โอวหยางเสี่ยวอี้เดินกระโดดโลดเต้นมาตามถนน พอเลี้ยวเข้าตรอกก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นแถวเรียงยาวจากหน้าร้าน
นางเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่บ้างในแถว คนเหล่านี้เป็นลูกค้าประจำของร้าน ส่วนคนอื่นๆ นั้นเด็กหญิงไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน…
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเมื่อเช้าข้าถึงไม่ได้ยินเสียงกรนของพวกท่าน ที่แท้ก็แอบออกมาที่ร้านนายท่านตัวเหม็นเพราะหิวเหล้าน่ะเอง!” โอวหยางเสี่ยวอี้เห็นสามใบหน้าและร่างหนาเตอะตะที่คุ้นเคยทันทีที่ก้าวขาเข้าร้าน จะเป็นใครไปได้อีกนอกจากพี่ชายสุดทึ่มทื่อทั้งสามของนางนั่นเอง
สามยักษ์ร้ายแห่งตระกูลโอวหยางหันหน้ามามองน้องสาวของตน ใบหน้าของพวกเขาย่นยู่เปื้อนไปด้วยความหดหู่
โอวหยางเสี่ยวอี้ชะงักทันที พี่ข้า… เหตุใดจึงออกมาอาละวาดทำหน้าเหมือนยักษ์ปักหลั่นใส่ชาวบ้านกลางวันแสกๆ เช่นนี้
“สุราชนิดนี้ของเถ้าแก่ปู้… แพงจนข้าอยากไปกระโดดหน้าผาตาย” พี่ชายคนโตโอวหยางเจินทำปากเบะด้วยความไม่พอใจ ทั้งสามเอาเงินมาไม่พอจ่ายแม้แต่จอกเดียว ช่างเป็นอะไรที่… ซวยเสียยิ่งกว่าซวย
ใครจะไปคิดว่าสุราชนิดใหม่ของเถ้าแก่ปู้จะแพงเหมือนเป็นบ้า แถมยังขายเป็นจอกด้วย!
แล้วจอกหนึ่งมีสุราอยู่เท่าไหร่น่ะหรือ… อมยังได้ไม่เต็มปากเลย
“เสี่ยวอี้น้องรัก ให้พี่ชายของเจ้ายืมเงินหน่อยได้หรือไม่” โอวหยางอู๋ใจกล้าหน้าด้านเขยิบเข้ามาใกล้โอวหยางเสี่ยวอี้ ทำให้น้องคนเล็กรีบระวังตัวแจขึ้นมาทันที
โอวหยางเสี่ยวอี้เบิกตามองรายการใหม่บนป้ายด้วยความตกใจ นางกวาดสายตาลงไปตามรายการอาหาร แล้วก็เห็นรายการใหม่อยู่ที่ด้านล่าง…
“สุราตื่นรู้เพลิงน้ำแข็ง จอกละห้าร้อยผลึก”
เด็กหญิงถึงกับทำอะไรไม่ถูก จอกละ… ห้าร้อยผลึกรึ นายท่านตัวเหม็นใส่เลขศูนย์ผิดหรือเปล่า สุราบ้าบออะไรจะราคาห้าร้อยผลึกกัน ขนาดสุราหัวใจหยกเยือกแข็งยังราคาไม่ถึงหนึ่งในสิบของสุราใหม่นี้เลย
ไม่แปลกใจเลยที่พี่ชายของนางต้องมายืมเงินนาง…
“เสี่ยวอี้น้องรัก สุรานี้ยั่วยวนใจเกินไป หากพี่ของเจ้าไม่ได้ดื่มในวันนี้คงนอนไม่หลับเป็นแน่ หากข้าต้องก้าวเดินต่อไป เข่าคงอ่อนยวบยาบเหมือนจะลงแดงตาย…” โอวหยางตี้ทำหน้าโศกาอาดูรเสียเต็มประดาเหมือนกำลังเจ็บปวดไปทั้งกายและใจ
ชายร่างหนาเหมือนยักษ์ทั้งสามกำลังปรับทุกข์กับเด็กหญิงตัวน้อย น้ำหูน้ำตาไหลเป็นสาย ช่างเป็นภาพที่น่าเอาไปฉายในงามมหรสพอะไรเช่นนี้
โอวหยางเสี่ยวอี้ลูบใบหน้าพี่ชายของตัวเองคนละที จากนั้นก็หยิบผลึกออกมาจากกระเป๋าเงินแล้วยื่นให้ทั้งสาม แน่นอนว่าคุณหนูอันดับหนึ่งแห่งตระกูลโอวหยางต้องมีเงินถุงเงินถังใช้ไม่ขาดมืออยู่แล้ว
“ขอบคุณนะน้องรัก” โอวหยางเจินดีใจจนแทบเต้นขณะรับผลึกมา เป็นอันว่าตอนนี้ได้มาครบห้าร้อยผลึกเรียบร้อย พอซื้อสุราหนึ่งจอกพอดี
ปู้ฟางใช้กระบวยไม้ไผ่ตักสุรา เสียงน้ำกระฉอกก้องไปทั่วร้าน กลิ่นเองก็ค่อยๆ กระจายออกมา ทำเอาสามพี่น้องพากันมึนไปตามๆ กัน
“นี่สุราตื่นรู้เพลิงน้ำแข็งที่สั่ง” ปู้ฟางค่อยๆ ส่งจอกสุราให้โอวหยางเจิน ส่วนอีกฝ่ายก็รับมาอย่างระมัดระวังไม่แพ้กัน พฤติกรรมนี้จะว่าใส่ใจก็ใช่ จะว่าน่าขันก็ไม่ผิด
โอวหยางเจินถือจอกเอาไว้ในมือ ส่วนโอวหยางอู๋และโอวหยางตี้ก็จ้องจอกนั้นด้วยสายตากระหาย
ทั้งสามรวมตัวกันที่มุมห้องพลางพูดจาตกลง “สุรามีแค่จอกเดียวเท่านั้น เราทั้งสามต้องเวียนกันจิบ ห้ามใครจิบเกินแม้แต่หยดเดียว!”
โอวหยางอู๋และโอวหยางตี้พยักหน้าเป็นมั่นเป็นเหมาะ
โอวหยางเจินหรี่ตาลงแล้วยกจอกขึ้นจิบหนึ่งที เขาดื่มไปหนึ่งในสามของจอกพอดิบพอดี
จากนั้นชายหนุ่มร่างใหญ่ก็มึนเมารสสุราทันที
โอวหยางอู๋รับจอกสุรามาจากมือพี่ชาย ดมกลิ่นเข้าไปเต็มปอด จากนั้นก็จิบเข้าคอไป กลิ่นสุราระเบิดออกในปาก ทำเอาเขาขนลุกซู่ไปทั้งตัว
สุดท้ายก็มาถึงโอวหยางตี้ที่ดึงจอกมาถือไว้ เขาดื่มสุราที่เหลืออยู่ในจอก…
ภาพชายร่างหนาทั้งสามแบ่งสุราจอกเล็กจิ๋วกันช่างดูน่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งจอกสุราเปลี่ยนมือไป ก็ยิ่งดูน่าอนาถใจมากขึ้นเท่านั้น
แน่นอนว่าหลังจากที่ดื่มเข้าไปหมดจอก ใบหน้าของสามพี่น้องก็เปลี่ยนไปทันที รูม่านตาของพวกเขาขยายกว้าง พลังปราณในร่างกายเริ่มปั่นป่วน
พวกเขาไม่ได้สลบไปในหนึ่งจอกเนื่องจากแบ่งกันดื่ม ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้เมาแต่แค่มึนเท่านั้น
หลังจากที่เฝ้าเพียรฝึกฝนพลังปราณอย่างหนัก สามพี่น้องแห่งตระกูลโอวหยางก็เพิ่งบรรลุขั้นราชันยุทธการไปเมื่อช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ พอได้ดื่มสุราจอกนี้เข้าไป พวกเขาก็รู้สึกเหมือนพลังปราณในร่างกำลังปั่นป่วนเดือดพล่าน
ทั้งสามเดินออกจากร้านมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ จากนั้นก็นั่งลงกับพื้นตรอกเพื่อเริ่มฝึกปราณ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD