ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD นิยาย บท 247

“ท่านป้าหลิว!”

ที่ชั้นหนึ่งของหอวสันต์สุคนธ์ แม่นางหลิวที่กำลังนั่งนวดต้นขาตัวเองอยู่บนเก้าอี้ได้ยินเสียงใครบางคนเรียก นางเงยหน้าขึ้นมองตามสัญชาตญาณ แล้วก็เห็นชุนฮัวที่ทำหน้าเหมือนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีวิ่งลงมา

“เกิดอะไรขึ้น เจ้าลงมาทำไม ทำไมถึงไม่อยู่ดูแลคุณชายน้อยเล่า” ใบหน้าของแม่นางหลิวเต็มไปด้วยความงุนงง นางอุตส่าห์เสียเวลาตั้งนมนานกว่าจะตกเหยื่อเจ้าคุณชายน้อยแสนบื้อให้เข้ามาในนี้ได้ ไม่ว่าจะมองอย่างไรหมอนั่นก็เป็นบ่อทองให้ถลุงดีๆ นี่เอง ดังนั้นจะเพิกเฉยไม่ใส่ใจไม่ได้เป็นอันขาด!

“คืออย่างนี้นะ…ท่านป้าหลิว คุณชายน้อยอะไรของป้าคนนี้น่ะ…เขาดูแปลกพิกล” ใบหน้าน่ารักของชุนฮัวบิดเบี้ยวอย่างประหลาด ดูราวกับนางกำลังกลั้นหัวเราะไว้แต่แทบจะกลั้นไม่อยู่

นี่เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวได้เจอผู้ชายที่แปลกถึงเพียงนี้ เขามาที่หอนางโลมซึ่งเต็มไปด้วยสาวงามมากมายเพื่อลิ้มรสอาหาร ไม่ใช่เพื่อมาหา “ความสุข”

เอาเข้าจริงเขาจะตั้งอกตั้งใจกินอาหารแล้วจากนั้นค่อยหาความ “สุข” ก็ได้ แต่พ่อหนุ่มนักรักคนนี้เอาแต่พูดพล่ามอะไรก็ไม่รู้ขณะกินอาหาร

แม่นางหลิวฟังเรื่องที่ชุนฮัวเล่าด้วยสีหน้าพิศวง ก่อนหน้านี้นางได้ยินปู้ฟางถามว่าที่หอวสันต์สุคนธ์แห่งนี้มีอะไรกินบ้าง ตอนนั้นนางคิดแค่ว่าปู้ฟางเพียงถามเป็นมารยาท ไม่นึกเลยว่าเป็นนางเองที่เข้าใจเรื่องนี้ผิดไป

“เจ้านั่นมาที่นี่เพื่อกินจริงๆ เสียด้วย!”

ดังนั้นทั้งสองสาวจึงรีบกลับไปที่ห้องอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่จะทันก้าวเท้าไปถึงห้อง นางก็ได้ยินเสียงวิพากย์วิจารณ์ของชายหนุ่มดังก้องออกมาไม่หยุดหย่อน

“นี่มันปลาสามรสหรือปลารสเปรี้ยวกันแน่ เหตุใดจึงใส่น้ำส้มสายชูลงไปมากมายราวกับเหลือใช้อีกแล้ว คิดจะดองร่างคนกินไม่ให้เน่าหรืออย่างไร อีกอย่างเนื้อปลานี่ก็เหนียวอย่างกับยาง คนที่ทำอาหารจานนี้เป็นพ่อครัวแม่ครัวหน้าใหม่หรืออย่างไรกัน”

“นี่น่ะหรือน้ำแกงดอกบัว ให้เรียกว่าแป้งเปียกน่าจะเหมาะกว่า หนืดเสียขนาดนี้แถมน้ำล้างจานยังจะมีรสชาติกว่าด้วยซ้ำ พวกเจ้าคิดว่าแค่จัดวางเป็นรูปดอกบัวมันก็จะกลายเป็นน้ำแกงดอกบัวอย่างนั้นรึ”

“แล้วเป็ดย่างบุปผานี่ แค่ถอนขนเป็ดให้เกลี้ยงมันจะตายหรืออย่างไร จะให้ข้ากินเนื้อเป็ดแถมขนเป็ดเช่นนั้นรึ”

ปู้ฟางขมวดคิ้วมุ่น ทุกครั้งที่ตักอาหารขึ้นมาชิม เขาเป็นอันได้พูดจาถากถางออกมาด้วยสีหน้าเดียดฉันท์ทุกคราไป อีกอย่างชายหนุ่มยังเขี่ยอาหารทุกจานทิ้งหมดแถมวิจารณ์เละทุกรายการไม่ให้น้อยหน้ากัน จนทำเอาเหล่าสาวใช้ต่างอึ้งไป อาหารทั้งหมดนี่กินไม่ได้เลยสักจานจริงๆ หรือ

แม้หัวหน้าพ่อครัวของหอวสันต์สุคนธ์จะไม่ได้เก่งกาจเท่าเหล่าหัวหน้าพ่อครัวจากภัตตาคารใหญ่โตในนครใต้ แต่ทักษะการทำอาหารของเขาก็ไม่ถือว่าแย่ รสชาติของอาหารแต่ละจานที่เขาทำจัดได้ว่าอร่อยครบรส แต่ทันทีที่อาหารเหล่านี้ถูกนำมาวางตรงหน้าชายหนุ่มผู้นี้ เหตุใดพวกนางจึงรู้สึกว่ามันกลายเป็นเพียงขยะไร้ค่าไปเสียได้

ทันทีที่แม่นางหลิวเดินเข้าห้องมา นางก็ปรายตามองปู้ฟางที่ยังคงวิพากย์วิจารณ์ไม่หยุดปาก หญิงสาวรู้สึกรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่น้อย ส่วนชิวเยว่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็มีสีหน้ารู้สึกผิดจนแทบจะร้องไห้ออกมา

“ตายแล้ว คุณชายน้อย เกิดอะไรขึ้นกันเจ้าคะ หรือชุนฮัวกับชิวเยว่ดูแลท่านไม่ดี” แม่นางหลิวนั่งลงข้างๆ ปู้ฟางพลางพูดพร้อมรอยยิ้ม

ปู้ฟางไม่ตอบคำถามอีกฝ่าย เขาทำเพียงคีบซี่โครงหมูขึ้นมากัด จากนั้นก็วางซี่โครงคืนใส่จานดังเดิม

“ความร้อนที่ใช้ทอดซี่โครงยังไม่พอ! คนที่ทำอาหารพวกนี้เพิ่งเริ่มเรียนทำอาหารหรืออย่างไรกัน รู้ทั้งรู้ว่าความร้อนของน้ำมันถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำอาหาร แต่อาหารแทบทุกจานที่ทำออกมาไฟแรงไม่ถึงขั้นเลยสักนิด”

แม่นางหลิวกระแอมกระไอใบหน้าเบี้ยวบูด เจ้าเด็กนี่…ถ้าไม่ใช่เพราะหน้าตาท่าทางดูร่ำรวยกระเป๋าหนัก ข้าคงได้ทุบเจ้าน่วมไปนานแล้ว

“คุณชายน้อย หอวสันต์สุคนธ์ของเราไม่ใช่ร้านอาหาร ท่านจะไม่เข้มงวดเกินไปหน่อยหรือ”

รอยยิ้มบนใบหน้าแม่นางหลิวค่อยๆ สลายหายไป ชุนฮัวและชิวเหย่ที่ยืนอยู่ด้านหลังพยักพเยิดตามคำของหญิงสาวทันที

ปู้ฟางเอื้อมตะเกียบไปยังอาหารจานสุดท้าย มันคือซาลาเปาที่ยังคงร้อนกรุ่น กลิ่นที่ลอยออกมานั้นชวนน้ำลายสอไม่น้อย

อาหารจานนี้คือซาลาเปาไส้หมูทอด ซาลาเปาทอดนั้นต้องเอาใส่ในน้ำมันเดือดปุด แล้วทอดจนกว่าจะเป็นสีเหลืองทอง ขณะทอดพ่อครัวแม่ครัวต้องเพิ่มแรงดันไปบนพื้นผิวของซาลาเปา ผิวด้านนอกของซาลาเปาจะต้องกรุบกรอบ ส่วนเนื้อหมูด้านในก็ชุ่มฉ่ำ ส่งกลิ่นหอมยากอดใจไหว

คิ้วของปู้ฟางเลิกขึ้นเมื่อกัดซาลาเปาไส้หมูทอดเข้าไปคำหนึ่ง รสชาติไม่เลวเลย ถือว่าดีกว่าเยอะเมื่อเทียบกับอาหารจานอื่น แต่ข้อบกพร่องก็ยังมีมากจนนิ้วไม่พอนับ

“แป้งที่ใช้ทำซาลาเปาแข็งเกินไป ทำให้ทอดออกมากระด้างกินแล้วเหนียวติดฟัน กลิ่นก็ยังไม่เข้มข้นพอ น้ำมันข้างในยังรีดได้ไม่แห้งดี แปลว่ายังจัดการความร้อนที่ใช้ทอดซาลาเปาไส้หมูนี้ได้ไม่ดีนัก…”

“คุณชายน้อย!”

แม่นางหลิวจ้องหน้าปู้ฟางที่กลายร่างเป็นเครื่องจักรนักพูดตาเขม็ง เมื่อได้ฟังคำวิจารณ์ของอีกฝ่าย นางก็ผงะไปก่อนจะรีบเอ่ยขัดขึ้นมา

สีหน้าของปู้ฟางยังคงตายด้าน เขาวางตะเกียบลงแล้วพูดขึ้น “ไม่ว่าสถานที่แห่งนี้จะประกอบสัมมาอาชีพอะไร แต่ในเมื่ออุตสาหะจัดเตรียมอาหารให้ลูกค้าได้ ก็ย่อมต้องรับผิดชอบอาหารที่ทำด้วยเช่นกัน อย่างไรเสียอาหารก็เป็นหนึ่งในวิธีที่จะดึงลูกค้าเข้าร้านได้ ในฐานะพ่อครัวแม่ครัว ถึงอย่างไรก็ต้องใส่ใจกับอาหารทุกจานที่ทำ ว่ากันตามตรงแล้ว…มันจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเจ้าทั้งหลายด้วยซ้ำ”

สีหน้าของแม่นางหลิวเย็นชาขึ้นกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำพูดของปู้ฟาง อาหารนั้นมีไว้กิน แค่ทำให้คนอิ่มท้องได้ก็เพียงพอแล้ว การมากินอาหารที่หอสวันต์สุคนธ์ก็เพื่อให้ท้องอิ่ม จะได้มีแรงพลังไปทำในสิ่งที่ทุกคนต่างก็รู้กันดี

แต่ทำไมพอเป็นพ่อหนุ่มคนนี้ มันถึงได้มีอุปสรรคมากมายขวางหน้านางเสียจริง พ่อหนุ่มนักรักนี่ต้องมาที่นี่เพื่อก่อเรื่องเป็นแน่ หรือความจริงแล้วเขาจะเป็นพ่อครัวมืออาชีพกันนะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD