“เขาถูก... กลืนเข้าไปหรือ”
รูม่านตาของจูเยวี่ยที่ยืนอยู่ในระยะไกลหดแคบ สันหลังเย็นวาบไปหมด พลังปราณแข็งแกร่งที่แผ่ออกจากร่างกิ้งก่ายักษ์ทำให้ชายหนุ่มสั่นสะท้านไปทั้งกาย
เขาเป็นแม่ทัพของกองทหารลำดับสามแต่มีพลังปราณอยู่เพียงระดับหกขั้นจักรพรรดิยุทธการ ซึ่งเป็นขั้นเดียวกับปู้ฟางที่เขาเพิ่งเห็นว่าถูกกลืนลงท้องไปกับตา
“ศิษย์พี่ปู้!” หัวใจของถังอิ่นเองก็กระตุกเช่นกัน เขาพุ่งไปข้างหน้าพร้อมตะโกนกู่ร้อง ชายหนุ่มควงกระบี่ในมือ จากนั้นก็ฟันใส่อากาศเพื่อส่งเจตจำนงแห่งกระบี่เข้าไปฟาดฟันกิ้งก่ายักษ์
แต่กิ้งก่ายักษ์กลับทำเพียงกลอกตาแล้วตวัดหางอ้วนหนาเหมือนกระบองเหล็กเพื่อปัดเจตจำนงแห่งกระบี่ออกไปจากกาย
ผู้ฝึกตนจากลัทธิอสุราพลันระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่น ดวงตาดูแช่มชื่นเบิกบานใจยิ่ง!
แม้หุ่นเชิดตรงหน้าจะยังอัดเขาไม่หยุด จนทำให้ตัวเขามีแต่แผลเลือดสาดไปทั้งตัว… แต่เขาก็มั่นใจว่าตนเองจะสยบมันได้ในเวลาไม่นาน
นั่นเพราะหุ่นเชิดตัวนี้สูญเสียนายของมันไปแล้ว อย่างไรเสียมันก็จะกลายสภาพเป็นเพียงเศษเหล็กในไม่ช้า
ปัง!!
ผู้ฝึกตนจากลัทธิอสุราถูกเจ้าขาวฟาดด้วยมีดขนาดใหญ่อีกครั้ง เลือดของเขาสาดกระเซ็นไปทุกทิศทาง ส่วนร่างก็พุ่งอัดใส่พื้น ทำให้พื้นอิฐสั่นสะเทือนรุนแรง
“ไอ้เวรเอ๊ย! เหตุใดจึงยังไม่เลิกราอีก!”
ผู้ฝึกตนชุดดำยันกายลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก ดวงตาส่อแววคลุ้มคลั่ง “ไอ้ก้อนเหล็กเวรนี่ ถ้าคิดว่าล้มข้าได้ก็ลองดูแล้วกัน!!”
ดวงตาสีม่วงของเจ้าขาวเป็นประกาย แต่ร่างของมันกลับหยุดชะงักอยู่กลางอากาศ
ม่านตาของถังอิ่นหดแคบทันที จูเยวี่ยเองก็เช่นกัน ส่วนโม่หลินนั้นระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นด้วยความตื่นเต้น
ในที่สุดไอ้หุ่นเชิดนี่ก็หยุดทำงานเสียที!
ผู้ฝึกตนจากลัทธิอสุราเงยหน้าขึ้นหัวเราะด้วยน้ำเสียงชั่วร้ายสุดขีด ผมของเขาหลุดลุ่ยไม่เป็นทรง ส่วนดวงตาก็เต็มไปด้วยความประสงค์ร้าย เขากวัดแกว่งหอกยาวในมือแล้วกระแทกมันลงพื้น ก่อนกระโจนเข้าหาเจ้าขาว ตั้งใจจะเสียบทะลุร่างของมันให้เป็นรู
เขาหมายมั่นปั้นมือเอาไว้ว่าจะแทงร่างเหล็กของหุ่นเชิดตรงหน้าให้พรุนเหมือนรังต่อเลยทีเดียว
พลังปราณของเขาอัดแน่นอยู่ในหอกโดยไม่คิดออมแรงแม้แต่น้อย
ก่อนหน้านี้เขาไม่สามารถตอบโต้เจ้าขาวกลับได้ จึงรู้สึกเหมือนถูกปู้ยี่ปู้ยำไม่เหลือชิ้นดี อย่างไรเสียเขาก็เป็นถึงขั้นนักพรตยุทธการ ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยรู้สึกไร้น้ำยาถึงเพียงนี้มาก่อนเลยในชีวิต!
เขาตั้งใจจะโยนความอับอายทั้งหมดที่เผชิญมาก่อนหน้านี้ใส่ไอ้ก้อนเหล็กนี่!
ในเมื่อปู้ฟางถูกกิ้งก่ายักษ์กินเข้าไปแล้ว เขาจึงไม่ต้องมากังวลอีกว่าเจ้าขาวจะโจมตีกลับ ลัทธิอสุราตั้งอยู่ทางทิศใต้ไกลโพ้น มีตำรับตำรามากมายนับไม่ถ้วนในหอตำราให้อ่านเพิ่มพูนความรู้ มีตำราหลายเล่มที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับหุ่นเชิดเช่นนี้เอาไว้
ในทวีปนี้มีสำนักที่ชื่อว่าสำนักหุ่นเชิดอยู่ด้วย ศิษย์ของสำนักทุกคนจะมีหุ่นเชิดประจำกาย หุ่นเชิดทุกตัวล้วนมีความสามารถด้านการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่ทันทีที่นายของหุ่นเชิดถูกสังหาร มันจะสูญสิ้นความสามารถในการสู้ไป นอกเสียจากว่าจะถูกนำมาปรับระบบใหม่
หุ่นเชิดโลหะเบื้องหน้าแข็งแกร่งเป็นอันมาก แปลว่าไอ้หนุ่มหน้าขาวซีดคนนั้นต้องมาจากสำนักหุ่นเชิดแน่นอน ด้วยเหตุนี้หลังจากที่จัดการสังหารนายของหุ่นเรียบร้อย ทุกอย่างจึงควรกลับมาอยู่ในการควบคุมของเขาอีกครั้ง!
ชายชราระเบิดเสียงหัวเราะลั่นพร้อมด้วยเสียงลมพัดหวีดหวิวในอากาศ เขาพุ่งหอกไปข้างหน้าด้วยพลังรุนแรงจนแทบทำให้อากาศเป็นโพรง
จูเยวี่ยรู้สึกสิ้นหวังดำดิ่ง ส่วนถังอิ่นก็หน้าซีดเผือด ศิษย์พี่ปู้… ถูกกิ้งก่ายักษ์กินเข้าไปแล้วจริงๆ น่ะหรือ
แปลว่ากองทหารลำดับสามแห่งเมืองประจิมเร้นลับกำลังจะแดดิ้นตายลง ณ อึดใจนี้ใช่หรือไม่
วืด!!!
ตอนที่หอกกำลังจะเข้าปะทะร่างเจ้าขาว แสงสีม่วงในดวงตาของหุ่นโลหะก็กลับมาเจิดจ้าอีกครั้ง แสงนั้นระเบิดออกมาเหมือนเมฆยามเย็นที่ถูกแสงอาทิตย์อัสดงย้อมป้ายจนเป็นสีชมพู ทำให้ผู้ฝึกตนจากลัทธิอสุราตาแทบบอด
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
คมมีดฟาดลงมาพร้อมเสียงหวีดหวิว ผู้ฝึกตนจากลัทธิอสุราพลันรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เกิดจากคมมีดทันที ร่างของเขาแทบถูกตัดเป็นสองซีกด้วยฤทธิ์ของมีดเล่มคม
หอกยาวตกลงด้านล่างอย่างไร้ทางต้าน ส่วนร่างของเขาก็กระแทกลงกับพื้นอย่างแรง
“เป็นไปได้อย่างไรกัน! เหตุใดไอ้หุ่นเชิดนี่จึงยังขยับได้!”
ดวงตาของเขาทั้งคลุ้มคลั่งทั้งตกใจ
ชายชราเงยศีรษะขึ้นมองเจ้าขาวที่กำลังกวัดแกว่งมีดแล้วพุ่งเข้าใส่เขาอีกครั้ง
ไกลออกไปไม่มาก จู่ๆ กิ้งก่ายักษ์ลิ้นยาวยืดก็ถลนตา มันอ้าปากกว้าง จากนั้นลำแสงสีทองของกระบี่ก็เรืองรองออกมา ตามมาด้วยกรามของเจ้ากิ้งก่าที่ระเบิดจนไม่เหลือชิ้นดี
เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณพร้อมเสียงร้องโหยหวนของกิ้งก่ายักษ์
เงาหนึ่งกระโจนออกมาพร้อมฝอยเลือดที่ฟุ้งกระจาย
ร่างโปร่งที่กำลังถือมีดทำครัวขนาดใหญ่ปรากฏสู่สายตา
กระแสพลังปราณหมุนวนในอากาศพร้อมลมหมุนที่พัดผ่าน หอบเอาหมอกเลือดให้จางหายไป ในที่สุดใบหน้าของร่างผอมเพรียวก็ปรากฏให้เห็น
ปู้ฟางที่มีสีหน้าสงบนิ่งกำลังยืนถือมีดทำครัวกระดูกมังกรทองอยู่ มีดนั้นเรืองแสงสีทองสว่างจับตา
เขาโบกสะบัดมีดทำครัวที่ปล่อยพลังกดดันมหาศาลออกมา ทั้งโม่หลินและจูเยวี่ยตื่นตกใจเป็นอันมาก หัวใจของคนทั้งคู่กระตุกอย่างไม่อาจควบคุมได้
กิ้งก่ายักษ์ที่ถูกระเบิดกรามนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น มันมองปู้ฟางด้วยรูม่านตาที่หดแคบเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
พลังกดดันจากสิ่งมีชีวิตที่สูงส่งกว่า ไม่มีทางเลยที่มันจะต้านทานไหว
“เกิดอะไรขึ้น ลูกรัก! ลุกขึ้นแล้วกัดไอ้หมอนี่ให้ตายเสียสิ! อย่าเอาแต่นอนนิ่งอยู่ตรงนั้น! กัดมันเลยลูก!”
ผู้ฝึกตนจากลัทธิอสุราเบิกตากว้าง เขาเอามือกดแผลที่ไหล่ของตัวเองไว้แล้วตะโกนออกมาด้วยโทสะ
เมื่อได้ยินดังนั้นปู้ฟางก็อึ้งไปทันที เขายกมีดทำครัวกระดูกมังกรทองขึ้นแล้วหันหน้าไปมองผู้ฝึกตนคนนั้น
“เจ้าสั่งให้กิ้งก่านี่มากัดข้าหรือ ไอ้สิ่งมีชีวิตพรรค์นี้เนี่ยนะ… จะมากัดข้า” ปู้ฟางพูดเสียงสงบ เสียงของเขาไม่ได้ดัง แต่ก็ฟังชัดเจนในโสตประสาทของผู้ฝึกตนจากลัทธิอสุรา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD