พรึบ พรึบ พรึบ!
เสียงคนเคลื่อนไหวตัดอากาศดังมาจากทุกทิศทางในนครหลวง บรรดาผู้ฝึกตนมากหน้าหลายตาต่างพากันสะพายอาวุธมุ่งหน้ามายังจุดที่ต้นตื่นรู้ทางห้าสายอยู่ ซึ่งก็คือร้านเล็กๆ ของฟางฟางนั่นเอง
กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้มีแค่ขั้นนักพรตยุทธการเท่านั้น แต่ยังมีขั้นราชันยุทธการและขั้นจักรพรรดิยุทธการปนอยู่ด้วย ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกันกับขั้นนักพรตยุทธการ นั่นคือต้นตื่นรู้ทางห้าสาย
เหมือนที่สุภาษิตโบราณว่าเอาไว้ ลาภมักมาจากโชคเสมอ หากผู้ที่มายืนสังเกตการณ์การต่อสู้กลับโชคดีได้ผลตื่นรู้ทางห้าสายไปครอบครอง เช่นนี้ไม่นับเป็นเรื่องดีหรือ
ผู้โชคดีคนนั้นจะมีชีวิตที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ เขาจะบรรลุขั้นนักพรตยุทธการ จากนั้นก็ก้าวขึ้นเป็นขั้นเทพแห่งสงคราม เผลอๆ อาจจะนอนฝันหวานไปถึงการบรรลุสู่ระดับเก้าขั้นเซียนเทพเลยก็เป็นได้
บรรดาคนเหล่านี้ต่างพุ่งมาที่ร้านของปู้ฟางอย่างรวดเร็วเหมือนฝูงแมลงวันตอมเศษอาหาร
เหล่าสิบสามกองโจรจากเมืองโม่จั่วที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังก็รีบรุดมาที่ตรอกแห่งนี้พร้อมด้วยอาวุธรูปร่างเตะตาเช่นกัน แม้ร้านนี้จะทำให้พวกเขานึกถึงฝันร้ายที่เคยเผชิญ แต่ทุกคนก็อดทนต่อความยั่วยวนใจของผลตื่นรู้ทางห้าสายไม่ได้
หนี่หยันและเยี่ยจึหลิงเองก็มาถึงตรอกพร้อมๆ กัน ม่านตาของทั้งคู่หดแคบเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ตรอกเล็กนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย
ทุกคนล้วนมีพลังปราณแข็งแกร่งจนทำให้บรรยากาศบิดเบี้ยวไปหมด ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครในที่แห่งนี้มีปราณระดับต่ำเลยสักคน และส่วนใหญ่ก็เป็นขั้นนักพรตยุทธการทั้งนั้น
แต่ก็ไม่มีใครกล้าบุ่มบ่ามเข้าไป ตรอกที่ปกติสงบสุขบัดนี้เหลือเพียงเศษซาก กำแพงทะลุเป็นรู ส่วนพื้นก็กลายเป็นทะเลหิน
ร่างอ้วนของเจ้าขาวยืนอยู่ในตรอกเหมือนภูเขาใหญ่ยักษ์ ไม่ไกลกันนั้นเป็นร่างที่คุกเข่าอยู่กับพื้นแต่ไร้ศีรษะ
วืด!
สองสตรีมองสิ่งที่เกิดขึ้นปากอ้ากว้าง
ร่างล่อนจ้อนของตาเฒ่าลอยหวือผ่านไป แล้วมาตกลงกระแทกพื้นที่ข้างๆ พวกนางโดยเอาหน้าลงก่อน
“มีคนโดนจับแก้ผ้าอีกแล้ว…ปีศาจที่ชอบจับคนแก้ผ้าของปู้ฟางนี้ยังไม่ทิ้งลายจริงๆ” หนี่หยันไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี นางรีบปิดตาเยี่ยจึหลิงเอาไว้ เมื่อถูกกันไม่ให้มอง อีกฝ่ายก็ดูเสียดายไปถนัดตา
หนี่หยันมองชายชราแก้ผ้าด้วยสีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์
ใบหน้าเหี่ยวย่นของเปี้ยนฉางกงสั่นเทิ้มไม่หยุด แต่เขาเองก็ไม่กล้าหืออือ หุ่นเชิดตัวนี้แข็งแกร่งเกินไปจนตัวเขายังเทียบไม่ติด ไม่แปลกใจเลยที่ต้นตื่นรู้ทางห้าสายจะมาปรากฏอยู่ในร้านเล็กๆ ไกลปืนเที่ยงเช่นนี้ ในเมื่อมีผู้คุ้มกันที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้อยู่ เหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เรื่องเหนือความเข้าใจอีกต่อไป
เขาหยิบเสื้อผ้าอีกชุดออกมาจากกระเป๋าคลังเก็บแล้วจัดการสวมให้เรียบร้อย เปี้ยนฉางกงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย แต่ความรู้สึกพอใจนั้นก็อยู่ไม่นาน พอได้สติเขาก็กลับมาโกรธเกรี้ยวอีกครั้ง
ตัวเขาเองเป็นถึงผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่แห่งวิหารเทพเจ้าแห่งดินแดนป่ารกชัฏ ทั้งยังบรรลุปราณระดับแปดขั้นเทพแห่งสงคราม การที่ผู้สูงศักดิ์อย่างเขาต้องมาถูกจับแก้ผ้าโยนลงบนพื้นถนน ช่างเป็นเรื่องที่น่าอายจนอยากซุกดินหนีเสียจริงๆ
“มองอะไรสาวน้อย!” เปี้ยนฉางกงพาลมาว่าสตรีสองนางที่อยู่ข้างๆ ขณะที่กำลังสวมเสื้อผ้า เขาก็หันไปเห็นหนี่หยันและเยี่ยจึหลิงกำลังจ้องมองมาด้วยดวงตาสงสัยใคร่รู้ ใบหน้าของชายชรามืดลงทันทีพลางรีบเอ่ยปากดุพวกนาง
แน่นอนว่าคนอย่างหนี่หยันไม่ยอมใครง่ายๆ นางทำหน้าบูดเบี้ยวแล้วหันไปว่ากลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คนแก่ใกล้ลงโลงอย่างเจ้าที่ถูกจับแก้ผ้าล่อนจ้อนไม่อายฟ้าอายดิน ยังจะกล้าเปิดปากพูดอีกหรือ คิดว่าร่างกายเหี่ยวๆ ใกล้ตายของตัวเองมันน่าดูจนน้ำลายหยดหรืออย่างไร หน้าไม่อายเสียจริง”
เยี่ยจึหลิงเองก็ก้าวออกมาถลึงตาใส่ชายชราด้วยเช่นกัน
เปี้ยนฉางกงโกรธมากเสียจนแทบกระอักเลือดออกมา พลังปราณภายในกายเขาเริ่มหมุนวน เตรียมตัวจะตบสตรีฝีปากกล้าสองนางนี้ให้ตายคามือ
แต่ทันทีที่กระแสพลังปราณพุ่งออกจากแก่นพลังในร่าง เขาก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ จำได้ทันทีว่ายังมีหุ่นเชิดแสนร้ายกาจยืนอยู่ไม่ไกล
ก๊อบๆ ก๊อบๆ
เสียงเท้าลากระทบพื้นดังขึ้น จากนั้นเจ้าลาก็เดินเอ้อระเหยเข้ามาในตรอกพร้อมด้วยผู้ที่ขี่อยู่บนหลัง
ตาแก่ขี้เมายกสุราขึ้นซด ใบหน้าแดงก่ำพลางยิ้มเผล่ “ใครบังอาจกล้าคิดโจมตีผู้อาวุโสลำดับสามแห่งสำนักความลับแห่งสวรรค์กัน”
ชายขี้เมาจับน้ำเต้าที่เต็มไปด้วยสุราเอาไว้ จากนั้นก็ตวัดสายตาเมามายไปมองเปี้ยนฉางกง เขาเลิกคิ้วขึ้นพลันหัวเราะออกมาอย่างสุขใจ“อ๋อ เจ้านี่เอง ตาแก่เจ้าเก่า”
“เจ้า!” เปี้ยนฉางกงมุ่นคิ้วทันที ตาแก่จากสำนักความลับแห่งสวรรค์นั้นมีพลังปราณแก่กล้าเป็นอันมาก การที่อีกฝ่ายมาเยือนนครหลวงของจักรวรรดิวายุแผ่วในครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากทีเดียว หรือว่าจะมาเพราะผลตื่นรู้ทางห้าสายเช่นกัน
มีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว เพราะหมอนี่หมกมุ่นเรื่องการทำสุรายิ่งนัก และผลตื่นรู้ทางห้าสายก็เป็นวัตถุดิบที่หาได้ยากยิ่ง ทั้งยังมีคุณสมบัติแสนวิเศษ
เสียงคำรามดังมาแต่ไกลในอากาศ จากนั้นร่างหนาก็กระโจนมาหยุดอยู่บนฟากฟ้า
ผู้ที่เพิ่งมาใหม่นี้ปิดบังใบหน้าครึ่งหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากากสีเงิน ไอพลังปราณที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างนั้นแข็งแกร่งมาก
“ผลตื่นรู้ทางห้าสายสุกแล้ว…ข้าไม่ละโมบ ขอเพียงผลเดียวก็พอ” จ่านคงยืนอยู่บนอากาศอย่างสง่างาม สายตามองลงไปยังร้านที่อยู่ด้านล่าง
ขั้นเทพแห่งสงครามอีกแล้ว!
ตาแก่ขี้เมาจิบสุราอีกอึกพร้อมหรี่ตา
เปี้ยนฉางกงมองจ่านคงด้วยสายตามีความหมาย
ขั้นเทพแห่งสงครามนั้นแข็งแกร่งมากก็จริง แต่ในตรอกแห่งนี้…เพิ่งมีขั้นเทพแห่งสงครามคนหนึ่งสิ้นชีพไป!
จ่านคงมุ่นคิ้วเมื่อเห็นว่าไม่มีใครตอบสนองคำขอของเขา เขาก้าวกระโจนไปข้างหน้าแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านพอดิบพอดี
ทันใดนั้นความรู้สึกประหลาดก็แล่นเข้ามาในใจ ดลให้เขาหันเข้าไปมองในร้าน
ปัง ปัง!!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD