ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD นิยาย บท 259

กระแสคลื่นพัดโหมปั่นป่วน ตีเอากลิ่นเค็มของทะเลขึ้นมา

เหลียนฟู่ยืนเอามือไพล่หลังอยู่ในเรือลำน้อยเดียวดาย ผมสีขาวปลิวสยายไร้ระเบียบ นัยน์ตาจับจ้องอยู่ที่ร่างของจีเฉิงอวี่บนหัวเรือลำใหญ่

“หัวหน้าขันทีเหลียน ไม่เจอกันเสียนานเลยนะ ชีวิตเป็นอย่างไรบ้างเล่า” ดวงตาของคนทั้งคู่สบกันอยู่นานก่อนจีเฉิงอวี่จะเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนา น้ำเสียงเย็นเยียบของชายหนุ่มสะท้อนก้องท่ามกลางมหาสมุทรเวิ้งว้าง

เหลียนฟู่ยู่ปาก เอียงศีรษะเล็กน้อยขณะจับจ้องจีเฉิงอวี่ไม่วางตา น้ำเสียงเฉียบคมของเขาเจือความแหบพร่าของวัยชรา

“ราชาอวี่เอ๋ยราชาอวี่… ตอนที่ท่านทำผิดแล้วถูกจักรพรรดิองค์ก่อนลงทัณฑ์ให้ไปเฝ้าสุสานหลวง เหตุผลก็เพราะท่านเป็นโอรสของพระองค์ถึงได้ยังรักษาชีวิตไว้ได้ ท่านควรจะรับโทษตามนั้น เฝ้าสุสานและสำนึกผิดในฐานะที่อกตัญญูต่อผู้เป็นบิดา เหตุใดจึงเลือกหลบหนีออกมาเช่นนี้ การกระทำของท่านทำให้ข้าตกที่นั่งลำบากไม่น้อย”

กระแสน้ำในมหาสมุทรรุนแรงบ้าคลั่ง คลื่นขนาดใหญ่โถมเข้าใส่ท้ายเรือลำน้อยไม่ขาดสาย ส่งให้มันเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม

ดังนั้นใช้เวลาไม่นานเรือลำน้อยของเหลียนฟู่ก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าเรือลำใหญ่

“ผนึกขั้นปราณของข้า ถอดยศข้าทิ้ง… ช่างเป็นบิดาที่ดีเสียนี่กระไร ความจริงข้าเองก็อยากทำตัวเป็นลูกที่ดี แต่ก็ไม่คิดจะกวาดสุสานของเขาไปวันๆ เหมือนสุนัขจนตรอกหรอกนะ” นัยน์ตาของจีเฉิงอวี่ที่กำลังมองเหลียนฟู่ราวกับมีสายฟ้าฟาดอยู่ภายใน เขาก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง พลางยกขาข้างหนึ่งเหยียบกราบเรือไว้พลางเหยียดยิ้ม

สายตาของจีเฉิงอวี่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานเหลือล้น “ข้า จีเฉิงอวี่คนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสามารถหรือขั้นปราณ ล้วนดีงามกว่าจีเฉิงเสวี่ยทั้งสิ้น คนที่คู่ควรกับบัลลังก์จักรพรรดิคือข้า แล้วเหตุใดมันจึงตกไปอยู่ในมือน้องสามที่ไม่เอาอ่าวของข้าได้เล่า ข้าถามหน่อยเถิด ข้าด้อยกว่าเจ้านั่นตรงไหนไม่ทราบ

“ข้าไม่คิดว่าตัวเองด้อยกว่า และหากท่านพ่ออยากให้ข้าคิดเช่นนั้นจริงๆ เขาก็ควรหักแข็งหักขาข้าให้ง่อยเปลี้ยเสียตั้งแต่แรก ทว่าเขากลับไม่ทำเช่นนั้น” จีเฉิงอวี่กล่าว

เหลียนฟู่ทอดถอนใจ เขารับรู้ถึงความโกรธแค้นภายในใจของจีเฉิงอวี่มาตลอด แม้ตอนที่ถูกทำให้อับอายด้วยการต้องไปกวาดสุสานของจักรพรรดิองค์ก่อน ดวงตาของชายหนุ่มจะไร้อารมณ์เหมือนสายน้ำนิ่ง แต่ขันทีชรากลับรู้สึกได้ถึงเปลวแค้นที่พัดโหมอยู่ภายในใจของจีเฉิงอวี่ซึ่งไม่เคยมอดดับ

“แต่ท่านฝ่าฝืนคำสั่งของจักรพรรดิองค์ก่อน ข้าน้อยผู้นี้จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนำตัวท่านกลับไป” แม้น้ำเสียงของเหลียนฟู่จะแหบพร่าแต่วาจากลับแจ่มชัด

“ข้ารู้… รู้ว่าจุดประสงค์ของหัวหน้าขันทีเหลียนคือการพาข้ากลับไปยังสุสานจักรพรรดิ เพื่อไปเผชิญหน้ากับหลุมศพเย็นเยียบไร้ชีวิตเหล่านั้นอีกครั้ง แต่หากข้าไม่คิดจะไปเล่า ท่านจะทำเช่นไรหรือ”

จีเฉิงอวี่กอดอกแน่นมองเหลียนฟู่อย่างโอหัง สายตาฉายแววท้าทายไม่แยแส

เหลียนฟู่จ้องเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย ยกมือขึ้นจีบนิ้วโป้งและนิ้วกลางเข้าด้วยกัน

“เช่นนั้นข้าก็จะอัดท่านให้น่วมแล้วแบกท่านกลับไปเอง”

เสียงกรีดร้องโหยหวนดังกึงก้องปลุกสติของเหล่าผู้ฝึกตนขั้นจักรพรรดิยุทธการที่ยังคงจดจ่ออยู่กับความเก่งกาจของปู้ฟางให้ตื่นขึ้นมา

“เวรเถอะ! ไอ้อสูรนี่มันบ้าคลั่งขึ้นมาอีกแล้ว!”

หัวใจของผู้ฝึกตนขั้นจักรพรรดิยุทธการคนหนึ่งสั่นสะท้านขณะตะโกนออกมาด้วยความตื่นกลัว

ทุกครั้งที่อสูรเวทตัวนี้บ้าคลั่ง มันจะโจมตีใส่กำแพงเมืองไม่หยุดหย่อน กิริยานี้ของมันทำเอาทุกคนงุนงงไม่น้อย และขณะนี้มันก็กลับมาบ้าคลั่งอีกครั้งแล้ว!

ปู้ฟางเพ่งสายตาไปยังจุดหนึ่งนอกเมืองนครใต้ ไม่แน่ว่าเหตุผลที่เหล่าผู้ฝึกตนขั้นจักรพรรดิยุทธการไม่พบต้นเหตุกิริยาแปลกๆ ของอสูรเวท อาจเป็นเพราะพวกเขามัวแต่ตะลึงกับวิธีการของปู้ฟางก็เป็นได้ แต่ชายหนุ่มนั้นสังเกตไอ้ปลาอ้วน… เอ่อ ปลาอสูรเวทขนาดยักษ์นี่มาตั้งแต่ต้น ดังนั้นเขาจึงรู้กระจ่างว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับปลาปีศาจตรงหน้า

ลูกธนูร่องแร่งที่พุ่งผ่านเส้นขอบฟ้าตรงเข้าปักกลางหลังของปลายักษ์ เป็นตัวการที่ทำให้ปลาอสูรเวทอาละวาดขึ้นมาอีกครา

“มีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้สินะ” ปู้ฟางหรี่ตา มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย

ปู้ฟางครุ่นคิดถึงเหตุผลที่จู่ๆ ไอ้ปลาหัวโตตัวอ้วนปี๋นี้ก็มาปรากฏตัวในแม่น้ำมังกรแห่งเมืองนครใต้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย…

ความหวาดกลัวที่ปลาอสูรเวทบ้าคลั่งมีต่อพลานุภาพของมังกรซึ่งส่งออกมาจากมีดทำครัวกระดูกมังกรทองลดทอนลงไปมาก มันอ้าปากที่มีฟันแหลมคมเรียงกันแน่นเพื่อส่งเสียงร้องโหยหวน กลิ่นคาวปลาฉุนจมูกแรงขึ้นกว่าเดิม ดวงตาสีแดงก่ำมองเขม็งมาที่ปู้ฟางผู้ซึ่งถือมีดทำครัวเปล่งแสงสีทองสว่างเจิดจ้าไม่วางตา ท่าทางของมันเกรี้ยวกราดพร้อมเอาเรื่องเป็นอย่างมาก

ตู้ม!

กรงเล็บขนาดมหึมาอีกข้างกระทืบลงบนพื้นอย่างรุนแรง จากนั้นปลาปีศาจก็พุ่งเข้าใส่ปู้ฟางด้วยความเร็วที่ไม่ต่างอะไรจากสายฟ้าแลบ

หัวใจของเหล่าผู้ฝึกตนขั้นจักรพรรดิยุทธการหลายคนเต้นรัว ความรู้สึกหวาดกลัวแพร่ขยายไปทั่วร่าง

ปู้ฟางมองปลาตัวใหญ่ยักษ์ด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ไม่มีแม้ร่องรอยตื่นตกใจใดๆ

ปลาปีศาจขนาดยักษ์ที่ดูเหมือนกระเหี้ยนกระหือรืออยากกัดเขาให้จมเขี้ยวขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ ในสายตาของชายหนุ่มเมื่อมันตรงรี่เข้ามาใกล้

ทว่าจู่ๆ ร่างของปู้ฟางก็หายไปจากจุดที่เคยยืน ชายหนุ่มพุ่งตัวขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะทิ้งตัวลงบนหัวของอสูรเวทปลา

อสูรเวทระดับเจ็ดทุกตัวล้วนมีพลังกดดันรุนแรง ซึ่งสามารถกดข่มผู้ฝึกตนขั้นจักรพรรดิยุทธการหรืออสูรเวทระดับหกได้อย่างไร้การต้านทาน ทว่าปู้ฟางนั้นกลับไม่ได้รับผลกระทบจากพลังกดดันนี้แม้แต่น้อย เขาสามารถตรงเข้าจู่โจมอีกฝ่ายได้ง่ายดายไร้อุปสรรคเหมือนที่ทำครั้งก่อน เป็นอสูรเวทปลาเสียอีกที่ถูกพลานุภาพของมังกรข่มเอาไว้จนไม่อาจต่อต้านได้

ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มจึงไม่รู้สึกหวาดกลัวอสูรเวทปลาตัวนี้แม้แต่น้อย แม้เขาจะยังไม่บรรลุขั้นจักรพรรดิยุทธการก็ตาม

ปู้ฟางตีลังกากลางอากาศขณะกวัดแกว่งมีดทำครัวกระดูกมังกรทองไปด้วย มีดทำครัวกระดูกมังกรทองเป็นอุปกรณ์กึ่งเทพที่คมกริบ เกล็ดของปลาอสูรมังกรพินาศไม่อาจต้านทานความคมของมีดทำครัวเล่มนี้ได้แม้สักเสี้ยว

ปู้ฟางเสียบมีดทะลวงร่างอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดายราวตัดผ่านกระดาษ มีดทำครัวกระดูกมังกรทองแทงทะลุเนื้อของอสูรเวทปลาจนเลือดเริ่มสาดกระเซ็นไปทั่ว

ร่างของปลาปีศาจสั่นเทิ้มไปครู่ใหญ่เมื่อเกล็ดของมันถูกทะลวงจนเปิดออก

“ช่างอ้วนท้วนเสียจริง รสชาติของเนื้ออสูรเวทระดับเจ็ดย่อมไม่ทำให้ผิดหวังแน่” ปู้ฟางพึมพำ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

จากนั้นเขาก็พ่นลมออกมาเฮือกใหญ่ เพ่งดวงตาเขม็ง ชายหนุ่มกำมีดในมือแน่นก่อนจะเริ่มวิ่งไปบนหลังของปลายักษ์

ปู้ฟางเคลื่อนไหวรวดเร็วทั้งที่สีหน้ายังเรียบเฉย แขนเสื้อสีขาวโบกสะบัด เส้นผมพัดพลิ้วไม่เป็นทรง

ครืดดด!

เสียงโลหะรูดกับเนื้อดังขึ้น ขณะที่ปู้ฟางวิ่งตรงไปด้านหน้า เลือดของปลายักษ์ก็ไหลทะลักออกมาตามบาดแผลที่เกิด อสูรเวทปลาเริ่มโหยหวนเสียงแหลม มันคลุ้มคลั่งสะบัดตัวแรงขึ้นกว่าเดิม

ปู้ฟางกระโจนขึ้นไปในอากาศ สองมือกำแน่นอยู่บนด้ามของมีดทำครัวกระดูกมังกรทอง ก่อนจะปักมีดลงบนร่างของปลายักษ์เต็มกำลัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD