“ไอ้หมอนี่มันเสียสติไปแล้วหรือ”
ทุกคนมองไปยังร่างที่ถือมีดทำครัวอยู่ในมือซึ่งกำลังกระโจนเข้าใส่งูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬด้วยสีหน้าว่างเปล่าบอกไม่ถูก หมอนี่จะใช้กำลังของตนเองต่อสู้กับงูบ้าเนี่ยนะ เขาตั้งใจจะฉกฝักบัวไปจากปากของอสูรเวทที่กำลังจะบรรลุปราณขั้นแปดเช่นนั้นรึ
ช่างเป็นเรื่องที่บ้าระห่ำจนเข้าขั้นคลั่งอะไรอย่างนี้!
นี่คือความคิดที่อยู่ในใจของทุกคนในตอนนี้ หากปู้ฟางมีปราณระดับเจ็ดขั้นนักพรตยุทธการ ทุกคนคงคิดว่าการกระทำของเขาช่างน่าชื่นชม แต่ชายหนุ่มเป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับห้าขั้นราชันยุทธการเท่านั้น การตัดสินใจเช่นนี้จึงดูโง่จนไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเกิดขึ้นจริง!
ผู้ฝึกตนระดับห้าขั้นราชันยุทธการเป็นเพียงมดปลวกไร้ค่าต่อหน้างูเหลือมที่สยบขั้นนักพรตยุทธการได้ถึงสองคนในคราวเดียว เผลอๆ แค่มันโบกหางครั้งเดียว พ่อหนุ่มตรงหน้านี้ก็อาจกลายเป็นเศษธุลีไปเลยก็ได้!
อู๋อวิ๋นไป่ถอนหายใจออกมาจากนั้นก็ส่ายหน้าอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี ก่อนหน้านี้นางชื่นชมปู้ฟางในฐานะพ่อครัวที่สามารถทำอาหารโอสถทิพย์ได้ พ่อครัวฝีมือฉกาจเช่นนี้หาได้ยากยิ่งแม้กระทั่งในตำหนักเมฆาขาว แต่แม้ทักษะการทำอาหารของหมอนี่จะยอดเยี่ยม… ทว่าสมองกลับดูไม่ได้ไปในทางเดียวกันนัก
เหตุใดจึงรนหาที่ตายด้วยการกระโจนเข้าหางูเหลือมยักษ์เช่นนี้ ต่อให้ต้องการฝักบัวนั่นจริง อย่างน้อยก็น่าจะประเมินความสามารถของตัวเองหน่อย ความทะเยอทะยานทู่ซี้ทำสิ่งที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีวันสำเร็จนั้น ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตายแม้แต่น้อย
พี่หญิงใหญ่มู่เองก็ตกใจมากเช่นกัน แต่ก่อนที่นางจะทันได้ทำอะไร ปู้ฟางก็กระโจนเข้าใส่งูเหลือมเสียแล้ว กว่านางจะรู้สึกตัวสถานการณ์ก็สายเกินแก้แล้ว
อาหนี่อึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นดวงตาของเขาก็เดือดพล่านด้วยพลังใจแรงกล้า!
“ให้ตายเถิด! หมอนี่มันใจถึงถึงขนาดกล้ากระโจนเข้าไปต่อสู้ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นเพียงขั้นราชันยุทธการ! แล้วขั้นจักรพรรดิยุทธการอย่างข้ากลับมาคุดคู้อยู่ในที่เช่นนี้เนี่ยนะ! ยอมน้อยหน้าไม่ได้เด็ดขาด!”
อาหนี่คำรามออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวพร้อมโบกหาง ตั้งใจจะกระโจนเข้าไปสมทบด้วยเช่นกัน
ทว่าก่อนที่อาหนี่จะไปได้ไกล เขาก็ถูกหางของผู้อาวุโสสูงสุดฟาดหน้าเข้าให้
“หยุดเดี๋ยวนี้! เจ้ากลับไปยืนอยู่ข้างหลัง! คิดว่ากำลังทำอะไรอยู่! นี่มันใช่เวลามาทำตัวบุ่มบ่ามเสียสติรึ!” ผู้อาวุโสสูงสุดคำรามด้วยความโกรธ ใบหน้าของอาหนี่เปลี่ยนเป็นสีขาวซีดด้วยความกลัว เขาก้มหน้างุดแล้วกลับเข้าประจำที่เดิม
ทว่าดวงตาของอาหนี่กลับเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองใจ เขามองปู้ฟางด้วยสายตาเคารพยกย่อง
นี่คือวีรบุรุษแห่งยุคสมัยอย่างแท้จริง!
เกียรติยศของชายผู้นี้ควรได้รับการยกย่องแม้วายชนม์!
หน้าตาของงูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬดูชั่วร้ายน่ากลัวมากขึ้นอีกหลังจากที่ลดขนาดลง พลังงานที่มันปล่อยออกมาก็เกรี้ยวกราดขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นกัน ความเร็วของมันรวดเร็วมากเสียจนทุกคนสูดลมเย็นเข้าลึกด้วยความหวาดกลัว
มันพุ่งตัดอากาศเหมือนลูกศรที่หมายทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าให้สิ้นซาก
ทันใดนั้นรูม่านตาของงูเหลือมก็หดแคบลง มันเห็นมนุษย์คนหนึ่งที่ดูเหมือนมดปลวกกำลังพุ่งตรงมาทางมัน
พลังของมนุษย์ผู้นี้อ่อนแอมาก… จนมันไม่ได้แยแสจะต่อกรด้วยเสียด้วยซ้ำไป
“ไอ้มนุษย์นี่มันโง่หรือเปล่านะ สองคนก่อนหน้านี้แข็งแกร่งมากแต่ก็ถูกข้าจัดการจนเกือบตาย แต่ไอ้หมอนี่อ่อนแอกว่าโข… อยากตายหรืออย่างไร” นี่คือสิ่งที่งูเหลือมกำลังคิดอยู่ในใจ
“เช่นนั้นข้า…จะเล่นกับเจ้าเอาบุญก็แล้วกัน”
ทว่าปู้ฟางตัดสินใจทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลังจริงๆ น่ะหรือ ไม่ใช่อยู่แล้ว… ปู้ฟางไม่ใช่คนปัญญาทึบเสียหน่อย!
ขณะที่ชายหนุ่มกำลังกระโจนเข้าใส่งูเหลือม พลังปราณภายในกายเขาก็เริ่มหมุนวนอย่างช้าๆ พลังปราณในกายของชายหนุ่มเดือดพล่านกระจายเข้าสู่แขนและขา ส่งให้ความแข็งแกร่งพุ่งขึ้นสู่ขีดสุด
ระหว่างที่กำลังวิ่งไปข้างหน้า มีดทำครัวในมือชายหนุ่มก็เรืองแสงขึ้น ตอนแรกแสงนั้นไม่ได้เจิดจ้ามากนัก แต่ก็ค่อยๆ ทวีความสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ!
จนในที่สุดมีดทำครัวก็ทอแสงแรงกล้า!
ครืน!
ทันทีที่ปู้ฟางก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว พื้นดินก็พลันสั่นสะเทือน รูปลักษณ์ของมีดทำครัวโบราณในมือของชายหนุ่มเปลี่ยนไปทันที หน้าตาที่ดูมอซอของมันเปลี่ยนเป็นมีดทำครัวสีทองเล่มใหญ่ แสงส่องสว่างไปทั่วทุกสารทิศ เจิดจ้ามากเสียจนแทบจะทำให้ทุกคนตาบอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD