เสิ่นหลินเฟิงพูดไม่ผิด แค่ซิ่วอวิ๋นตายก็จะไม่มีพยานปากต่อให้อยากจะรื้อคดีขึ้นมาใหม่ก็คงเป็นเรื่องยาก
“เช่นนั้นพวกเรารีบไปที่หอคอยคนคลั่งกันเถอะ”
เสิ่นหลินเฟิงพยักหน้า “เวลานี้ประตูเมืองคงปิดแล้ว ต่อให้คนของจวนท่านโหวจะกลับไปรายงานก็ต้องรอรุ่งสางประตูเมืองถึงจะเปิด ดังนั้นจึงมิใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร”
“แต่ที่ยุ่งยากคือต้องหาความจริงของคดีให้เจอก่อนรุ่งสาง มิฉะนั้นรัชทายาทซือจะถูกปิดผนึกฝาโลงเพื่อฝังศพในวันพรุ่งนี้ หากต้องการพลิกคดีก็คงจะเป็นเรื่องใหญ่ ข้าคิดว่าท่านน้าซิ่วอวิ๋นต้องมีอะไรบางอย่างที่ปกปิดไว้ไม่อยากให้ใครรู้”
เหลิ่งชิงฮวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “หากต้องการให้ท่านน้าซิ่วอวิ๋นพูดออกมานั้นไม่ใช่เรื่องยาก หม่อมฉันมีแผนดีๆ แค่ลองก็รู้ว่านางเป็นบ้าจริงหรือบ้าปลอม”
เธอลดเสียงลงและกระซิบให้ทั้งสองคนฟัง ต้องเป็นแผนที่ดีแน่ๆ
ก่อนที่เสิ่นหลินเฟิงจะเข้าไปในรถม้า เขาลังเลอีกครั้ง “คดีนี้พี่สะใภ้ไม่ต้องออกหน้าแล้ว ต่อให้สืบหาความจริงมาได้ก็อาจจะเหนื่อยเปล่า ซ้ำยังอาจจะทำให้จวนท่านโหวขุ่นเคืองใจได้”
เขาไม่ได้ไม่มีเหตุผลแต่หากฆาตกรคือซือหมิงเจ๋ออย่างที่ทั้งสามคนเดาจริงๆ เมื่อความจริงถูกเปิดเผย เสิ่นหลินเฟิงก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเป็นธรรม ซือหมิงเจ๋อจะต้องชดใช้ให้กับรัชทายาทที่ตายไปด้วยชีวิต จวนท่านโหวมีคุณชายเพียงสองคน ท่านโหวก็คงไม่อยากให้ตนเองแก่ตัวไปแล้วไม่มีใครให้พึ่งพาอย่างแน่นอน
เหลิ่งชิงฮวนไม่มีใครหนุนหลัง หากเธอล่วงเกินจวนท่านโหวคงไม่ใช่การกระทำที่ฉลาดนัก
เธอยอมรับความหวังดีของเสิ่นหลินเฟิง "พวกเราไปหาท่านน้าซิ่วอวิ๋นกันก่อน ความจริงเป็นอย่างไรค่อยว่ากัน"
เสิ่นหลินเฟิงคว้าม้าขององครักษ์อีกคน "ข้าคุ้นเคยกับถนนหนทางมากกว่า ข้าจะขี่ม้านำ เจ้าไปนั่งบนรถ"
องครักษ์เหลือบมององครักษ์ร่างสูง รู้สึกลำบากใจเล็กน้อยแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จึงปีนขึ้นไปนั่งบนรถม้า ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่หอคอยคนคลั่ง
หอคอยคนคลั่งตั้งอยู่ในสถานที่เปลี่ยว ขณะนี้ไฟทุกดวงปิดสนิท หอคอยตั้งอยู่ท่ามกลางความมืดมิดดูลึกลับและน่ากลัวจากระยะไกล
เสิ่นหลินเฟิงต้องการขึ้นไปดูหญิงชราที่เฝ้าแต่เหลิ่งชิงฮวนยกมือห้าม
“ก็แค่กลอนประตู หรือว่าท่านก็ปลดไม่ได้หรือ”
องครักษ์ตัวสูงไม่พูดไม่จาแต่ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ก่อนจะออกแรงกลอนประตูก็หลุดออกพร้อมกับเสียง “คลิก”
ความรู้สึกเรียบง่ายแต่หยาบคายนี้ คงมีแต่บุรุษอย่างเสิ่นหลินเฟิงเท่านั้นแหละที่คิดจะพูดจาไร้สาระ หนำซ้ำถึงขั้นจะใช้เงินกับหญิงชรา
พวกเขาเดินเข้าไปอย่างเงียบๆ โดยพยายามไม่รบกวนเหล่าคนคลั่งที่กำลังหลับอยู่
เมื่อมาถึงห้องขังของซิ่วอวิ๋น พวกเขาทำเหมือนเดิม องครักษ์ตัวสูงก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับบีบแม่กุญแจเบาๆ แล้วแม่กุญแจก็เปิดออก เขาขยิบตาให้องครักษ์ตัวเตี้ยอีกคน องครักษ์คนนั้นหยิบมีดออกมาจากเอวและก้าวเท้าเข้าไปในห้องขัง
เหลิ่งชิงฮวนและเสิ่นหลินเฟิงซ่อนตัวอยู่ใต้เงาตะเกียงเงียบๆ
ซิ่วอวิ๋นกำลังขดตัวอยู่บนผ้าห่ม บางทีอาจเป็นเพราะยุงกัดนางจึงนอนหลับไม่สนิท ดังนั้นเมื่อมีดสังหารเย็นเฉียบจ่อที่ลำคอ นางจึงเบิกตากว้างทันทีด้วยความสยดสยองและกำลังจะกรีดร้อง
“อย่าส่งเสียง ข้าเป็นคนที่คุณชายซือส่งมา”
ซิ่วอวิ๋นอ้าปากกว้างแต่ไม่ได้กรีดร้อง นางแค่ขดตัวอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มแปลกๆ บนใบหน้า “ใครคือคุณชายซือ คิกคิก เขาคือใคร”
องครักษ์หน้ากากผีตัวเตี้ยกดใบมีดที่คอของนาง “เลิกเสแสร้งได้แล้ว คุณชายซือบอกว่าเจ้าแกล้งทำ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
โอ๊ยยยยยยย ปวดตับ น้ำตาท่วมเลยยยยย ฮือออออออ😫😫...
แอดน่ารักที่ซู๊ดๆๆๆๆๆๆ...
นางเอก บ้า วันๆ ทำแต่เรืองไร้สาระ...
ปญอ. พระเอกนางเอก ทะเลาะกันทั้งเรื่อง...
เมื่อไหร่จะหย่าซะที ได้แต่พูด เบื่อ...
แอดกลับจากพักร้อนแล้ว ดีใจจัง จุ๊ฟๆๆๆ...
แอดขา...ตอนนี้กำลังจะเริ่มพิธีทางไสยศาสตร์เพื่อตามแอดกลับมาอัพต่อแล้วนะคะ..แอดอยู่หนายยยย..จุ๊กกรู๊ๆๆๆๆๆๆ😅😄🤗😊...
แอดดดดดดด ลูกบ้านให้อภัยแล้ววววว กลับมาเร็วๆ...
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวอีกแล้ว สงสารเถอะ อัพหน่อย...
ไหงตัดจบกันแบบนี้🙄🙄...