สาหัส กะโหลกศีรษะไม่ได้รับความเสียหาย ทำไมถึงได้ตายง่ายๆ เช่นนี้ล่ะ”
เหลิ่งชิงฮวนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อระงับความเปรี้ยวที่ตีรื้นในลำคอของเธอ บังคับตัวเองให้ลุกขึ้นยืน เธอมาที่นี่เพื่อช่วยเขา ดังนั้นจะมาทำตัวไร้ประโยชน์ไม่ได้
เธอจับไม้กระดานโลง เตรียมตัวเตรียมใจก่อนชะโงกหน้าไปดู
เยี่ยมจริงๆ ขนาดเตรียมใจไว้แล้วยังอยากอาเจียน น่าสะอิดสะเอียนสุดๆ
แต่ต้องดู ยังไงก็ต้องดู โชคดีที่คุณภาพจิตใจเธอนั้นเพียงพอ ไม่ได้ผ่าศพแค่ครั้งสองครั้งเสียหน่อย
เธอตรวจสภาพบาดแผลที่ศีรษะของผู้ตายตามที่เสิ่นหลินเฟิงพูด ผู้ตายได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน เช็ดเลือดสะอาดหมดจด หวีผมเรียบร้อย บนศีรษะมีบาดแผลขนาดเท่าไข่ไก่
เสิ่นหลินเฟิงเลื่อนเทียนไขในมือไปให้ แต่เงามืดเกินไปทำให้มองไม่ชัดเจน เหลิ่งชิงฮวนจึงหยิบหลอดไฟไร้เงาLEDที่ใช้ในภาคสนามออกมาจากห่อผ้า เปิดใช้งานและมองเห็นบาดแผลได้ทันที
เสิ่นหลินเฟิงและองครักษ์ที่อยู่ข้างๆ ยืนมองอย่างตกตะลึง อัญมณีที่สามารถดูดและปลดปล่อยได้เช่นนี้เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
หลังจากตรวจสอบเหลิ่งชิงฮวนก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ตามที่เสิ่นหลินเฟิงพูดบาดแผลเป็นเพียงรอยแยกของผิวหนังเล็กน้อยเท่านั้น ด้วยพละกำลังของซิ่วอวิ๋นแล้วอย่างมากสุดก็หนักแค่เพียงหนึ่งกาน้ำชา ซึ่งสามารถทำให้ผู้ตายหมดสติ แต่มันเพียงพอที่จะทำให้ถึงตายเลยหรือ?
เธอเปิดฟังก์ชันการตรวจจับ CT แบบก้นหอยของแหวนนาโนอย่างเงียบๆ และไม่พบความเสียหายที่กะโหลกส่วนบน ส่วนเลือดคั่งใต้ผิวหนังนั้นไม่สามารถตรวจจับได้อย่างแม่นยำ แต่เธอกลับค้นพบอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอตกใจที่ทำให้ดวงตาเบิกกว้างและแทบหยุดหายใจ
เสิ่นหลินเฟิงสังเกตเห็นความผิดปกติทางอารมณ์ของเธอจึงถามอย่างสงสัย "มีอะไรหรือ? ท่านพบอะไรหรือไม่"
เหลิ่งชิงฮวนชี้ไปที่ศีรษะของผู้ตาย "ท่านยกคอของเขาแล้วลองลูบที่ด้านหลังศีรษะดูว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่หรือไม่"
เสิ่นหลินเฟิงทำตามคำพูดของเธอ ใช้นิ้วคลำผมอย่างระมัดระวังก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนไป "มีจริงๆ ด้วย!"
แสงจากไฟไร้เงานั้นสว่างราวกับกลางวัน เสิ่นหลินเฟิงพลิกศีรษะของผู้ตายอย่างระมัดระวัง ปัดผมออกและเจอเข้ากับตะปูเหล็กที่ฝังอยู่ในกระดูก! มันฝังอยู่ในกะโหลกจนมิดเหลือเพียงหัวตะปูที่มีขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียวซ่อนอยู่ในผม หากไม่ตั้งใจมองก็จะไม่สังเกตเห็นเลยแม้แต่นิดเดียว
คุณชายใหญ่ตายเพราะกาน้ำชาของซิ่วอวิ๋นที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่ามีคนแอบฆ่าเขา
เมื่อปลอดภัยเธอก็เริ่มรู้สึกเพลิดเพลินว่าเป็นเพียงการกระตุ้นความเร็ว สองเท้าของเธอล่องลอยอยู่กลางอากาศ รถไฟเหาะหรือเรือโจรสลัดที่เคยเล่นนั้นดูอ่อนแอไปเลย
องครักษ์แบกก้อนเนื้ออย่างเธอได้อย่างง่ายดายดูท่าคงชำนาญมากๆ ไม่กินแรงแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังเหลือบตาลงมามองเธออย่างสบายๆ เป็นจังหวะเดียวกับที่เหลิ่งชิงฮวนเงยหน้าขึ้นไป ดวงตาสบเข้ากับนัยน์ตาล้ำลึกของเขา หัวใจเธอสั่นวูบ นัยน์ตาพร่าพรายยิ้มหวาน
เพราะดวงตาของเธอเป็นประกาย เมื่อเหลือบตาขึ้นจึงดูเหมือนดวงดาวพราวประกาย ความตื่นเต้นในดวงตาเหล่านั้นเหมือนเด็กไม่มีผิด
ทั้งสองออกวัดแล้ววิ่งไปพักหนึ่งจนในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่ปลอดภัย ก่อนจะหยุดเมื่อได้ยินคนตะโกนดังมาจากข้างหลังว่า "เร็วเข้า ขโมยเข้ามา"
เสิ่นหลินเฟิงวิ่งตามมาอย่างเหนื่อยหอบ ถอดหน้ากากและถุงมือยางแล้วอ้าปากค้าง "ข้าเอาอัญมณีบนฝาโลงมาด้วย คนในวัดคงคิดว่าพวกเรามาขโมยสมบัติของศพ หวังว่าจะไม่เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นนะ"
เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกว่าเสิ่นหลินเฟิงมีไหวพริบจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาสามารถบรรลุความสำเร็จในปัจจุบันตั้งแต่อายุยังน้อย เธอเอ่ยชมเชยอย่างจริงใจ "ท่านคิดรอบคอบจริงๆ "
องครักษ์หน้ากากผีเหลือบมองทั้งสอง ลดเสียงลงและพูด "ไร้ประโยชน์"
เหลิ่งชิงฮวนสึกว่าน้ำเสียงนี้คุ้นมาก แม้ว่าจะเป็นเพียงคำง่ายๆ สองคำ แต่ทำไมถึงดูเย่อหยิ่งและจองหองเช่นนี้?
“มนุษย์” เอ่ยอีกหนึ่งคำง่ายๆ ด้วยเสียงทุ้มต่ำ
เสิ่นหลินเฟิงผงะไปครู่หนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็เงยหน้าขึ้น "ใช่ ถ้าฆาตกรคือซือหมิงเจ๋อจริงๆ เขาสามารถฆ่าพี่ชายของตัวเองและโยนความผิดไปให้ภรรยาของเขาได้ จิตใจโหดเหี้ยมเลวทรามต่ำช้าจริงๆ ยอมฆ่าผิดดีกว่าตกเป็นเหยื่อ วันนี้พวกเราแหวกหญ้าให้งูตื่นแล้ว ดังนั้นหากเขารู้ข่าวเป้าหมายต่อไปก็คงจะเป็นท่านน้าซิ่วอวิ๋น"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...