ปัง!
สันมีดทำครัวกระดูกมังกรทองปะทะเข้ากับร่างของงูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬที่กำลังพุ่งมาด้วยความเร็วสูงเข้าอย่างจัง อสูรเวทระดับเจ็ดลอยละลิ่วกลับไปเป็นก้อนกลมทันที
ทุกคนมองภาพที่เกิดขึ้นด้วยความประหลาดใจ อสูรเวทที่แสนยิ่งใหญ่ทรงพลังพุ่งไปกระแทกพื้นอย่างจัง แรงปะทะทำให้พื้นพลันยุบลงไป
แขนของปู้ฟางสั่นเล็กน้อย เขาสะดุ้งด้วยความเจ็บปวดพร้อมสูดลมเย็นเข้าปอด งูตัวนี้แข็งแกร่งกว่าที่คิดไว้ เนื้อตรงฝ่ามือของชายหนุ่มแทบจะหลุดออกมาเพราะแรงปะทะ
งูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬที่ถูกปู้ฟางฟาดด้วยมีดจนต้องล่าถอยไปข้างหลังพลันกระโจนขึ้นในอากาศอีกครั้ง มันแลบลิ้นขู่ฟ่อใส่ปู้ฟาง ดวงตาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น
ชายหนุ่มพาดมีดทำครัวไว้บนบ่า จากนั้นก็เลิกคิ้วขึ้นแล้วเหลือบตามองงูเหลือม เขาค่อยๆ เดินเข้าไปหาเจ้าอสูรร้าย
ในเวลาเดียวกัน เหล่าอสูรเวทที่ล้อมเผ่าเอาไว้ก็เลิกโจมตีเกราะป้องกัน ทุกตัวต่างคำนับราบลงกับพื้น พลังที่มีดทำครัวกระดูกมังกรทองปล่อยออกมาแข็งแกร่งมากจนตรึงรางกายของพวกมันไว้กับที่
ปู้ฟางเดินไปหางูร้าย มือหนึ่งถือมีดทำครัวเอาไว้ ชายหนุ่มพาดสันมีดไว้บนบ่า
งูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬสะดุ้งเฮือกพลางมองปู้ฟางด้วยสายตาเกรงกลัว ด้วยความที่มันเป็นอสูรเวทเลื้อยคลาน จึงมีสายเลือดของมังกรอยู่ในกายเช่นกัน ทุกครั้งที่งูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬลอกคราบ สายเลือดของมันจะเข้มข้นจนเข้าใกล้ความเป็นมังกรมากขึ้นไปอีก ด้วยเหตุนี้มันจึงต่อต้านไม่ได้แม้แต่น้อยเมื่อเจอเข้ากับมังกรตัวจริง
ฟ่อ…
งูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬดิ้นเร่าๆ ด้วยความเจ็บปวด หนังของมันยังคงลอกออกมาอย่างต่อเนื่อง ความเจ็บปวดจากการลอกคราบนั้นไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะเข้าใจได้อย่างแน่นอน
การลอกคราบดำเนินมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว… หากงูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬไม่กลืนฝักบัวเข้าไปตอนนี้ มันจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน ผลของความผิดพลาดนี้คือมันต้องใช้เวลารักษาอาการบาดเจ็บไปอีกหลายร้อยปีกว่าจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้เจ้างูร้ายคิดว่าการปรากฏขึ้นของดอกบัววิญญาณประมุขน้ำแข็งเป็นโอกาสทองของมัน แต่ใครจะไปคาดคิดว่าจะมีมนุษย์ที่ครอบครองมีดทำครัวกระดูกมังกรทองโผล่มาชนิดไม่มีปี่มีขลุ่ย ใครกันจะไปทำนายโชคชะตาที่แสนจะรันทดนี้ได้
ปู้ฟางโบกมีดทำครัวในมือ จากนั้นก็ผลักมีดเข้าใส่งูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬ แสงสีทองเบาบางที่ไหลวนอยู่บนพื้นผิวของมีดทำครัวพลันกระจายออกเหมือนกลุ่มควัน แล้วพุ่งเข้าไปในโพรงจมูกของงูเหลือมทันที
ร่างของงูเหลือมสั่นสะท้าน มันหมดสิ้นซึ่งความกล้าที่จะต่อต้าน… เนื่องจากถูกกดเอาไว้ด้วยสายเลือดภายในกาย
ปู้ฟางมองงูเหลือมทมิฬตรงหน้าอย่างไร้ความรู้สึก การที่เขาถือมีดทำครัวกระดูกมังกรทองอยู่ แปลว่ามันจะต่อต้านเขาไม่ได้อย่างแน่นอน ความจริงแล้วมีดของเขาสามารถกดพลังของอสูรเวทระดับเจ็ดเอาไว้ได้เล็กน้อยเท่านั้น แต่จะมีพลังมากเป็นพิเศษหากอสูรเหล่านั้นมีสายเลือดของมังกรอยู่ในตัว อย่างเช่นงูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬและวัวมังกรพเนจรนั่นเอง เพราะเป้าหมายในการวิวัฒนาการของพวกมันคือการพยายามกลายเป็นมังกรให้ได้ ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงต้องยอมศิโรราบให้พลังของมังกรตัวจริง
พรวด!
ชายหนุ่มวาดมีดทำครัวกระดูกมังกรทองลง จากนั้นเลือดสดๆ ก็สาดกระจายไปทั่ว
ปู้ฟางมองงูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬที่ดิ้นพราดๆ อยู่ในกองเลือดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก…
“ขั้นปราณของเจ้าจัดการยาก วันนี้ข้าจะตัดแค่มงกุฎเลือดของเจ้าทิ้งก็แล้วกัน ไสหัวไปเสีย” ชายหนุ่มเอ่ย
งูเหลือมมงกุฎเลือดทมิฬคำรามตอบกลับพร้อมแลบลิ้นสีดำสนิทขู่ฟ่อ ดวงตาของมันเต็มไปด้วยความขุ่นข้องใจ แต่เมื่อหันไปมองมีดทำครัวกระดูกมังกรทองบนบ่าของปู้ฟาง… มันก็เลือกถอยหนีในที่สุด
หลังจากขู่ฟ่อเป็นครั้งสุดท้าย งูเหลือมยักษ์ก็ขดตัวแล้วเลื้อยหนีเข้าไปยังส่วนลึกของหนองน้ำปราณมายาอย่างรวดเร็ว มันหายตัวไปในพริบตา
เมื่อสูญเสียผู้นำ บรรดาอสูรเวทน้อยใหญ่ก็ล่าถอยไปเช่นกัน สัตว์ร้ายทุกตัวหายวับไปเหมือนกระแสน้ำลง
ปู้ฟางถอนหายใจออกมาเบาๆ โซเซไปเล็กน้อย มีดทำครัวกระดูกมังกรทองในมืออับแสงลงทันที แสงสว่างเจิดจ้าค่อยๆ หายไป มีดเปลี่ยนสภาพไปเป็นมีดทำครัวสีดำสนิทอีกครั้ง จากนั้นก็กลายเป็นกลุ่มควันสีเขียวแล้วกลับเข้าไปในข้อมือชายหนุ่ม
มีดทำครัวกระดูกมังกรทองนี้ใช้พลังปราณเที่ยงแท้ในการควบคุมไม่น้อย แม้ตอนนี้ชายหนุ่มจะมีพลังมากกว่าตอนที่ยังเป็นผู้ฝึกตนระดับสี่ขั้นจิตยุทธการ แต่ก็ทำได้เพียงตัดมงกุฎเลือดของงูเหลือมออกเท่านั้น
ขั้นปราณของปู้ฟางตอนนี้ทำให้เขาไม่สามารถสังหารงูเหลือมยักษ์ได้ เนื่องจากเกล็ดของมันแข็งเกินไป ชายหนุ่มต้องใช้พลังปราณปริมาณมากในการตัดผ่านผิวหนังของมัน แต่ตอนนี้ตัวเขาเองไม่สามารถส่งพลังปราณขนาดนั้นเข้าไปในมีดทำครัวกระดูกมังกรทองได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD