หลังจากผ่านเหตุการณ์วุ่นวายมามากมาย ในที่สุดเมืองนครใต้ก็สงบสุขเสียที
ร่างอ้วนกลมสีขาวยืนตระหง่านอยู่ระหว่างประตูเมือง ลูกตาจักรกลของมันค่อยๆ เปลี่ยนจากสีม่วงเรืองแสงที่เขย่าขวัญผู้คนมาเป็นสีแดง
ใบมีดบนมือของเจ้าขาวค่อยๆ นุ่มลงก่อนเปลี่ยนเป็นฝ่ามือเช่นเดิม
ร่างไร้วิญญาณห้าร่างนอนนิ่งอยู่แถวนั้น บุรุษปริศนาทั้งห้าที่ตั้งใจจะลอบสังหารปู้ฟาง ต่างก็ถูกเจ้าขาวฆ่าตายจนหมดสิ้น พื้นดินปกคลุมไปด้วยโลหิตสีเข้ม
เจ้าขาวกะพริบตาปริบ ไม่สนใจร่างทั้งห้าที่กำลังเน่าเปื่อย มันหันหลังเดินกลับไปยืนเคียงข้างปู้ฟางดังเดิม
ปู้ฟางละสายตาจากปลาอสูรมังกรพินาศมามองร่างเน่าๆ ทั้งห้า เขาขมวดคิ้วทันทีเมื่อสัมผัสได้ว่ากลิ่นเน่าจากร่างเหล่านี้ช่างคุ้นเคยนัก
มันเป็นกลิ่นเดียวกันกับ…พ่อครัวเงา
“เอาละ… ช่างมันเถอะ ใครจะไปสนใจเรื่องพรรค์นั้นกัน” ปู้ฟางผ่อนคลายลงเล็กน้อยและไม่คิดใส่ใจมองกองเลือดทั้งห้าอีก เขายกมือลูบพุงอ้วนกลมของเจ้าขาวเบาๆ ก่อนจะเบนความสนใจมายังปลาอสูรมังกรพินาศตรงหน้า
ขนาดของปลาปีศาจตัวนี้ช่างมหึมา ใหญ่เสียยิ่งกว่าวัวมังกรพเนจรในคลังเก็บของของระบบเสียอีก ทว่าราคาของมันนั้นยังไแพงไม่เท่าวัวมังกรพเนจร
ตอนที่เจ้าขาวกำจัดบุคคลปริศนาทั้งห้าเรียบร้อย ปู้ฟางก็วิเคราะห์ปลาอสูรมังกรพินาศเสร็จพอดี คุณภาพของเนื้อปลานั้นเห็นได้ชัดว่าถูกปนเปื้อน เพราะมีคราบสีดำปรากฏอยู่บนผิวหนัง
หลังจากเดินวนรอบปลาอสูรมังกรพินาศหนึ่งรอบ ปู้ฟางก็ยกมือสัมผัสร่างของปลาปีศาจก่อนจะกระโจนขึ้นไปบนหลังของมัน เขาใช้พลังปราณเที่ยงแท้ที่เพิ่งจะฟื้นคืนกลับมาส่วนหนึ่งเรียกมีดทำครัวกระดูกมังกรทองออกมา
ผ่านไปอึดใจหนึ่งปู้ฟางก็ทะลวงมีดลงไปที่หลังของปลาปีศาจไม่หยุดมือ เขาเลาะก้างของปลายักษ์ออกมาได้หมดจดด้วยสีหน้าที่คร่ำเคร่งและพลังอันล้นเหลือ
ก้างปลาชิ้นมโหฬารที่วางเรียงรายอยู่ดูไม่ต่างจากอาวุธ แต่ละชิ้นแหลมคมพร้อมที่จะทิ่มแทงทะลุทุกสิ่ง
ถึงกระนั้นปู้ฟางก็ไม่ได้ใส่ใจก้างเหล่านี้แม้แต่น้อย เขาโยนมันทิ้งไปทั้งหมดด บรรดาขั้นจักรพรรดิยุทธการของเมืองนครใต้ที่ยืนรายล้อมอยู่ต่างพากันตกตะลึง
“ก้างพวกนี้มาจากอสูรเวทปลาระดับเจ็ดแท้ๆ… ท่านจะโยนเงินทิ้งไปเปล่าๆ อย่างนั้นหรือ!”
ประชากรในเมืองนครใต้นั้นชาญฉลาดไม่น้อย ด้วยความที่มีนักธุรกิจมากมายอาศัยอยู่ร่วมเมือง ทำให้บรรดาผู้ฝึกตนเหล่านี้มีความรู้ด้านธุรกิจดีพอใช้ ก้างปลาเหล่านี้แน่นอนว่าย่อมมีราคาสูง
เมื่อปู้ฟางโยนทิ้งไปเสียอย่างนั้น บรรดาผู้คนที่รายล้อมอยู่จึงรู้สึกละโมบขึ้นมา พวกเขาต่างพากันวางแผนจะเข้ามาหยิบก้างปลาเหล่านี้ไปทีหลัง
ฉัวะ!
เสียงดังสนั่นทำเอาทุกคนตื่นตกใจและดึงความสนใจของพวกเขากลับมาดังเดิม ร่างของอสูรเวทปลาถูกผ่าครึ่ง ก่อนที่ปู้ฟางจะกระโจนเข้าไปตรงกลางตัวปลา พลางควานหาอะไรบางอย่าง
“โอ๊ะ… เจอแล้ว”
หลังจากที่ค้นหาอยู่พักใหญ่ ในที่สุดปู้ฟางก็เจอเนื้อปลาชิ้นเล็กๆ จากร่างของปลาปีศาจ เนื้อชิ้นนี้เป็นส่วนที่ไม่ปนเปื้อน มีสีขาวนวลสะอาดแถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆ
ปู้ฟางควงมีดทำครัวกระดูกมังกรทองเพื่อแสดงทักษะการใช้มีด ก่อนจะตัดเนื้อส่วนนี้ออกมา ขนาดของมันพอๆ กับหินลับมีดก้อนหนึ่งเท่านั้น
เนื้อส่วนนี้คือแก่นของปลาปีศาจ การที่มันไม่ถูกปนเปื้อนแสดงให้เห็นว่าพลังปราณที่อยู่ภายในนั้นต้องสูงล้ำยิ่ง
เนื้อปลาสีขาวนวลทั้งนุ่มและอุ่น ปู้ฟางสูดกลิ่นของมันเต็มจมูก ไม่มีกลิ่นคาวปลาแม้แต่น้อย กลิ่นที่โชยออกมานั้นคล้ายกลิ่นนม
ปู้ฟางเก็บเนื้อปลาไว้ในคลังเก็บของของระบบอย่างพึงพอใจ ก่อนจะกระโดดลงมาจากร่างของปลาปีศาจ
เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ทำให้พลังปราณเที่ยงแท้ในกายหลั่งไหลออกมา นำพาสิ่งสกปรกที่หลงเหลือในกายออกมาจนหมดสิ้น
ในที่สุดภัยร้ายของเมืองนครใต้ก็สิ้นสุดลง มัจฉาปีศาจที่สร้างปัญหามากมายตัวนี้สุดท้ายก็ถูกสังหาร กระทั่งเนื้อส่วนที่มีค่าที่สุดในกายก็ถูกชิงเอามา
หลังปู้ฟางจากไป บรรดาขั้นจักรพรรดิยุทธการในเมืองนครใต้ก็ค่อยๆ เขยิบเข้ามาใกล้ซากของปลาปีศาจ นัยน์ตาของพวกเขาลุกวาวขณะกวาดมองชิ้นส่วนมีค่าที่หลงเหลืออยู่
อย่างที่ปู้ฟางคาดการณ์ไว้ ชายลึกลับทั้งห้าใช้ประโยชน์จากปลาอสูรมังกรพินาศตัวนี้จนทำให้เนื้อมันปนเปื้อน ช่างน่าเสียดายที่เนื้อส่วนใหญ่ของมันไม่สามารถนำมาประกอบอาหารได้อีกต่อไป
หาไม่แล้วเนื้อของอสูรเวทระดับเจ็ดย่อมมีราคาค่างวดไม่เบา ทว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังเฟ้นหาส่วนที่มีค่าจากปลาปีศาจตัวนี้ได้สำเร็จ ต่างพากันพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง
คนจำนวนหนึ่งเริ่มทะเลาะแย่งชิงก้างปลากัน ถึงแม้เนื้อปลาจะใช้ประกอบอาหารไม่ได้ แต่ก้างปลาก็ยังนำไปทำเป็นอาวุธได้ หากมีช่างตีเหล็กเก่งๆ ก้างปลาอาจแปรสภาพเป็นอาวุธระดับสูงได้เลยทีเดียว เพราะพลังปราณและพลังวิญญาณของอสูรเวทระดับเจ็ดนั้นสูงส่งอยู่ไม่น้อย
เจ้าขาวเดินตามหลังปู้ฟาง ทั้งสองพากันก้าวอาดๆ ไปบนถนนของเมืองนครใต้
เซียวเยียนอวี่และเซียวอวี่รีบวิ่งมา เซียวเยียนอวี่ยกมือตบอกเบาๆ นางรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นว่าเถ้าแก่ปู้ปลอดภัยดี
ส่วนเซียวอวี่ก็ตื่นเต้นจัด เขาพูดกับปู้ฟางไม่หยุดปาก ความรู้สึกเคารพที่มีให้ปู้ฟางนั้นมากล้นราวน้ำในแม่น้ำไม่มีผิด
ปู้ฟางพยักหน้าให้เซียวเยียนอวี่ก่อนจะเดินตรงไปหาสมาชิกตระกูลเซียวพร้อมเจ้าขาว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD