ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD นิยาย บท 221

ปู้ฟางเดินออกมาจากครัว จากนั้นยืดเส้นยืดสายแล้วจัดการเช็ดไม้เช็ดมือให้เรียบร้อย ก่อนจะดึงเก้าอี้มานั่งพัก

เขายุ่งวุ่นวายอยู่ในครัวตั้งแต่เช้า เพิ่งจะทำรายการอาหารทั้งหมดที่ลูกค้าสั่งเสร็จไปเดี๋ยวนี้ แน่นอนว่าชายหนุ่มย่อมต้องฉวยโอกาสที่ว่างสักประเดี๋ยวประด๋าวมางีบเสียหน่อย

มู่หลิงเฟิงนั่งอยู่ไกลออกไป เขากำลังซดน้ำแกงปลาขณะมองปู้ฟางเดินออกมาจากห้องครัว ชายหนุ่มมาที่นี่หลายวันแล้ว และรู้สึกได้ว่าเถ้าแก่ปู้ของร้านนี้ยังคงรักษาสีหน้าสงบนิ่งได้อยู่ แม้ภูเขาไฟกำลังจะระเบิดอยู่ตรงหน้าแล้วก็ตาม

แต่หากพูดถึงเรื่องความสามารถในการทำอาหารแล้ว ฝีมือของเถ้าแก่ปู้นั้นจัดได้ว่ายอดเยี่ยมยากหาใครเทียม จนอยู่ในระดับต้นๆ ของอาหารเลิศรสทั้งหมดที่เขาเคยลิ้มลองมาในชีวิตนี้เลยก็ว่าได้

หากไม่ใช่เพราะต้นตื่นรู้ทางห้าสายในร้านแห่งนี้ มู่หลิงเฟิงคงเต็มใจที่จะมากินอาหารหรือมาเพื่อดื่มบ่อยๆ น่าเสียดายนัก…ที่เรื่องนี้คงจบแบบที่สุภาษิตโบราณกล่าวไว้ ว่าสมบัติล้ำค่าอาจนำหายนะมาสู่เจ้าของ ของล้ำค่าอย่างต้นตื่นรู้ทางห้าสายจะทำให้ร้านนี้ต้องพบจุดจบที่ไม่สวยงามอย่างแน่นอน

เขารู้ดีว่าอีกไม่นานร้านอาหารแห่งนี้จะถูกทำลายราบจนไม่เหลือซาก

“ไอ้บ้าเชิ่งมู่นั่นกำลังพาผู้อาวุโสเซี่ยมาที่ร้าน ช่างน่าเสียดายอะไรเช่นนี้…” มู่หลิงเฟิงจิบสุราหัวใจหยกเยือกแข็ง จากนั้นก็ถอนหายใจออกมา

กลุ่มชายฉกรรจ์ร่างหนากำลังเดินอาดๆ อยู่บนถนนในนครหลวง และสุดท้ายก็มาหยุดอยู่ที่ตรอกอันเงียบสงบ

“อยู่ที่นี่รึ” ผู้อาวุโสเซี่ยตวัดสายตามองเชิ่งมู่ กล้ามเนื้อบนใบหน้าดุร้ายสั่นเกร็งตามการขยับ

“ใช่แล้วขอรับ ร้านนั้นตั้งอยู่ในตรอกเล็กๆ แสนธรรมดานี่แหละ” เชิ่งมู่ลูบศีรษะของเสือชีตาห์สีดำที่เขากำลังขี่อยู่ พร้อมหัวเราะหึๆ เบาๆ

ผู้อาวุโสเซี่ยขมวดคิ้วยิ้มเยาะ “ช่างเป็นสถานที่ที่ไกลปืนเที่ยงอะไรเช่นนี้ ต้นตื่นรู้ทางห้าสายจะอยู่ในร้านเล็กๆ ในตรอกแคบๆ เช่นนี้แน่รึ”

แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแต่เดินนำพรรคพวกเข้าตรอกเล็กไป การที่ร้านนี้จะอยู่ในตรอกไกลความเจริญหรือในซอกหลืบอะไรก็แล้วแต่นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญแม้แต่น้อย เพราะจุดประสงค์เดียวของเขาก็คือต้นตื่นรู้ทางห้าสาย ส่วนร้านแห่งนี้…ไม่ใช่เรื่องที่เขาใส่ใจแม้แต่ขี้เล็บ…หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น เขาก็เพียงแค่ต้องทำลายร้านให้ราบเป็นหน้ากลองเท่านั้น

ผู้อาวุโสเซี่ยมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านแล้วหมุนคอกร๊อบแกร๊บ กล้ามเนื้อทุกมัดในร่างกายเต้นตุบเหมือนมังกรที่กำลังตื่นตัว

เชิ่งมู่หยีตาพลางกระโดดลงจากหลังเสือชีตาห์ จากนั้นก็หันหน้าไปหาผู้อาวุโสเซี่ย “ผู้อาวุโสเซี่ยขอรับ เราจะเข้าไปหรือไม่ขอรับ”

“เอาสิ เราไปดูต้นตื่นรู้ทางห้าสายกันก่อนดีกว่า จะเป็นอย่างที่เจ้าว่าจริงๆ น่ะหรือ…เอาเข้าจริงข้าไม่เชื่อคำพูดของเจ้าเลย สมบัติล้ำค่าอย่างต้นตื่นรู้ทางห้าสายจะมาปรากฏในซอกหลืบมั่วๆ ซั่วๆ เช่นนี้ได้อย่างไร” เซี่ยต้าเบ้ปาก

เชิ่งมู่ชะงัก ไม่รู้ว่าจะต้องตอบอย่างไรดี แต่เขาก็รีบหัวเราะกลบเกลื่อนพลางนำพรรคพวกเข้าไปในร้าน

ทันทีที่เดินเข้าร้านมา บรรยากาศอบอุ่นของร้านก็พุ่งเข้าปะทะร่างกาย ทำให้สีหน้าของเชิ่งมู่พลันเปลี่ยนไป เขาเป็นผู้ฝึกตนระดับเจ็ดขั้นนักพรตยุทธการ แปลว่าตัวเขานั้นย่อมอ่อนไหวต่อกระแสพลังปราณเป็นพิเศษ กลิ่นอาหารในร้านหอมหวน ส่วนระดับพลังปราณที่อยู่ในอากาศและในท้องของลูกค้าในร้านก็ยอดเยี่ยมน่าอัศจรรย์ใจไม่ต่างกัน

บรรยากาศภายในกับภายนอกร้านนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ท่วงทำนองตื่นรู้จากต้นตื่นรู้ทางห้าสายพัดเข้าใส่ดวงจิตและหัวใจของทุกคนในร้านเป็นระยะ

“มีต้นตื่นรู้ทางห้าสายอยู่จริงๆ เสียด้วย!” ดวงตาของเชิ่งมู่เป็นประกายขึ้นทันที เขาหันไปมองผู้อาวุโสเซี่ยที่เพิ่งเดินเข้าร้านมา

สีหน้าของอีกฝ่ายดูประหลาดชอบกล

“โปรดดูรายการด้านหลังเพื่อสั่งอาหารเจ้าค่ะ เมื่อตัดสินใจได้แล้วบอกข้าได้เลยนะเจ้าคะ” โอวหยางเสี่ยวอี้ขมวดคิ้วเมื่อเห็นชายร่างกายกำยำแข็งแกร่งหลายคนเดินเข้าร้านมา ร้านนี้เล็กพอสมควร เมื่อมีคนพวกนี้เพิ่มเข้ามาอีกจึงทำให้ดูแคบไปถนัดตา

“สั่งอาหารรึ ฮ่าๆ! แม่หนูน้อย ข้าไม่ได้มากิน ข้ามาเพื่อสมบัติต่างหาก!” เชิ่งมู่หัวเราะลั่น

เด็กหญิงชะงัก ทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ

ปู้ฟางที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ย่นคิ้วพลางมองกลุ่มชายฉกรรจ์

“ไปเอาตัวเจ้าของร้านมาหาข้า บอกมันให้รีบๆ ด้วยเล่าหากยังอยากให้ร้านอยู่รอดไม่กลายเป็นซากไป!” เชิ่งมู่วางท่ามุทะลุดุดัน

ปู้ฟางลุกขึ้นมายืนบังโอวหยางเสี่ยวอี้ไว้ พลางเดินไปหาชายกลุ่มนี้

“ข้าคือเจ้าของร้าน พวกเจ้ามีอะไร”

มู่หลิงเฟิงที่อยู่ไกลออกไปส่ายหน้าทันที เหมือนที่คิดไว้ไม่มีผิด…ไอ้พวกบ้าจากวิหารเทพเจ้าลงทัณฑ์ที่มีแต่กล้ามเนื้อแต่ไร้รอยหยักในสมองเดินทางพาตัวเองมาถึงที่นี่จนได้ แต่เขาเองก็ไม่คิดจะขยับตัวแต่อย่างใด ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมซดน้ำแกงปลาแสนอร่อยต่อไป

“มีอะไรเช่นนั้นรึ มีสิ แน่นอนอยู่แล้ว! ไม่ได้ยินที่ข้าพูดเมื่อครู่รึว่าข้ามาเพื่อสมบัติ อย่ามาทำเป็นไขสือหน่อยเลย รีบส่งต้นตื่นรู้ทางห้าสายมาเดี๋ยวนี้…”

เชิ่งมู่กำหมัด กล้ามเนื้อบนใบหน้าสั่นระริกตามแรงหัวเราะ

ปู้ฟางมองหน้าอีกฝ่ายโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ชายหนุ่มยิ้มพลางเอ่ยตอบ “มีคนมากหน้าหลายตาที่อยากได้สมบัติข้า…เจ้าคิดว่าตนเองเก่งมาจากไหนกัน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD