ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 911

ข้ายิ้มเล็กน้อยก่อนจะถามกลับว่า “แม่ของเจ้าจะจัดการเจ้างั้นหรือ”

อวิ๋นเช่อลังเลที่จะตอบ เขาถอนหายใจเบาๆ อีกครั้งซึ่งไม่เหมาะสมกับอายุของเขาเอาเสียเลย “ท่านลุง ท่านมองแม่ข้าดีเกินไป ท่าคงไม่รู้สินะว่าท่านแม่น่ะชอบเอาชนะเหมือนกับเสด็จปู่ไม่มีผิด หากข้าหนีไม่พ้นแล้วละก็...ชีวิตของข้าต้องจบเห่แน่ๆ”

ประโยคนั้นดูรุนแรงไปเสียหน่อย

ข้าจึงถามต่อด้วยความประหลาดใจ “เพราะอะไร”

“เอาชนะลูกชายต้องมีเหตุผลด้วยหรือ แค่ท่านแม่มีความสุขก็น่าจะเพียงพอ”

อวิ๋นเช่นพูดเลียนแบบน้ำเสียงของชิงฮวนทำให้ข้ารู้สึกขำขัน

“เช่นนั้นข้าขอถามหน่อยว่านางจะจัดการเจ้าอย่างไร”

อวิ๋นเช่อถอนหายใจแผ่วเบา “เสด็จปู่จัดการกับท่านพ่อข้าอย่างไร ท่านแม่ก็จะทำเช่นนั้น ลุงฉี ท่านคงไม่ยืนมองข้าตายไปเฉยๆ ใช่หรือไม่”

เจ้าเด็กบ้า เห็นข้ามีน้ำใจเข้าหน่อย อยากให้ข้าอาศัยอยู่ข้างสนามเพราะมีแผนการร้ายนี่เอง

เขากำลังขอให้ข้าช่วยในการหลบหนีจากจวนฉีอ๋อง

แน่นอนว่าข้าไม่สามารถทำเรื่องนี้ได้

ข้าจึงส่ายหน้า “ข้าไม่อยู่เฉยแน่ แต่ข้าเชื่อว่าพ่อแม่ของเจ้าจะไม่ทำอะไรเจ้าแน่นอน”

อวิ๋นเช่อรู้สึกผิดหวัง “เฮ้อ เสียแรงที่ป้าสี่ของข้ายกย่องท่าน ดูเหมือนว่านางจะทำถูกแล้วที่แต่งงานกับผู้อื่น”

ข้าเริ่มจิตใจสั่นไหว แต่ยังแสร้งทำเป็นเฉยเมย “นางจะแต่งงานงั้นหรือ”

อวิ๋นเช่อพยักหน้า “คนที่ชอบป้าสี่ของข้าน่ะยืนต่อคิวตั้งแต่หน้าประตูจวนจนไปถึงอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ คงไม่ยากหากจะเลือกชายมีพรสวรรค์สักคนสองคน แต่ว่านางมีลูกเล่นบางอย่าง นางฟังข้อเสมอจากลุงของข้าว่าต้องโยนลูกบอลแพรปักสื่อรักเลือกสามี คิดว่าลุงของเขาเชื่อถือได้งั้นหรือ ไม่เลย... เขาแค่อยากพึ่งโชคต่างหาก”

นี่ไม่ใช่ละครสักหน่อย นี่มันชีวิตจริง!เหลวไหลที่สุด ทำไมนางถึงเอาเรื่องสำคัญในชีวิตมาล้อเล่นแบบนี้

“แล้วท่านตาของเจ้าไม่ว่าอะไรเลยหรือ”

เสนาบดีเหลิ่งชอบเรื่องแบบนี้หรือเปล่า

อวิ๋นเช่อยักไหล่ “บังเอิญว่าท่านตาออกไปทำราชการตามพระบัญชาของฮ่องเต้สองสามวัน กว่าจะกลับมาข้าวสารคงกลายเป็นข้าวสุกไปแล้ว อีกอย่าง...ท่านตาหวังเพียงว่าอยากให้ใครสักคนแต่งงานกับป้าสี่โดยเร็ว ผู้ที่คว้าลูกบอลแพรปักได้จะต้องเป็นลูกหลานตระกูลขุนนางและเหมาะสมกันอย่างดี หากโชคร้าย...ใครรับลูกบอลแพรปักไปได้ก็คนนั้นแหละ”

ข้าเงียบไปพักหนึ่ง

สถานะของจวนมหาเสนาบดีสูงไม่ใช่เล่น บรรดาผู้ที่ต้องการอำนาจและอิทธิพลจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน ต่อให้ต้องเสี่ยงตาย พวกเขาจะคว้าตำแหน่งลูกเขยของจวนมหาเสนาบดีมาให้ได้ แล้วอย่างนี้ชิงฮว่าจะได้เจอคู่ชีวิตที่ดีได้อย่างไร

แล้วชิงฮวนก็ปล่อยให้นางทำตามอำเภอใจเช่นนี้หรือ

หากชีวิตของนางต้องพังทลายเพราะข้า ข้าคงจะไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้

เมื่อเห็นว่าข้าเงียบไป อวิ๋นเช่อจึงกระโดดลงมาจากยอดกำแพง “เฮ้อ อิจฉาท่านป้าจริงๆ หากในอนาคตข้าสามารถโยนลูกบอลแพรปักสื่อรักได้จะดีแค่ไหนกัน แค่ดูว่ามีสาวคนไหนงดงามถูกใจแล้วโยนเข้าไปในอ้อมแขนของนาง หากโยนพลาดก็โยนใหม่อีกครั้ง เห็นทีครั้งนี้ท่านป้าจะต้องตัดสินใจจริงๆ แล้ว”

เขาบิดขี้เกียจและเดินกลับไปนอน

ท้ายที่สุดข้าก็อดไม่ได้ที่จะถาม “ที่ไหน”

“ที่ไหนอะไร”

“ป้าของเจ้าเลือกสามีที่ไหน”

ช่างเถอะ มีอะไรที่องครักษ์อินทรีตรวจสอบไม่ได้บ้าง

ข้าเริ่มรู้สึกรำคาญ ชิงฮว่าดูคนไม่ออกหรือไง ทำไมถึงให้คนอย่างเหลิ่งชิงเจียวมาดูแลเรื่องนี้แทน ทำแบบนี้แล้วจะได้คู่ชีวิตดีๆ หรืออย่างไรกัน

วันนี้เห็นได้ชัดว่านางแต่งตัวอย่างประณีตงดงาม โดยสวมชุดพระราชวังรัดเอวและแขนกว้างสะท้อนให้เห็นถึงรูปร่างสง่างามและเสน่ห์ที่ไม่ธรรมดา ปิ่นปักผมสูงบวกกับดอกไม้เหลืองติดที่หน้าผากซึ่งดูงดงามอย่างถึงที่สุด

ลูกสาวของตระกูลเหลิ่งล้วนแต่งดงาม โดยเฉพาะนางผู้นี้มีเสน่ห์น่าหลงใหลและสง่างาม

บรรดาข้าราชบริพารและขุนนางเริ่มเปิดการสนทนา นางยิ้มอย่างมีเลศนัยและตอบอย่างเขินอาย รอยยิ้มนั้นทำให้ผู้คนหลงใหลมากยิ่งขึ้น

เป็นผลให้เลือดของชายหนุ่มเดือดพล่านด้วยความกระตือรือร้น แม้แต่คนทั่วไปที่เฝ้าดูอยู่ข้างถนนต่างก็พากันชื่นชม

วันนี้แม้ว่านางจะเปลี่ยนใจ ไม่โวยวายเอาแต่ใจอีกต่อไป และด้วยรูปลักษณ์นี้นางจะต้องโด่งดังไปทั่วโลกอย่างแน่นอน จากนั้นชิงฮว่าค่อยๆ ขึ้นไปยังอาคารสูงด้วยการช่วยเหลือจากสาวใช้ ก่อนจะมองไปรอบๆ นัยน์ตาของนางหรี่ลงพร้อมกับยิ้มอย่างขมขื่น

สาวใช้ยื่นลูกบอลแพรปัก นางรับไว้ก่อนจะพูดเสียงดัง “การแต่งงานถูกกำหนดโดยโชคชะตา วันนี้หากผู้ใดที่รับลูกบอลแพรปักนี้ไว้ได้ เขาจะเป็นผู้ถูกเลือกและห้ามเปลี่ยนใจเป็นอันขาด” เสียงเชียร์จากผู้ชมดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“แม่นางชิงฮว่า ปราชญ์ผู้มีความสามารถจากตระกูลเสิ่นอยู่นี่แล้ว โปรดเมตตาข้าด้วย”

“แม่นางชิงฮว่า ข้าแซ่หวังชื่นชมท่านมานาน หากได้แต่งงานกับท่านถือเป็นเกียรติอันสูงสุดในชีวิตข้า ข้าจะรักท่านผู้เดียวไม่ปันใจให้ใคร”

“แม่นางชิงฮว่า ตระกูลเหยียนเป็นมิตรสหายกับท่านใต้เท้าเหลิ่งมานาน ท่านกับข้าเคยเป็นเพื่อนเล่นในวัยเด็กกันมาก่อน..”

เสียงนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ ผู้สัญจรผ่านไปมาต่างพากันหยุดจนปิดกั้นถนน

ชิงฮว่ายืนอยู่บนอาคาร นางกำลูกบอลแพรปักในมือจนปลายนิ้วเริ่มขาวซีด แสดงถึงให้เห็นถึงความลังเลและความยุ่งเหยิงภายในจิตใจ

แรงผลักดันมหาศาลเช่นนี้ นางจึงไม่สามารถลงจากหลังเสือได้อีกแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา