ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 893

พอตกกลางคืน

ควันจากปล่องเตาเผาทุกครัวเรือนทั่วทั้งเมืองหลวงก็ลอยคลุ้งขึ้นมา ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขร่มเย็น

โคมไฟแขวนประดับสูงตามร้านค้าริมถนนรถม้าวิ่งขวักไขว่ไปมาอย่างไม่ขาดสาย

เมืองหลวงหลังจากสงครามวุ่นวายก็ได้พลิกฟื้นตัวขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง หลังจากช่วงเวลาโกลาหลก็ดูเหมือนจะล้ำค่ามากขึ้น

ตามถนนและตรอกซอกซอยโรงเหล้า โรงน้ำชาผู้คนต่างพากันพูดถึงและแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องน่าใจหายใจคว่ำอย่างตื่นเต้น ความกล้าหาญของอ๋องฉีนั้นไม่ธรรมดากับแผนการอันฉลาดแยบยลของฮ่องเต้ทำให้ทุกคนต่างพูดถึงกันไม่จบไม่สิ้น

ส่วนด้านบนอู่เฟิงโหลวบุคคลลึกลับสองคนที่ท่าทางร่างกายแข็งแรงบึกบึนเพลงดาบไม่ธรรมดาก็เกิดการคาดเดาและคำชื่นชมจากพวกประชาชนทั้งหลาย

ข่าวเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในสุสานหลวงฝั่งตะวันตกก็แพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ภัยอันตรายของสัตว์พิษร้ายในวังหลวง วิกฤตไฟลามทุ่ง กลุ่มวีรบุรุษรวมตัวกัน ขุนนางเป็นกบฏ การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของทุกคนในจวนมหาเสนาบดี เหล่าทหารยอมพลีชีพอย่างไม่กลัวเกรงรวมใจเป็นหนึ่งเดียวต่อต้านอ๋องเฮ่าเพื่อช่วยชีวิตพระชายาฉีอย่างดุเดือดทำให้ทุกคนล้วนเส้นเลือดไหลเวียนสูบฉีด คนทานลืมตะเกียบคนงานลืมเทพ

ส่วนเรื่องมืดหม่นในวังหลวงนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่พระชายาเฮ่าตายเพราะสาเหตุใด พระชายาฉีสามารถหนีรอดออกมาจากกองไฟที่ลุกเผาไหม้โหมกระหน่ำอย่างปลอดภัยได้อย่างไรทั้งยังควบคุมสัตว์พิษร้ายแรงที่สุดพวกนั้นไว้ได้ยังไงนั้นทุกคนไม่สามารถรู้ได้แล้ว

พวกผู้คนต่างพูดกันว่าอ๋องฉีและพระชายาฉีสามารถหนีรอดจากความตายได้ เบื้องบนประทานนิมิต กลุ่มวีรบุรุษร่วมด้วยช่วยกันแน่นอนว่าเบื้องบนได้สำแดงฤทธิ์เดชลิขิตให้ทั้งสองกลับมาอย่างแน่นอน

จนกระทั่งกลางดึกผู้คนก็ยังคงไม่หลับไม่นอนยังคงตกอยู่กับเรื่องน่าตื่นเต้นเมื่อช่วงกลางวันและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างคึกคัก กลัวว่าพอตัวเองกลับไปจะพลาดเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นกลายเป็นคนที่โง่เขลาที่สุดในเมืองหลวง

จนกระทั่งโฉวซือเส่ากับเสิ่นหลินเฟิงและฉีจิ่งอวิ๋นทั้งสามคนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่ เดินเข้าไปในภัตตาคารที่เปิดไฟสว่างไสวถูกสายตาเฉียบคมของผู้คนจำได้ก็ได้รับความเคารพนับถือจากผู้คนอย่างแรงกล้าอีกครั้งหนึ่ง

มีคนชี้ไปที่โฉวซือเส่าแล้วร้องอุทานออกมา “เหล่าวีรบุรุษที่ช่วยกอบกู้อยู่ที่นี่แล้ว! พวกเขานี่แหละ ไม่ผิดแน่นอน! ข้าอยู่ด้านหน้าเห็นจริง ๆนะ”

ในห้องโถงใหญ่เงียบไปครู่หนึ่ง แม้เข็มตกลงพื้นก็ยังได้ยิน

ทั้งสามคนเพิ่งจะก้าวเข้าประตูภัตตาคารมาทุกสายตามุ่งจับจ้องมาเท้าหลังก็หยุดชะงักลงทันที

จากนั้นหินก้อนหนึ่งก่อให้เกิดระลอกคลื่นนับพันผู้คนแห่กรูกันเข้ามาอย่างกระตือรือร้น โต๊ะเก้าอี้พลิกตะแคงคว่ำทันทีแล้วก็มีพวกแก้วจานชามหล่นลงพื้นอีกด้วย

เสิ่นหลินเฟิงตกตะลึง พระสูงหนึ่งจั้งสองฉื่อมิอาจคลำเศียรท่านไม่เข้าใจว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น

โฉวซือเส่าและฉีจิ่งอวิ๋นมองหน้ากัน คิดตรงกันที่จะหนีเผ่นเอาตัวรอดก่อนจึงเบือนหน้าแล้วหนีไป

“ท่านวีรบุรุษ ท่านวีรบุรุษ ขอถามชื่อเสียงเรียงนามท่านหน่อยเป็นคนที่ไหนท่านแต่งงานแล้วหรือยัง?”

“ท่านวีรบุรุษวันนี้ในวังหลวงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?ได้ยินว่าฮ่องเต้ประชวรอยู่ยังไม่ฟื้นพระชายาฉีได้ถวายการรักษาหรือไม่?”

...

จนกระทั่งห้อมล้อมไปด้วยผู้คนที่กระตือรือร้นซุบซิบอีกครั้งเสิ่นหลินเฟิงถึงจะรู้ตัวอีกทีเมื่อหันหน้าไปโฉวซือเส่าและฉีจิ่งอวิ๋นก็ไร้คุณธรรมชิงหนีหายตัวไปก่อนแล้ว

บรรดาแขกที่มาทานอาหารมีดึงแขนเสื้อบ้าง จับมือบ้างแย่งกันพูดขังเขาไว้อยู่ตรงกลาง

เสิ่นหลินเฟิงรวบรวมสติทันทีแล้วชี้ไปทางที่ทั้งสองคนนั้นวิ่งหนีไป “ข้าเป็นเพียงคนขับรถม้า คุณชายทั้งสองของข้านั้นร่ำรวยล้นฟ้ายังไม่ได้แต่งงานกำลังเลือกคู่ครองอยู่ใครมาก่อนก็ได้ก่อน”

ครอบครัวที่มีหญิงสาวถึงวัยออกเรือนแล้วยังไม่ได้แต่งงานรีบเปลี่ยนเป้าหมายไล่ตามไปติด ๆทันที

เหล่าแขกเหรื่อเองก็ไม่ได้โง่มองตัวเขาก็ดูไม่ธรรมดาจะเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไปได้ยังไง?อีกอย่างเขายังเป็นคนแรกในเมืองหลวงที่ถูกจับกุม ชื่อเสียงของจิงจ้าวอิ่นก็ไม่ใช่เล็ก ๆด้านในย่อมมีคนรู้จักเขาอยู่แล้ว

“ท่านนี้ไม่ใช่ซื่อจื่ออ๋องแห่งจวนกั๋วกงเหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา