ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD นิยาย บท 162

ปู้ฟางมองคนทั้งสองด้วยสีหน้างุนงง เขาคุ้นเคยกับเสียงแหบห้าวและท่าทางเหมือนชายชาตรีของหลัวซานเหนียนแล้ว แต่เหตุใดเจวี้ยนเอ๋อร์จึงมาที่ร้านพร้อมด้วยกล่องอาหารกันนะ

ชายหนุ่มเหลือบมองคนทั้งสองด้วยความเคลือบแคลงใจ ก่อนพูดพร้อมยกยิ้มมุมปาก “ข้าไม่ว่าง”

สีหน้าของหลัวซานเหนียนแข็งทื่อไปชั่วครู่ นางนิ่วหน้าทันที “ท่านว่าอะไรนะ”

“ตอนนี้ร้านเปิดทำการอยู่… ข้าเลยไม่ว่าง ถ้าเจ้าจะสั่งอะไรกินก็เชิญ แต่ถ้ามาหาข้าด้วยเหตุผลอื่น ก็ต้องรบกวนรอจนกว่าร้านจะปิดก็แล้วกัน” ปู้ฟางเมินสายตาไม่พอใจของหลัวซานเหนียนแล้วเดินกลับเข้าครัวไป

“ไอ้… ไอ้บ้านี่!” หลัวซานเหนียนเดือดดาลเป็นอันมาก นางรู้และเข้าใจกฎของปู้ฟางดี แต่ตัวนางกลับไม่เข้าใจทัศนคติขวางโลกของชายหนุ่มเอาเสียเลย ในนครหลวงแห่งนี้จะมีใครกล้าพูดจาสามหาวกับหลัวซานเหนียนผู้นี้อีก

“ซานเหนียน ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอก เถ้าแก่ปู้พูดถูกแล้ว ตอนนี้ร้านยังเปิดอยู่ เราจะขัดจังหวะการทำมาค้าขายของคนอื่นไม่ได้นะ” เจวี้ยนเอ๋อร์รีบพูดพร้อมดึงตัวหลัวซานเหนียนที่กำลังจะบันดาลโทสะเอาไว้ ใบหน้าของนางดูลุกลี้ลุกลน

สุดท้ายหลัวซานเหนียนก็ยอมจำนนต่อคำขอของเจวี้ยนเอ๋อร์ นางไม่ได้โกรธถึงขั้นนั้นแต่แรกแล้ว แค่รู้สึกรำคาญความขวางโลกของปู้ฟางก็เท่านั้น

“ข้าจะฟังเจ้าก็แล้วกัน เช่นนั้นมาสั่งอาหารร้านหมอนี่กินกันหน่อยดีกว่า ถึงเจ้าผีบ้านี่จะจองหองแถมยังอารมณ์ร้าย แต่อาหารฝีมือเขาก็อร่อยมากจริงๆ!” หลัวซานเหนียนเอ่ยขณะมองไปรอบๆ ร้านเพื่อหาที่นั่ง

“มานั่งกับพวกเราสิ” เซียวเยียนอวี่เอ่ยชวนให้ทั้งสองมานั่งด้วยพร้อมกวักมือขาวเรียวยาวของนาง

“ตายแล้ว เยียนอวี่ เจ้าก็มาด้วยหรือ” ดวงตาของหลัวซานเหนียนเป็นประกายขึ้นทันทีเมื่อเห็นสองพี่น้องตระกูลเซียว นางเดินลากเจวี้ยนเอ๋อร์ไปที่โต๊ะจากนั้นก็นั่งลงข้างเซียวเยียนอวี่ “ตายแล้ว เซียวเสี่ยวหลง ไอ้หน้าสาว เจ้าก็มาด้วยรึ ช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้”

หลังจากที่ได้ยินคำพูดนั้น เซียวเสี่ยวหลงก็แทบกระอักเลือดด้วยความโกรธ ทุกครั้งที่เจอหลัวซานเหนียน นางจะเรียกเขาว่าไอ้หน้าสาวตลอด นี่มันช่าง… น่าโมโหเสียจริง!

“บังเอิญ… กับผีน่ะสิ!” เซียวเสี่ยวหลงคิดพร้อมพ่นลมเยาะออกมา จากนั้นก็เชิดหน้าใส่ เมินหลัวซานเหนียนไปอย่างสิ้นเชิง

“เสี่ยวอี้ วานเอาหารให้ไปให้ลูกค้าที” เสียงปู้ฟางลอยออกมาจากครัวพร้อมกลิ่นหอมที่ตลบอบอวลไปทั่งร้าน ทำให้ทุกคนมีสีหน้าเคลิ้มไปเล็กน้อย

เสี่ยวอี้กระโดดดึ๋งไปที่หน้าต่างห้องครัวทันทีที่ได้ยิน จากนั้นก็ยกอาหารมาตามหน้าที่

บรรยากาศภายในร้านดูตื่นตัวขึ้นทันทีเมื่ออาหารเริ่มหลั่งไหลออกจากห้องครัว ทุกคนกินสิ่งที่ตัวเองสั่งอย่างเอร็ดอร่อย

หลังจากที่ลูกค้าส่วนใหญ่กินอาหารเสร็จแล้วออกจากร้านไปหลังจ่ายเงินเรียบร้อย ร้านก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง

“เถ้าแก่ปู้ ตอนนี้ว่างหรือยังล่ะ” หลัวซานเหนียนถามด้วยน้ำเสียงรำคาญพร้อมลูบพุงที่ยื่นน้อยๆ ของตัวเองไปด้วย

ปู้ฟางเช็ดหยดน้ำออกจากมือ ก่อนจะลากเก้าอี้มานั่ง เขามองหน้าหลัวซานเหนียนแล้วพยักหน้าตอบรับ

“เจ้าต้องการอะไร ข้าไม่สัญญานะว่าจะช่วยได้ ต่อให้เป็นเรื่องทั่วไปก็เถอะ” ปู้ฟางเอ่ย

หลัวซานเหนียนเลิกคิ้วขึ้นตอบรับ แต่นางก็หมดอารมณ์ที่จะเดือดใส่ปู้ฟางแล้ว จึงได้แต่ลากเจวี้ยนเอ๋อร์เข้าฉากมา “เจวี้ยนเอ๋อร์ต้องการความช่วยเหลือจากท่าน”

ปู้ฟางประหลาดใจเล็กน้อย เขาเหลือบมองหญิงสาวแสนขี้อายที่กำลังดูขวยเขินเป็นอันมาก คิดไม่ออกจริงๆ ว่านางต้องการเจอเขาไปเพื่ออะไร

เจวี้ยนเอ๋อร์ดูเหมือนต้องรวบรวมความกล้าเป็นอย่างมากในการวางกล่องอาหารลงตรงหน้าชายหนุ่ม จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เถ้าแก่ปู้… ข้า… เมื่อวาน ข้ากลับบ้านไปลองทำ… ทาร์ตไข่ของท่านดู ข้าเลยอยากให้ท่านลองชิมเจ้าค่ะ”

“หืม เมื่อวานแม่นางคนนี้กลับไปทำทาร์ตไข่ที่บ้านรึ”

ปู้ฟางตกใจและหันไปมองนางด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ ขั้นตอนการทำทาร์ตไข่นั้นซับซ้อนพอตัว นางทำทาร์ตไข่

ออกมาได้หลังจากที่กินเข้าไปครั้งเดียวน่ะรึ

ชายหนุ่มรู้สึกสนอกสนใจขึ้นมาทันที เขาอยากเห็นว่าทาร์ตไข่ที่นางทำออกมาจะหน้าตาเป็นอย่างไร

“เจ้าทำทาร์ตไข่รึ อืม… ไหนข้าขอดูหน่อย” ปู้ฟางเอ่ย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD