จวนตระกูลเซียว นครหลวง
กระแสพลังปราณหน้าตาเหมือนกระบี่ยาวพุ่งทะยานขึ้นสูงบนท้องฟ้า พลังรุนแรงระเบิดออกมาราวกับจะถล่มนภากว้างออกเป็นเสี่ยงๆ
ภาพกระบี่มายาขนาดใหญ่เหนือจวนตระกูลเซียวกำลังโคจรไปรอบๆ อย่างงดงาม พลังปราณเที่ยงแท้จำนวนมหาศาลมารวมตัวกันก่อเกิดเป็นแอ่งพายุพลังปราณที่ไหลวนไม่หยุดพัก
เซียวเหมิงที่กำลังอ่านจดหมายลับด้วยสีหน้าเคร่งเครียดในห้องหนังสือเปลี่ยนสีหน้าอย่างฉับพลัน เขาเกิดความปีติยินดีอย่างเหลือล้น ภายในพริบตาเดียวชายวัยกลางคนก็รุดออกจากห้องหนังสือเดินรี่ไปยังกลางจวน สายตาจับจ้องไปที่ห้องลับขณะที่ดวงตาเต็มตื้นไปด้วยความอิ่มเอมใจ
“บรรลุปราณหรือ” ร่องรอยความตื่นเต้นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซียวเหมิง
เสียงหวีดหวิวดังก้องอยู่พักใหญ่ พลังปราณรูปกระบี่แหลมคมกระจายตัวกันลงมาราวกับต้องการผ่าพื้นพิภพเบื้องล่าง ประตูห้องลับเปิดออกพร้อมเสียงดังสนั่น ร่างสูงลำตัวเหยียดตรงเดินออกมาจากภายใน
ชายหนุ่มดูเหมือนกระบี่คมกริบไม่ผิดเพี้ยน ส่วนกระบี่ของเขาก็ดูไม่ต่างอะไรจากสายรุ้ง
ลักษณะท่าทางของเซียวเยวี่ยเปลี่ยนไปมาก ผมของเขาสะบัดไหวราวกับเป็นปลายกระบี่ที่พลิ้วพัดตัดอากาศ ความเฉียบคมปรากฏในดวงตา มันเป็นความเฉียบคมที่พัฒนาขึ้นอย่างอาจหาญจนตัดผ่านทุกสิ่งที่ขวางหน้าได้
“ท่านพ่อ…ข้าบรรลุแล้ว” เซียวเยวี่ยมองเซียวเหมิงพลางยิ้มออกมา น้ำเสียงแหบห้าวของเขาสะท้อนก้องไปทั่วจวนตระกูลเซียว จากนั้นกระบี่ยาวก็พุ่งออกมาจากด้านหลังของเซียวเยวี่ยพร้อมเสียงแหวกอากาศ ราวกับต้องการจะผ่าห้วงบรรยากาศให้ขาดออกจากกัน เซียวเยวี่ยควบคุมกระบี่ให้พุ่งออกไปข้างหน้า ปลายกระบี่ชี้ไปทางเซียวเหมิง
เซียวเหมิงหัวเราะออกมาทันที เขายืนตัวตรงอย่างภาคภูมิใจ พลางขยับหมัดของตัวเองออกไปแล้วโคจรพลังปราณเที่ยงแท้ จากนั้นก็ส่งหมัดออกไปประสานกับกระบี่ที่เซียวเยวี่ยไสเข้ามา
กระบี่ของชายหนุ่มพุ่งตรงมาอย่างอาจหาญพร้อมพลังกดดันรุนแรงหาใดเปรียบ ความสอดประสานกันของขั้นนักพรตยุทธการและวิถีกระบี่ทำให้ชายหนุ่มแข็งแกร่งไร้เทียมทาน
ตอนนี้เซียวเยวี่ยบรรลุขั้นนักพรตยุทธการแล้ว ตระกูลแห่งนี้มีขั้นนักพรตยุทธการถึงสองคน โชคชะตาของตระกูลเซียวนั้นจะกล่าวว่าเป็นโชคชะตาของอาณาจักรก็ไม่ผิด!
ตู้ม!
แต่ความปลื้มปีติก็ไม่ได้อยู่บนใบหน้าของเซียวเยวี่ยและเซียวเหมิงนาน เมื่อพลังรุนแรงน่าหวาดหวั่นระเบิดออกมาสะท้านสะเทือนไปทั่วนครหลวง
พลังดังกล่าวแพร่กระจายไปทั่วจนทำให้สีหน้าของสองพ่อลูกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ในอกปวดหนึบเหมือนถูกบีบอยู่เรื่อยๆ
“นี่มัน…” สองพ่อลูกมองหน้ากันจากนั้นก็หันมองไปยังทิศทางของความโกลาหล สถานที่ที่ร้านเล็กๆ ของฟางฟางตั้งอยู่นั่นเอง
ร้านเถ้าแก่ปู้… นี่เขาก่อปัญหาอีกแล้วรึ?!
…
หอกเหล็กที่ส่องประกายเยียบเย็นดูราวกับอยากผ่าอากาศให้แหวกออกจากกัน อักขระสีแดงฉานปรากฏขึ้นบนตัวหอก ความงดงามของมันดูน่าหวั่นเกรงไม่น้อย เมื่อต้องเผชิญกับหอกนี้ ขั้นนักพรตยุทธการคนใดก็ไม่อาจฝ่าเข้าไปต่อกรได้นอกจากจะถูกทะลวงแทงเสียก่อน!
ลำแสงสีม่วงฉายไปทั่วท้องฟ้า จากนั้นลำแสงทรงพลังดังกล่าวก็พุ่งเข้าปะทะหอกเหล็ก ก่อเกิดเป็นแรงระเบิดทรงพลัง
ตู้ม!
เสียงปะทะกันดังสะท้อนสะเทือนไปทั่ว เหล่าลูกค้าที่อยู่ในร้านต่างยกมือขึ้นมาปิดหูอย่างไร้ทางเลือก ไม่เช่นนั้นมันอาจทำให้แก้วหูฉีกขาดได้
ดวงตาสีม่วงของเจ้าขาวกะพริบแสงวาบขณะที่ร่างของมันหมุนติ้วอยู่กลางอากาศจนกลายเป็นทรงกลมที่พุ่งลงมาปะทะพื้นอย่างรวดเร็วพร้อมเสียงดังสนั่น จากนั้นแรงถีบตัวมหาศาลก็กระจายออกมาเมื่อเจ้าขาวพุ่งตัวขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง
มือของมันแปรเปลี่ยนเป็นมีดพร้าขนาดใหญ่ที่ส่องประกายคมกริบ ดูน่าประหวั่นพรั่นพรึงอย่างมาก
หอกเหล็กหมุนคว้างกลางอากาศ แล้วพุ่งกลับมาอยู่ในมือที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นของเซี่ยอวี่อย่างรวดเร็ว พลังปราณของเขากล้าแกร่งราวมังกร ส่วนดวงตาก็ฉายประกายแสงแรงกล้าออกมา ภาพที่เห็นดูเหลือเชื่อไม่น้อย
เสียงหวีดหวิวดังก้อง ตอนนั้นเองเซี่ยอวี่ก็พุ่งตัวลงมาอย่างรวดเร็วราวกับเป็นลูกปืนใหญ่ ตรงไปหาเจ้าขาวที่กำลังมุ่งหน้าเข้ามา
หอกในมือของเขากวัดแกว่งไม่หยุดขณะห้วงอากาศสั่นสะเทือนไปทั่ว
ตู้ม ตู้ม ตู้ม!
เจ้าขาวและเซี่ยอวี่พุ่งเข้าปะทะกันและโรมรันกันอยู่กลางอากาศ หนึ่งมนุษย์หนึ่งจักรกลมีร่างกายใหญ่โตผิดธรรมดาด้วยกันทั้งคู่ หอกและมีดแหลมคมถาโถมเข้าใส่กันไม่หยุดหย่อน ทุกครั้งที่อาวุธทั้งสองประสานกัน ประกายไฟวูบวาบตาจะปรากฏให้เห็น
ใบหน้าประสงค์ร้ายของเซี่ยอวี่ดูบ้าคลั่งเป็นอย่างยิ่ง เขาทิ่มปลายหอกลงมาใส่ศัตรูนับครั้งไม่ถ้วนจนดูเหมือนห่าฝนที่ตกลงมาอย่างไรอย่างนั้น
ดวงตาจักรกลของเจ้าขาวกะพริบถี่ขณะที่ลำแสงสีม่วงเข้มขึ้น มีดพร้าขนาดใหญ่ปะทะใส่หอกไม่หยุดมือ
ทุกคนที่อยู่ข้างล่างต่างสูดหายใจเอาลมเย็นๆ เข้าปอด หัวใจถูกบีบจนแทบหายใจไม่ออก การต่อสู้ตรงหน้า…อยู่ในระดับไหนกันแน่ แค่ได้เห็นความกลัวก็เข้าบีบรัดหัวใจของพวกเขาจนแทบปลิ้น ร่างทั้งร่างสั่นเทาเพราะหายนะตรงหน้า
ปู้ฟางยืนพิงกรอบประตู การต่อสู้ด้านบนนั้นส่งให้เกิดกระแสลมรุนแรงที่ตีใส่ผมดำขลับของเขาจนไม่เป็นทรง ชายหนุ่มแหงนหน้ามองการต่อสู้ ประกายสว่างไสวหมุนวนอยู่ในดวงตา ชายหนุ่มไร้ซึ่งความกระวนกระวายใจแต่กลับดูตื่นเต้นแทน
เจ้าดำเดินนวยนาดไปมาเหมือนแมวเยื้องย่างอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นมันก็เงยหน้าขึ้นมองการต่อสู้ด้านบนด้วยแววตาสนอกสนใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD