สรุปเนื้อหา ตอนที่ 98 ทะเลาะกันก็จะต้องกลับบ้านตนเอง – ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา โดย เฉลิมพล
บท ตอนที่ 98 ทะเลาะกันก็จะต้องกลับบ้านตนเอง ของ ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา ในหมวดนิยายนิยาย โรแมนติค เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เฉลิมพล อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
เหลิ่งชิงฮวนมองเขาด้วยความโกรธ "มู่หรงฉี นี่ท่านหมายความว่ายังไง"
มู่หรงฉีพับแขนเสื้อขึ้น เขารู้สึกมีชีวิตชีวาอย่างมาก "ก็รังเกียจผ้าห่มที่กลิ่นเหม็นของเจ้าหน่ะสิ กลิ่นของเต้าหู้เหม็น"
เหลิ่งชิงฮวนเห็นว่าเขาพูดถึงเรื่องนี้อีก หน้าของนางก็แดงก่ำ ไม่รู้เพราะโกรธหรือว่าเขินอายกันแน่
"นี่เป็นของห้องหม่อมฉัน" นางกัดฟันพูดทีละคำ
"เป็นห้องของข้าเหมือนกัน" มู่หรงฉีนั้นพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ
"หากวันนี้ท่านยังนอนค้างที่นี่ เชื่อไหมว่าหม่อมฉันจะจุดไฟเผาตำหนักนี่ซะ"
เหลิ่งชิงฮวนนั้นสาบานว่าจะทำอย่างที่พูดแน่นอน
"เชื่อสิ เชื่อแน่นอน" มู่หรงฉียิ้มเบาๆ "นี่เจ้ากำลังเตือนข้าว่า คืนนี้ก่อนที่จะนอนให้มัดเจ้าไว้สินะ ถ้าจะดีก็ต้องเฝ้ามองอย่างไม่ละสายตา"
เหลิ่งชิงฮวนที่มักเป็นฝ่ายชอบทำให้มู่หรงฉีโกรธเคืองนั้นพบว่า เขานี่ช่างเป็นคนหน้าด้านจริงๆ เป็นคนที่ไร้เหตุผลสิ้นดี และตนเองก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย
"นี่ท่านจะทำอะไรกันแน่" เหลิ่งชิงฮวนกัดฟันถาม
"ก็แค่จะกินข้าวแค่นั้นเอง"
แม่นมเตียวเอาอาหารที่นางทำยามเช้านั้นมาจัดแจงและเสิร์ฟขึ้นโต๊ะเรื่อยๆ แล้วก็เตรียมถ้วยตะเกียบไว้ให้สองชุด
"กินด้วยกันไหม"
มู่หรงฉีเลียนแบบน้ำเสียงครั้งก่อนของนาง ซึ่งแฝงไปด้วยความไม่หวังดี
กินสิ ทำไมจะไม่กิน
เหลิ่งชิงฮวนนั่งลงที่โต๊ะด้วยความโกรธ "นี่เป็นอาหารที่ข้าใช้เบี้ยซื้อมา ท่านอ๋องฉี เหมือนว่าพวกเรานั้นได้แยกตำหนักอยู่กันนะ"
"เจ้านอนเตียงของข้า ข้ากินข้าวของเจ้า ถือว่าหายกัน"
เหลิ่งชิงฮวนนั้นสูดหายใจแล้วสูดหายใจอีก
"เหลิ่งชิงหลางกินข้าวของท่านมาตลอด ทำไมท่านไม่ไปนอนเตียงของนางกัน"
มู่หรงฉีกินข้าวอย่างสุภาพเรียบร้อย แม้จะเป็นแค่อาหารเรียบง่าย แต่เขาก็ยังคงรักษาท่าทีที่หรูหราและสูงส่งที่มีมาแต่กำเนิด มีความรู้สึกเหมือนกำลังกินเลี้ยงงานในพระราชวัง
"เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าไม่เคยนอนเตียงนางมาก่อน"
เหลิ่งชิงฮวนถึงกับพูดไม่ออก นางรู้อยู่แล้วสิ ข้าได้ประทับตราพิเศษที่หลังของเขาเอาไว้แล้ว หากพวกเขาสองคน ไม่สิ สามคน หากเคยนอนด้วยกันแล้ว การกระทำของนางก็คงจะถูกเปิดเผยออกมาแล้ว
แม้ว่าข้ารู้ แต่ข้าก็ไม่พูดหรอก
"อีกอย่าง ข้าคิดว่า เจ้าตั้งใจทำห้องสมุดของข้าให้สกปรกเลอะเทอะ ก็เพราะจะบังคับให้ข้ามานอนที่จวนของเจ้า ข้าก็แค่ทำตามความตั้งใจของเจ้าแค่นั้นเอง"
เหลิ่งชิงฮวนยิ้มเยือกเย็น "ท่านอ๋อง ตอนนี้ท่านไม่กลัวว่าหม่อมฉันจะคิดมิดีมิร้ายกับท่านแล้วหรือเพคะ ยังกล้ามาถึงที่อีก"
มือที่ถือตะเกียบของมู่หรงฉีนั้นหยุดชะงักไป จากนั้นเขาพยักหน้า "กลัวสิ กลัวอยู่แล้ว แต่ข้าคิดว่าหากเจ้าใช้กำลังบังคับ ข้าก็คงจะพอมีกำลังสู้ไหว"
ชิงฮวนหัวเราะจนแทบหายใจไม่ทัน "ท่านมั่นใจขนาดนั้นเลยหรือ ว่าความสามารถในการสู้รบของท่านจะไวกว่ายาพิษของหม่อมฉันเพคะ"
มู่หรงฉีส่ายหัว "สู้ไหวก็สู้"
"ถ้าสู้ไม่ไหวล่ะ"
"สู้ไม่ไหวก็ทน"
เหลิ่งชิงฮวนวางตะเกียบในมืออย่างแรง จากนั้นก็ลุกขึ้นมา ชีวิตแบบนี้มันอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว
วันนี้มู่หรงฉีนั้นเจริญอาหารอย่างมาก เขาหยิบเอาทองม้วนขึ้นมากิน
ท่าทางที่ผู้หญิงหนีหัวซุกหัวซุนนั้นมันราวกับกระต่ายตัวหนึ่ง ท่าทางที่โมโหก็เหมือนแมวที่ถูกเหยียบหาง ล้วนดูน่ารักกว่าตอนที่นางดุร้ายราวกับเสือตัวเมีย
การได้ยั่วยุให้นางโมโหในแต่ละวัน ตัวเขาเองก็จะมีความสุขมาก
"เจ้ามักจะให้ข้าอดทนๆ ดูตอนนี้สิ จื่อชิวใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์จนยั่วยุท่านอ๋องได้ก็ช่าง เหลิ่งชิงฮวนนางเป็นใครกัน ท่านอ๋องนั้นทอดทิ้งนางอย่างไม่ไยดี แต่เมื่อคืนกลับค้างที่ตำหนักฉาวเทียน สุดท้ายแล้วก็มีแต่ข้าที่เป็นตัวตลก แม้แต่ออกจากประตูเรือนจื่อเถิงนี่ไปก็ยังจะต้องถูกคนอื่นวิพากษ์วิจารณ์"
แม่จ้าวก้มหน้าก้มตา
"เมื่อกี้บ่าวไปสอบถามแม่หวังมาแล้ว เมื่อคืนท่านอ๋องค้างที่ตำหนักฉาวเทียนจริง แต่เหลิ่งชิงฮวนกลับนอนอยู่ในห้องของสาวรับใช้คนนั้น อีกทั้งตอนเช้าเหลิ่งชิงฮวนยังทำให้ท่านอ๋องโกรธอย่างมาก เย็นนี้ท่านอ๋องไม่มีที่ไป อาจจะมาที่เรือนจื่อเถิงนี่เพคะ"
"มาแล้วจะยังไง มีนางจิ้งจอกอย่างนางจือชิวอยู่ ท่าทางที่ไม่เคยเห็นผู้ชายแบบนั้น ท่านอ๋องคงจะลืมข้าไปแล้ว"
"เรื่องจือชิวมันพูดง่ายอยู่ ก็ให้บอกว่าวันนี้นางไม่สบาย ดูแลท่านอ๋องไม่ได้ นางจะกล้าขัดขืนหรือ"
"แล้วเหลิ่งชิงฮวนล่ะ"
"ส่งสารไปให้แม่สิ ให้รับเหลิ่งชิงฮวนกลับไปที่จวนมหาเสนาบดีสักสองสามวัน ท่านจะได้อยู่สานสัมพันธ์กับท่านอ๋อง"
เหลิ่งชิงหลางดีใจขึ้นมาทันที "ข้อเสนอนี้ดีเลย ควรจะแยกนางให้ไปไกลๆ ตั้งนานแล้ว หากนางไม่ได้สร้างเรื่อง ข้ากับท่านอ๋องก็คงจะไม่ห่างเหินกันแบบนี้"
เมื่อได้รับการอนุญาติจากเหลิ่งชิงหลาง แม่จ้าวจึงได้รีบสั่งการให้คนไปส่งสารที่จวนมหาเสนาบดี
จินจื่อนั้นรับรู้ความต้องการของลูกสาวตนเองทันที จึงไปพูดเป่าหูเสนาบดีเหลิ่ง
เสนาบดีเหลิ่งก็มีความตั้งใจอยากจะรับเหลิ่งชิงฮวนกลับมาที่จวนมหาเสนาบดี ไม่ใช่เพื่ออะไร แต่เรื่องที่นางทำร้ายมู่หรงฉีเพียงเพราะเต้าหู้เหม็นชิ้นเดียวนั้นได้เข้าหูเสนาบดีเหลิ่งนานแล้ว เขาตกใจกลัวจนตัวสั่น ด่าลูกเนรคุณในใจไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
หากไม่สั่งสอนลูกสาวคนนี้อีก มันจะทำเกินไปกว่านี้อีกแน่ พรุ่งนี้คงจะสร้างเรื่องราวใหญ่โตเกินกว่าจะกู้สถานการณ์กลับมาได้
ดังนั้น เสนาบดีเหลิ่งจึงรีบสั่งให้คนในจวนขับรถม้าไปรับนางมาอยู่ที่บ้านตนเองสักสองสามวัน เหตุผลคือคิดถึงลูกสาวของตนเอง
เมื่อเหลิ่งชิงฮวนได้รับรู้ข่าวนี้ นางรู้สึกตลกอย่างมาก พ่อที่ไม่เอาไหนของนางจะหาเหตุผลที่มันสมเหตุสมผลหน่อยไม่ได้เหรอ คิดถึงนางหรือ ช่างเป็นพ่อที่มีความรักเมตตาจริงๆ
ได้ข่าวว่าเวลาผู้หญิงทะเลาะกับสามีก็จะต้องกลับบ้านตนเองไปหาคนช่วย พี่ชายเองก็จะไปฝึกแล้ว ไม่ช้าก็เร็วก็จะต้องกลับจวนมหาเสนาบดีอยู่ดี ตนเองไปสืบให้พี่ชายก่อน พวกปรปักษ์ก็ต้องไปจัดการสักหน่อย ตำหนักฉาวเทียนนี่มู่หรงฉีอยากจะทำอะไรก็ทำเถอะ
นางเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงขึ้นรถม้าของจวนมหาเสนาบดีพร้อมกับโตวโตว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...