ตู้ม!
หลังคากระเบื้องสีดำขลับพังทลายลงในพริบตา รัศมีที่แผ่ซ่านออกมาจากกายเจ้าขาวเปลี่ยนเป็นสีม่วงประหลาด มันส่องประกายเจิดจ้าจนทำให้ร่างของผู้ที่ได้เห็นชาไปทั้งตัว
เซียวเยียนอวี่เสียการทรงตัวเพราะหลังคาที่ถล่มลงมา นางคว้าตัวเซียวอวี่ไว้ได้ก่อนจะรีบกระโจนไปบนหลังคาที่อยู่ใกล้ๆ นัยน์ตาจ้องเขม็งไปยังตำแหน่งที่เจ้าขาวยืนอยู่
“นี่มันเรื่องอะไรกัน หุ่นเชิดของศิษย์พี่… ทำไมถึงได้ดูแปลกไป” เซียวอวี่จ้องมองเจ้าขาวที่กำลังห้อตะบึงไปข้างหน้าด้วยความงุนงง ใบหน้าตื่นตะลึง
เซียวเยียนอวี่ปรายตามองเด็กหนุ่ม พลางตอบน้ำเสียงเยือกเย็น “เจ้าจะได้รู้ในไม่ช้าแล้วว่าเหตุใดเถ้าแก่ปู้ถึงบอกว่าเจ้าเก็บเจ้าขาวไว้ไม่ได้…”
เจ้าขาวน่าสะพรึงกลัวเพียงใด ตัวนางรู้ดีอยู่แก่ใจเพราะเคยประสบมาด้วยตนเอง ตอนนั้นแค่แรงกระแทกที่เป็นผลพวงจากการต่อสู้ของเจ้าขาวก็ทำให้นางได้รับบาดเจ็บแล้ว ดังนั้นอย่าปล่อยให้พุงอ้วนกลมน่ารักนั่นหลอกเอาเด็ดขาด เพราะเมื่อใดก็ตามที่มันเริ่มต่อสู้ ต่อให้เป็นระดับแปดขั้นเทพแห่งสงครามก็เอาชนะมันไม่ได้
ลำแสงสีม่วงสองสายที่พุ่งสูงขึ้นไปราวกับจะผ่าแยกท้องฟ้าเคลื่อนที่ไปพร้อมเสียงแหลมสูง ดังก้องกัมปนาทไปตลอดทาง
ปู้ฟางนั่งอยู่กับพื้นพลางหอบหายใจ ตอนนี้เขาใช้พลังปราณเที่ยงแท้ที่อยู่ในกายไปแทบหมดสิ้นแล้ว ชายหนุ่มพยายามรีดเอาพลังปราณเที่ยงแท้จากจุดตันเถียนที่กำลังหมุนวนไม่หยุดออกมา เพื่อไปหล่อเลี้ยงเส้นปราณในร่าง
เมื่อไร้ซึ่งพลังปราณเที่ยงแท้มาหล่อเลี้ยง มีดทำครัวกระดูกมังกรทองก็กลายเป็นควันสีเขียว ก่อนกลับไปอยู่ในรอยสลักบนข้อมือขวาของชายหนุ่มในพริบตา
ริมฝีปากของปู้ฟางยกขึ้นเล็กน้อยขณะกวาดตามองซากศพมหึมาของปลาอสูรมังกรพินาศ
ไกลออกไปเงาที่ในชุดคลุมสีดำและหมวกไม้ไผ่ห้าเงากำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว รัศมีและระดับพลังปราณของคนทั้งห้าต่างรุนแรงเหลือร้าย พวกเขาล้วนอยู่ในระดับหกขั้นจักรพรรดิยุทธการ
“ปลาอสูรมังกรพินาศถูกบั่นคอแล้ว ภารกิจป่วนเมืองนครใต้เป็นอันล้มเหลว หากกลับไปตอนนี้…เราต้องถูกท่านมหาพรตลงโทษเป็นแน่ จงไปจับเป็นไม่ก็จับตายเจ้าหนุ่มที่ทำแผนของเราพังให้ได้ ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องมีคำอธิบายกลับไปให้ท่านมหาพรต”
เสียงแหบห้าวดังสั่งการ จากนั้นเสียงรับคำก็ดังขึ้นมาเป็นทอดๆ
ร่างทั้งห้าที่กำลังเคลื่อนตัวผ่านความว่างเปล่าดูราวกับเป็นกระบี่สีดำสนิทห้าเล่ม พวกเขามุ่งหน้าตรงไปยังปู้ฟาง รังสีสังหารรุนแรงแผ่ซ่านออกมาจากร่าง
รังสีสังหาของพวกเขาเข้มข้นขึ้นตั้งแต่เมื่อเห็นปู้ฟางโผล่เข้ามาวุ่นวายกับแผนการที่ดำเนินไปได้ครึ่งทาง พวกเขาทั้งห้าถึงกับต้องสละโอสถทิพย์เม็ดสุดท้าย แต่จนแล้วจนรอดเจ้าหนุ่มคนนี้ก็ยังสังหารอสูรเวทระดับเจ็ดได้อยู่ดี แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่ปรานีผู้ที่มาขัดขวางแผนการเป็นอันขาด
“รีบฉวยโอกาสตอนที่มันยังอ่อนแรงฆ่ามันเสีย!”
ตู้ม! ผู้นำของกลุ่มรั้งสายธนูสีดำสนิทจนตึง พลังปราณเที่ยงแท้ไหลบ่าเข้าท่วมทั้งลูกธนูและคันธนู เมื่อเขาปล่อยมือ ลูกธนูยาวก็พุ่งทะยานออกไป
สี่คนที่เหลือหยิบอาวุธออกมาตามๆ กัน พลางเริ่มต้นโจมตี
บรรดาผู้ฝึกตนของเมืองนครใต้เริ่มรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว ลูกธนูสีดำสนิทพร้อมกระแสพลังน่ากลัวถูกยิงออกมาแล้ว เป้าหมายคือของปู้ฟางที่กำลังอ่อนแอไร้เรี่ยวแรว
ความทรงพลังและกระแสพลังรุนแรงที่อยู่ภายในลูกธนูเพียงพอที่จะระเบิดและสังหารปู้ฟางได้ในคราวเดียว!
“บัดซบ! พวกเจ้าเป็นใครกัน!”
นัยน์ตาของบรรดาผู้ฝึกตนเมืองนครใต้ลุกโชนด้วยโทสะ พวกเขาตะโกนออกมาสุดเสียงอย่างโกรธเกรี้ยว
ทว่าชายชุดดำทั้งห้าไม่ได้สนใจคนเหล่านี้แม้แต่น้อย เป้าหมายของพวกเขาคือปู้ฟางเท่านั้น
ปู้ฟางเลิกคิ้ว มสีหน้าตื่นตกใจ คนพวกนี้ต้องเป็นผู้ที่บงการปลาอสูรมังกรพินาศอยู่เบื้องหลังแน่ พอเห็นปีศาจในบังคับบัญชาตายลงด้วยน้ำมือของเขา ก็คงจะหมดความอดทนกันแล้ว
ปู้ฟางถอนหายใจออกมาเบาๆ ริมฝีปากเผยอขึ้นเล็กน้อย
ฟึ่บ…
ลำแสงสีม่วงสว่างเจิดจ้าสองลำพุ่งลงมาจากฟากฟ้า ในอึดใจเดียว ลำแสงนั้นก็หยุดลงตรงหน้าปู้ฟาง
ลูกธนูสีดำสนิทชนเข้ากับลำแสงสีม่วงอย่างจังก่อเกิดเป็นแรงระเบิดรุนแรง!
ฝุ่นควันตลบฝุ้งไปทั่วพร้อมลมแรงจากการระเบิด
กระแสลมพัดผมของปู้ฟางจนยุ่งไม่เป็นทรงขณะที่เขาทรงตัวลุกขึ้น ชายหนุ่มจ้องมองไปที่กลุ่มคนทั้งห้าด้วยสายตาสงบนิ่ง
เมื่อฝุ่นควันจางหายไป ร่างอ้วนท้วนสีขาวก็ปรากฏให้เห็น จิตสังหารแผ่ออกมาจากนัยน์ตาจักรกลสีม่วงแวววาวของมัน ทำเอาทุกคนที่ได้เห็นต่างรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน
ปู้ฟางยกมือตบพุงพลุ้ยของเจ้าขาวเบาๆ นัยน์ตาของชายหนุ่มเย็นยะเยือก เขาหันหลังกลับมาอีกทางโดยไม่พูดจา ก่อนจะเริ่มวัดซากของปลาปีศาจ
เจ้าขาวหมุนตัว ตอนนั้นเองเศษฝุ่นที่อยู่ใต้เท้าของมันก็ปลิวว่อนไปในอากาศ ร่างกายของเจ้าขาวที่ปกติเชื่องช้าพุ่งออกไปความเร็วราวสายฟ้า ในพริบตาเดียวมันก็ไปปรากฏกายอยู่ตรงหน้าผู้บุกรุกชุดดำทั้งห้า
“จับได้ถึงรังสีสังหารที่มีต่อนายท่าน เปลี่ยนระบบปฏิบัติการ เตรียมสังหาร!”
กำปั้นของเจ้าขาวพุ่งเข้าใส่ชายชุดดำที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อน ขนาดของเจ้าขาวในตอนนี้แม้จะเล็กจ้อยเท่ามนุษย์ธรรมดาแต่พลังยุทธ์ของมันก็ยังร้ายกาจดังเดิม อย่างน้อยก็ยังรับมือกับผู้ฝึกตนขั้นเทพแห่งสงครามได้สบายๆ
ผัวะ!
ร่างที่ยกกระบี่ยาวขึ้นมาปัดป้องเมื่อถูกกำปั้นหนักหน่วงของเจ้าขาวฟาดใส่ลอยละล่องออกไปทันที ความรุนแรงของกำปั้นทำเอากระบี่ยาวในมือของชายผู้นั้นโค้งงอเป็นรอยหมัด
“ฆ่ามัน!” ขั้นจักรพรรดิยุทธการชุดดำทั้งห้าคำรามก้องพร้อมกันด้วยแรงโทสะ
พลังปราณเที่ยงแท้สีดำสนิทไหลบ่าออกมาจากกายของพวกเขา พลังรุนแรงระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง ทุกการเคลื่อนไหวของชายเหล่านี้เปี่ยมไปด้วยพลังปราณเที่ยงแท้ ราวกับอยากอัดเจ้าขาวให้แหลกเป็นผุยผง
ทว่าพลังเหล่านี้กลับไม่ทำให้เจ้าขาวกระเทือนแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD