“ภารกิจฉุกเฉิน: นายท่านต้องมุ่งหน้าไปยังเมืองประจิมเร้นลับและเข้าร่วมกองทัพในฐานะพ่อครัวประจำกองทหาร และทำอาหารสามจานที่ระบบตัดสินว่าผ่านด้วยวัตถุดิบที่มีอยู่เท่านั้น
“รางวัลของภารกิจ: เพิ่มพลังปราณเที่ยงแท้ขึ้นร้อยละสิบ และเสี้ยวหนึ่งของชุดอุปกรณ์พ่อครัวเทพ (การจะเป็นพ่อครัวที่อยู่บนจุดสูงสุดของบรรดาพ่อครัวทั้งหลาย หรือพ่อครัวเทพในโลกแห่งจินตนาการ ท่านควรทำอาหารอันโอชะได้แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก การเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำอาหารนั้นไร้ซึ่งขีดจำกัด ฝึกให้หนักเข้าไว้เล่า พ่อหนุ่ม)”
ปู้ฟางทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตรงทางเข้าร้าน ในใจของเขาตอนนี้มีแต่เสียงขึงขังของระบบสะท้อนก้องอยู่ไปมา
ชายหนุ่มเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งออกเล็กน้อย แต่แล้วจู่ๆ ก็ลืมตาโพลงขึ้นมา นัยน์ตาเป็นประกายวาบ
“หือ ภารกิจฉุกเฉินอย่างนั้นหรือ” ปู้ฟางตกใจเพราะเขาไม่ได้รับภารกิจฉุกเฉินจากระบบมาระยะหนึ่งแล้ว การที่จู่ๆ ได้รับงานมาเช่นนี้ทำให้เขาแทบจะกระโดดด้วยความประหลาดใจ รายละเอียดภารกิจเองก็ทำให้ชายหนุ่มตกใจไม่แพ้กัน
“เข้าร่วมกองทัพในฐานะพ่อครัวประจำกองทหารอย่างนั้นหรือ” ใบหน้าของปู้ฟางเปี่ยมไปด้วยความสับสนขณะทวนประโยคนั้นออกมาเสียงดัง ในใจมีแต่ความสงสัย
“พ่อครัวประจำกองทหารก็คือพ่อครัวที่ติดตามกองทัพไปน่ะหรือ ก็คือพ่อครัวทหาร ระบบต้องการให้ข้าไปเกณฑ์ทหาร… ไม่สิ ไปเป็นพ่อครัวอยู่ในค่ายทหารเช่นนั้นหรือนี่”
ปู้ฟางเบิกตากว้างพลางเม้มปากแน่น หากว่ากันตามตรง เขาเองไม่ค่อยพอใจกับเงื่อนไขนี้นัก เพราะการเป็นพ่อครัวประจำกองทหารนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ชายหนุ่มไม่เพียงต้องเดินตามกองทหารให้ทันและร่วมเดินทางไปกับพวกเขาทุกที่… แต่ยังมีโอกาสที่จะถูกบังคับให้ออกรบด้วย ปู้ฟางรู้สึกกระอักกระอ่วนใจเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับเขาแล้ว… เรื่องนี้ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นพ่อครัวเทพที่ตรงไหนเลย แค่การปรับสูตรอาหารอยู่ในครัวไม่เพียงพอหรืออย่างไรกัน เหตุใดจะต้องไปเข้าร่วมกองทัพให้เหนื่อยยากด้วยเล่า
ริมฝีปากของปู้ฟางกระตุก ถึงกระนั้นรางวัลที่ระบบเสนอคราวนี้ก็ยั่วยวนใจยิ่ง
“แต่ได้พลังปราณเที่ยงแท้เพิ่มร้อยละสิบ แถมยังได้เสี้ยวหนึ่งของชุดอุปกรณ์พ่อครัวเทพ… รางวัลงามจริงๆ!” ปู้ฟางครุ่นคิดด้วยหัวใจที่เต้นแรงด้วยความตื่นเต้น
ร้อยละสิบของพลังปราณเที่ยงแท้จะช่วยให้ปู้ฟางประหยัดทั้งเวลาและพลังงานไปได้มากโข สำหรับคนที่อยากพัฒนาระดับปราณอย่างรวดเร็วเช่นปู้ฟางแล้ว ข้อเสนอนี้นับว่าเป็นรางวัลที่นำมาใช้ได้จริง
ไหนจะยังมีเสี้ยวหนึ่งของชุดอุปกรณ์พ่อครัวเทพด้วย ข้อเสนอนี้ก็ล่อตาล่อใจปู้ฟางไม่น้อย ตอนนี้เขาสะสมชุดอุปกรณ์พ่อครัวเทพมาได้สองในสามเสี้ยวแล้ว ชายหนุ่มคิดว่าคงต้องรอให้บรรลุปราณขั้นต่อไปจึงจะได้รับอีกเสี้ยวมาครอง ภารกิจปุบปับนี้ช่างเกินความคาดหมายจริงๆ
ปู้ฟางเอนหลังกลับลงไปบนเก้าอี้พลางจ้องมองท้องฟ้าด้วยสายตาว่างเปล่า ขณะโต้เถียงกับตนเองอยู่เงียบๆ ในใจ
เสียงฝีเท้าสะท้อนก้องขึ้นมาในตรอกเล็กๆ เซียวเยียนอวี่กับเซียวเยวี่ยผู้เป็นพี่ชายกำลังเดินเข้ามา
เซียวเยียนอวี่กลับมายังนครหลวงเมื่อไม่กี่วันก่อนหลังจากที่ทุกอย่างในเมืองนครใต้เริ่มลงตัว ถึงแม้ตระกูลเซียวแห่งเมืองนครใต้จะไม่ได้รับสิ่งใดจากการต่อสู้ครั้งใหญ่แถมยังสูญเสียไปมากมาย แต่โชคยังดีที่สิ่งที่สูญเสียไปนั้นไม่ใช่อะไรที่หามาทดแทนไม่ได้
เซียวเยียนอวี่อยู่ในเมืองนครใต้ต่ออีกสองสามวัน จากนั้นจึงเดินทางกลับมายังนครหลวง ขณะนี้ทั่วทั้งจักรวรรดิวายุแผ่วเกิดกลียุคไม่หยุดหย่อน เซียวเหมิงรู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของบุตรสาวจึงได้เรียกตัวนางกลับมา
ทว่าเมื่อเซียวเยียนอวี่กลับมาถึงนครหลวง เซียวเหมิงก็ออกเดินทางไปสู่แนวหน้าเสียแล้ว
“เถ้าแก่ปู้ ขอสุราหัวใจหยกเยือกแข็งให้ข้าเหยือกหนึ่ง”
เซียวเยวี่ยเดินเข้ามาในร้านก่อนจะนั่งลงตรงที่ประจำ เขาเอ่ยสั่งเครื่องดื่มจากปู้ฟางผู้ที่กำลังนอนเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้ตรงหน้าทางเข้าด้วยน้ำเสียงแหบห้าว
เซียวเยียนอวี่เองก็สั่งอาหารสองสามอย่างกับโอวหยางเสี่ยวอี้เช่นกัน
ปู้ฟางลุกขึ้นยืนพลางบิดขี้เกียจ ก่อนจะออกเดินพร้อมยกมือไพล่หลัง เขาผงกศีรษะทักทายเซียวเยียนอวี่และเซียวเยวี่ยก่อนจะเดินเข้าห้องครัวไป
เซียวเสี่ยวหลงและอวี่ฝูกำลังทำอาหารอยู่ในครัว ทักษะของพวกเขาพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้จะยังไม่เทียบขั้นปู้ฟาง แต่ก็อยู่ในระดับที่เถ้าแก่เช่นกันถือว่าพอใช้ได้
ปู้ฟางหยิบมีดออกมาเพื่อตระเตรียมวัตถุดิบ ด้วยจิตที่จดจ่อ ชายหนุ่มตอนนี้สามารถจัดการกับวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วกว่าก่อนมาก
ปู้ฟางรู้สึกได้ว่าทักษะการใช้มีดของตนเริ่มตันเมื่อเขาสำเร็จทักษะการใช้มีดฝนดาวตกขั้นสูงสุดแล้ว
ชายหนุ่มจุดไฟตั้งเตาด้วยการเคลื่อนไหวประดุจสายน้ำ อาหารหลากหลายจานถูกปรุงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว กลิ่นหอมรัญจวนใจไหลบ่าออกจากครัวไปปะปนอยู่กับอากาศภายในร้าน
ไม่นานนักปู้ฟางก็ทำอาหารเสร็จเรียบร้อย เขาวางจานอาหารไว้บนหน้าต่างครัวเพื่อให้โอวหยางเสี่ยวอี้ยกออกไป
ปู้ฟางเช็ดมือแล้วถือเหยือกสุราหัวใจหยกเยือกแข็งออกมาจากครัวด้วยตนเอง ชายหนุ่มเดินเข้าไปที่โต๊ะของเซียวเยียนอวี่และเซียวเยวี่ยก่อนจะส่งเหยือกให้ฝ่ายหลัง
เซียวเยวี่ยรีบเปิดฝาเหยือกก่อนจะรินให้ตนเองจอกหนึ่ง เขายกสุราขึ้นจิบอย่างอารมณ์ดี
ปู้ฟางดึงเก้าอี้มาตัวหนึ่งก่อนจะนั่งลงตรงข้ามแล้วเริ่มพินิจพิเคราะห์คนทั้งคู่อย่างใจเย็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD