ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD นิยาย บท 314

สรุปบท บทที่ 314 องครักษ์โลหิตมาถึง กองทัพรุกเข้ายึดนคร: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD

บทที่ 314 องครักษ์โลหิตมาถึง กองทัพรุกเข้ายึดนคร – ตอนที่ต้องอ่านของ ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD

ตอนนี้ของ ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายSlice of Lifeทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 314 องครักษ์โลหิตมาถึง กองทัพรุกเข้ายึดนคร จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ณ หนองน้ำ​ปราณ​มายา​

การต่อสู้​แสน​ดุเดือด​กำลัง​ดำเนิน​ไป​ใน​หนองน้ำ​ที่​เต็มไปด้วย​โคลน​ อสูร​เวท​ระดับ​เจ็ด​สอง​ตัว​เข้า​ห้ำหั่น​กัน​อย่าง​เอาเป็นเอาตาย​ ผลกระทบ​จาก​แรง​ปะทะ​อัน​ดุเดือด​เข้า​กด​ทับ​ทั้ง​หนองน้ำ​ น้ำ​สาด​กระจาย​ โคลนตม​กระเด็น​ว่อน​ไป​ทั่วทุกแห่ง​หน​

อสูร​เวท​ระดับ​เจ็ด​ทั้งสอง​ตัว​กำลัง​ต่อสู้​แย่งชิง​อาณาเขต​กัน​ ซึ่งเป็นเรื่อง​ที่​เกิดขึ้น​เป็นประจำ​ใน​หนองน้ำ​ปราณ​มายา​ ยิ่ง​เดินทาง​ลึก​เข้าไป​ใน​หนองน้ำ​มากขึ้น​เท่าไหร่​ อสูร​เวท​ที่​พบ​เจอ​ก็​ยิ่ง​แข็งแกร่ง​ขึ้น​เท่านั้น​ ไม่ต่าง​อะไร​จาก​ใน​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​

ใน​ดินแดน​นี้​ อสูร​เวท​ระดับ​เจ็ด​สอง​ตัว​ไม่ถือว่า​แข็งแกร่ง​แม้แต่น้อย​ ใน​สถานที่​แห่ง​นี้​ยังมี​อสูร​เวท​อีก​มากมาย​ที่​ทรงพลัง​กว่า​พวก​มัน​ทั้งสอง​

ทันใดนั้น​อากาศ​ใน​บริเวณ​หนองน้ำ​ก็​ถูก​บีบ​อัด​รุนแรง​จน​เกิด​เป็น​ระเบิด​เสียง​ที่​ดัง​กึกก้อง​กัมปนาท​ ราวกับว่า​มีระเบิด​ลูก​ใหญ่​ตกลง​ไป​ใน​หนองน้ำ​ แรง​ระเบิด​ทำให้​ขี้โคลน​สาด​กระจาย​ไป​ทั่ว​

ร่าง​ของ​อสูร​เวท​ระดับ​เจ็ด​ทั้งสอง​แข็งทื่อ​ พวก​มัน​หยุด​ต่อสู้​กัน​ชั่วขณะ​ จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​ร่าง​ที่​ปรากฏ​ขึ้น​เบื้องหน้า​ตน​ ร่าง​นั้น​เป็น​ร่าง​เดียว​กับ​ที่​ทำให้เกิด​ระเบิด​เสียง​

คน​ผู้​นั้น​เป็น​ชาย​ร่าง​สูงกำยำ​ด้วย​มัด​กล้าม​ใน​ชุด​เกราะ​ พลัง​ปราณ​ของ​เขา​เลื้อนวน​อยู่​รอบกาย​ไม่หยุดหย่อน​ ดู​ราวกับ​เป็น​มังกร​แหวกว่าย​ไม่มีผิด​

ชาย​คน​ดังกล่าว​มีใบหน้า​คมกริบ​ เขา​มอง​อสูร​เวท​ที่​กำลัง​สู้กัน​อยู่​ด้วย​สายตา​ราบเรียบ​ จากนั้น​ก็​ขมวดคิ้ว​

จากนั้น​เขา​ก็​ปล่อย​พลัง​กดดัน​น่า​หวั่นเกรง​ออกมา​ ทำให้​อสูร​เวท​ทั้งสอง​ตัว​ถึงกลับ​ขวัญหนีดีฝ่อ​ พวก​มัน​รีบ​ดำ​กลับ​ลง​ไป​ใน​หนองน้ำ​ ไม่กล้า​ชะโงก​หัว​ขึ้น​มาดู​อยู่​เป็น​นาน​

ด้วย​ความ​ที่​ทั้งสอง​ตัว​เป็น​อสูร​เวท​ที่​มีพลัง​ปราณ​ พวก​มัน​จึงสัมผัส​ได้​ว่า​ชาย​ผู้​นี้​แข็งแกร่ง​และ​อันตราย​เป็นอันมาก​

ระเบิด​เสียงดัง​ขึ้น​อีกครั้ง​เมื่อ​ชาย​ผู้​ทรงพลัง​เคลื่อนที่​ไป​ข้างหน้า​ด้วย​ความเร็ว​จน​ทำให้​ห้วง​อากาศ​ฉีกขาด​ออก​จากกัน​ เขา​มุ่งหน้าตรง​ไป​ยัง​สถานที่​ห่างไกล​ ภายใน​ไม่กี่​อึดใจ​ก็​เดินทาง​ออกจาก​บริเวณ​หนองน้ำ​ไป​

ณ ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​

ต้นไม้​ตระหง่าน​ที่สูง​จน​ดู​ราว​กำลัง​แต่ง​แต้ม​ท้องฟ้า​อยู่​ถูก​ผ่า​ออก​เป็น​สอง​ซีก​

อสูร​เวท​นก​ยักษ์​ที่​มีปีก​คมกริบ​เหมือน​กระบี่​บิน​ผ่าน​บริเวณ​นั้น​ ปีก​ของ​มัน​ทำลาย​ต้นไม้​สอง​ข้างทาง​เสียหาย​รุนแรง​ มัน​ดู​ทรงพลัง​จน​เหมือน​ไม่มีใคร​หยุดยั้ง​ได้​

ชายหนุ่ม​ไร้​ผม​หน้าตา​ดุร้าย​นั่ง​อยู่​บน​นก​ที่​น่า​หวาดหวั่น​ตัว​ดังกล่าว​ ชาย​ผู้​นี้​มีผิว​สีน้ำตาล​และ​ร่างกาย​ที่​ดู​แปลกประหลาด​พอตัว​ ดู​ราวกับ​ร่าง​ทั้ง​ร่าง​ของ​เขา​จะถูก​สร้าง​ขึ้น​จาก​ทองแดง​ ทุก​กระเบียด​นิ้ว​เป็น​สีน้ำตาลแดง​สม่ำเสมอ​ กล้ามเนื้อ​ทุก​มัด​ใน​ร่างกาย​อัด​แน่น​ไป​ด้วย​พละกำลัง​ร้ายกาจ​น่ากลัว​

ชายหนุ่ม​ไร้​ผม​ลุก​ยืน​บน​อสูร​เวท​นก​ ดวงตา​ของ​เขา​สว่าง​วาบ​ด้วย​ประกาย​สายฟ้า​ เขา​มอง​ไป​ใน​ระยะไกล​ ดูเหมือน​กำลัง​มอง​ไป​ทาง​สถานที่​แห่ง​หนึ่ง​ที่อยู่​นอก​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​

“วิหาร​เทพเจ้า​แห่ง​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​เสีย​ผู้ฝึก​ตน​ไป​ถึงสอง​คน​ เซี่ยอวี่​เป็น​ชาย​ที่​มีอนาคต​ไกล​ยิ่ง​ มีความเป็นไปได้​อย่าง​มาก​ที่​เขา​จะบรรลุ​ปราณ​ขั้น​เซียน​เทพ​ในอนาคต​ แต่กลับ​ต้อง​มาสิ้นชีวิต​ลง​ใน​นครหลวง​ของ​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​ ข้า​จะต้อง​เรียกร้อง​ความเป็นธรรม​ให้​กับ​การตาย​ของ​เขา​ให้จงได้​ ส่วน​ไอ้​พวก​ชั่วร้าย​จาก​ลัทธิ​อสุรา​นั้น​ ข้า​จะทำลาย​มัน​ให้​ไม่เหลือ​ซาก​ หาก​ลัทธิ​อสุรา​กลับมา​มีอำนาจ​ได้​ มัน​ต้อง​ก่อ​ความ​ไม่สงบ​ให้​พวกเรา​แน่นอน​ ดินแดน​ทางใต้​จะไม่หลงเหลือ​ความ​สงบสุข​อีกต่อไป​”

ดวงตา​ของ​ชาย​ไร้​ผม​เป็นประกาย​ขณะ​แค่น​ลม​เย็น​ออกจาก​จมูก​ จากนั้น​เขา​ก็​กระทืบเท้า​ลง​บน​ตัว​นก​ที่​ส่งเสียง​กรีดร้อง​แหลม​สูงออกมา​ มัน​สะบัด​ปีก​แล้ว​เริ่ม​โผบิน​ไป​ข้างหน้า​รวดเร็ว​ยิ่งขึ้น​

สอง​คู่หู​ชาย​หนึ่ง​นก​หนึ่ง​กลายเป็น​ลำแสง​ที่​พุ่ง​ตัด​อากาศ​หาย​ไป​จาก​น่านฟ้า​ของ​ดินแดน​ป่า​รกชัฏ​

ณ เทือกเขา​อู่​เหลียง​สูงชัน​ใน​ดินแดน​แสน​ภูผา​อัน​กว้างใหญ่​ไพศาล​

ผู้ฝึก​ตน​มากมาย​เริ่ม​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​ พวกเขา​ตระหนัก​แล้ว​ว่า​ตนเอง​ประเมิน​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​ลัทธิ​อสุรา​ผิด​มหันต์​ ผู้ฝึก​ตน​กลุ่ม​นี้​รวบ​รวมกำลัง​พล​แล้ว​รีบ​เดินทาง​ไป​สมทบ​ที่​นครหลวง​ทันที​

ณ สถานที่​ที่อยู่​ห่าง​จาก​นครหลวง​ไป​หลาย​ร้อย​ลี้​

กองทัพ​ของ​ราชา​อวี่​ปักหลัก​อยู่​ที่นี่​ แต่​ยัง​ไม่ได้​เข้า​โจมตี​นครหลวง​ของ​จักรวรรดิ​วายุ​แผ่ว​ พวกเขา​รู้ดี​ว่า​จะบุ่มบ่าม​เข้าไป​ยึด​นครหลวง​ไม่ได้​ ด้วยเหตุนี้​จึงตรึง​กำลัง​อยู่​อย่าง​สงบ​เพื่อ​รอ​วางแผน​เผด็จศึก​

ด้วย​ความ​ที่​ที่นี่​เป็น​เมืองหลวง​ จึงเป็น​ศูนย์รวม​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​อาณาจักร​ แม้ราชา​อวี่​จะมีลัทธิ​อสุรา​หนุนหลัง​อยู่​ แต่​ตัว​เขา​เอง​ก็​ยัง​ต้อง​ระวัง​หาก​คิด​บุก​นครหลวง​

ราชา​อวี่​ต้อง​ระมัดระวัง​อย่าง​ถึงที่สุด​ เนื่องจาก​หาก​เขา​ประมาทเลินเล่อ​และ​ตกเป็น​ฝ่าย​ปราชัย​ใน​การต่อสู้​ครั้ง​ถัดไป​ คง​มีชะตากรรม​เดียว​เท่านั้น​ที่​รอ​เขา​อยู่​ ซึ่งก็​คือ​ความตาย​

เจ้ามู่เฉิงอยู่​ใน​ชุด​คลุม​ยาว​ กำลัง​เดินทอดน่อง​มาหา​ราชา​อวี่​พร้อมด้วย​รอยยิ้ม​น้อย​ๆ บน​ใบหน้า​

“ราชา​อวี่​ ท่าน​คงจะ​ตื่นเต้น​มาก​ที่​ได้​กลับมา​นครหลวง​ของ​จักรวรรดิ​… ในที่สุด​อาณาจักร​แห่ง​นี้​ก็​จะตกเป็นของ​ท่าน​เสียที​…”

“ข้า​จะตื่นเต้น​ได้​อย่างไร​กัน​ สงคราม​นี้​มีผู้​สิ้นชีวิต​มากมาย​เกินไป​ คน​จำนวนมาก​ต้อง​มาลาจาก​โลก​ไป​เพราะ​การต่อสู้​แย่งชิง​ครั้งนี้​” ราชา​อวี่​สูด​หายใจเข้า​ลึก​พลาง​เอ่ย​ตอบ​

เจ้ามู่เฉิงยิ้ม​อย่าง​สงบนิ่ง​ขณะ​ยืน​อยู่​ข้าง​ชายหนุ่ม​ เขา​มอง​ไป​ยัง​นครหลวง​สูงตระหง่าน​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​ ดวงตา​ค่อยๆ​ เปลี่ยนเป็น​แหลมคม​ขึ้น​เรื่อยๆ​

“พอ​เรา​ยึด​นครหลวง​เสร็จ​ ข้า​ก็​ไม่มีคำขอ​อื่น​แล้ว​ นอกจาก​ให้​ท่าน​ส่งปู้​ฟางมาให้​ข้า​”

“ปู้​ฟางรึ​ ร้าน​นั้น​มีอสูร​เวท​ขั้น​เซียน​เทพ​ปกป้อง​อยู่​นี่​…”

“มัน​ก็​แค่​อสูร​เวท​ขั้น​เซียน​เทพ​เท่านั้น​ ฝั่งเรา​เอง​ก็​มีขั้น​เซียน​เทพ​อยู่​เช่นกัน​ ไม่เห็น​มีความจำเป็น​ที่จะ​ต้อง​เกรงกลัว​อสูร​เวท​ขั้น​เซียน​เทพ​แต่อย่างใด​ สัญชาตญาณ​ของ​ข้า​บอ​กว่า​ร้าน​เล็ก​ๆ ของ​ฟางฟางนั้น​ซ่อน​ความลับ​ยิ่งใหญ่​เอาไว้​ และ​ต่อให้​ไม่มีอะไร​เช่นนั้น​ ข้า​ก็​ขอ​เพียง​ต้น​ตื่น​รู้ทาง​ห้า​สาย​ก็​พอ​” เจ้ามู่เฉิงถูนิ้ว​ไปมา​ ดวงตา​เต็มไปด้วย​รังสี​สังหาร​

ทันใดนั้น​เจ้ามู่เฉิงก็​เงยหน้า​ขึ้น​

เขา​เห็น​แสงสีแดง​สอง​เส้น​พุ่งตรง​เข้ามา​ แต่​กลับมา​หยุด​อยู่​เหนือศีรษะ​ของ​พวกเขา​พอดิบพอดี​

ชาย​ชรา​ที่อยู่​ใน​กองทัพ​พลัน​ลืมตา​ขึ้น​

ชาย​ชรา​ก้าว​เท้า​ไป​ข้างหน้า​ จากนั้น​ก็​ไป​ปรากฏตัว​บน​ท้องฟ้า​ใน​บัดดล​ ชาย​ชรา​คน​ดังกล่าว​กำลัง​ลอย​อยู่​เบื้องหน้า​ลำแสง​สีแดง​ทั้งสอง​

“องครักษ์​โลหิต​รึ​ พวก​เจ้าทั้งสอง​มิได้​มีหน้าที่​คุ้มกัน​หอคอย​ศักดิ์สิทธิ์​หรือ​อย่างไร​ เหตุใด​จึงมาที่นี่​ทั้งคู่​ หรือว่า​เกิดเหตุ​อะไร​ขึ้นกับ​หอคอย​ศักดิ์สิทธิ์​”

ชาย​ชรา​มุ่น​คิ้ว​พลาง​ยิงคำถาม​ใส่ทั้งสอง​ที่​เพิ่ง​ปรากฏตัว​ขึ้น​ใน​อากาศ​

“คารวะ​ท่าน​ปรมาจารย์​อาวุโส​”

องครักษ์​โลหิต​ทั้งสอง​ผสาน​มือ​คารวะ​ชาย​ชรา​ พวกเขา​รีบ​บอก​เหตุผล​ที่​ตนเอง​ต้อง​มายัง​ที่​แห่ง​นี้​ นอกจากนี้​ยัง​ถ่ายทอด​คำสั่ง​ของ​มหา​พรต​ต่อ​ด้วย​

วงแหวน​ปราณ​ผสาน​วิญญาณ​ถูก​ขโมย​ไป​และ​มาปรากฏ​ขึ้น​ที่​นครหลวง​

ดวงตา​ของ​ปรมาจารย์​อาวุโส​หรี่​ลง​ แวว​เย็นเยียบ​วาบ​ผ่าน​ดวงตา​

“หรือ​จะถูก​สำนัก​ความลับ​แห่ง​สวรรค์​แย่งชิง​ไป​ เป็นไปไม่ได้​ ผู้ฝึก​ตน​จาก​สำนัก​ความลับ​แห่ง​สวรรค์​ยัง​ไม่มาปรากฏตัว​ที่​นครหลวง​เลย​ด้วยซ้ำ​ไป​ ไม่ใช่พวก​นั้น​แน่​นอ​น.​.. หรือ​จะเป็น​ผู้ฝึก​ตน​จาก​ดินแดน​แสน​ภูผา​”

ปรมาจารย์​อาวุโส​งุนงง​พอสมควร​ เขา​ได้​ส่งคน​ออก​ไป​สำรวจ​บรรดา​ผู้ฝึก​ตน​ที่​เข้า​นครหลวง​มาแล้ว​ หลังจาก​คิด​อยู่​สักพัก​ เขา​ก็​ยัง​คิดไม่ออก​เสียที​ว่า​ใคร​กัน​แน่​ที่​เป็น​ผู้ร้าย​ ใคร​หน้า​ไหน​ที่​มัน​กล้า​ขโมย​วงแหวน​ปราณ​ผสาน​วิญญาณ​ไป​

ทันทีที่​คน​ทั้ง​สามลง​ถึงพื้น​ ราชา​อวี่​และ​เจ้ามู่เฉิงก็​เดิน​เข้า​มาหา​ ทั้งสอง​รีบ​ยกมือ​ทำความเคารพ​ผู้​ทรงพลัง​ทั้ง​สาม

เซียว​เห​มิงรึ​

คน​ที่​กำลัง​เดิน​เข้า​มาหา​เขา​คือ​เซียว​เห​มิงผู้​โด่งดัง​ เป็น​เซียว​เห​มิงคนเดียว​กับ​ที่​ควร​บาดเจ็บสาหัส​อยู่​ สีหน้า​ของ​ชาย​ตรงหน้า​ดู​ไม่ดี​เลย​ ผิว​ของ​เขา​ซีดเซียว​ไร้​เลือดฝาด​และ​กำลัง​ค่อยๆ​ กลายเป็น​สีดำ​

ปู้​ฟางลุกขึ้น​ยืน​จากนั้น​ก็​เชิญอีก​ฝ่าย​เข้า​ร้าน​

ทันทีที่​โอว​หยาง​เสี่ยว​อี้​เห็น​เซียว​เห​มิง นาง​ก็​นิ่งอึ้ง​ทำ​อะไร​ไม่ถูก​ เนื่องจาก​แม่ทัพ​ใหญ่​ดู​อ่อนแอ​และ​เปราะบาง​มาก​จน​ทำให้​นาง​กังวลใจ​ไป​หมด​

“เถ้าแก่​ปู้​ ข้า​ขอ​สุรา​หัวใจ​หยก​เหยือก​แข็ง​เหยือก​หนึ่ง​ได้​หรือไม่​” เสียง​ของ​เซียว​เห​มิงแหบ​พร่า​ เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ไอ​ค็อกแค็ก​ออกมา​หลังจาก​เอื้อนเอ่ย​ได้​สอง​สามคำ​

หลังจากที่​ไอ​จน​ตัว​โยน​ เซียว​เห​มิงก็​กระอัก​เลือด​สีดำ​ออกจาก​ปาก​

“เจ้าโดน​ยาพิษ​” ปู้​ฟางมอง​อีก​ฝ่าย​ด้วย​สายตา​สงบนิ่ง​ กอง​เลือด​สีดำ​ดู​คุ้นตา​ชายหนุ่ม​มาก​ ดูเหมือนว่า​เซียว​เห​มิงจะถูก​พิษ​เดียว​กับ​นาย​ท่าน​รอง​ของ​เมือง​นคร​ใต้​ แต่​พิษ​ที่​เซียว​เห​มิงโดน​นั้น​ร้ายแรง​กว่า​มาก​

เนื้อ​ปลา​อสูร​มังกร​พินาศ​ใน​กระเป๋า​ของ​ปู้​ฟางอาจ​ช่วย​เซียว​เห​มิงได้​

“คราวนี้​ข้า​ทำ​ตนเอง​อับอาย​ขาย​ขี้หน้า​นัก​ ตอนที่​ข้าศึก​บุก​มาล้อม​นครหลวง​ไว้​ ข้า​กลับ​บาดเจ็บ​เอา​เสียได้​ ใน​สถานการณ์​หน้าสิ่วหน้าขวาน​เช่นนี้​ ข้า​เซียว​เห​มิงกลับ​มาล้ม​ป่วย​ข้า​คง​ไม่มีหน้า​ไป​สู้ชาวเมือง​คนใด​ได้​อีกแล้ว​ วันพรุ่งนี้​ฝ่าบาท​จะทรง​เจรจา​กับ​ราชา​อวี่​เป็น​ครั้งสุดท้าย​ หาก​เขา​ทำ​ไม่สำเร็จ​ สงคราม​จะอุบัติ​ขึ้น​ และ​ข้า​ก็​ไม่มีทาง​รอดชีวิต​จาก​การต่อสู้​ครั้งนี้​ได้​เลย​”

เซียว​เห​มิงฝืนยิ้ม​ขมขื่น​

“ใน​เมื่อ​ข้า​แทบจะ​ไม่เหลือ​โอกาส​ที่จะ​มีชีวิตรอด​ ข้า​จึงมาที่นี่​เพื่อ​ดื่ม​สุรา​หัวใจ​หยก​เยือกแข็ง​เหยือก​สุดท้าย​ใน​ชีวิต​”

ตึก​! ตึก​! ตึก​!

ทันทีที่​เซียว​เห​มิงพูด​จบ​ ร่าง​หนึ่ง​ก็​มาปรากฏตัว​ตรงหน้า​เขา​ ร่าง​นั้น​คือ​เซียว​เยีย​นอ​วี่​ผู้​สง่างามนั่นเอง​ นาง​ไม่ได้​สวม​ผ้าคลุม​หน้า​ จึงเห็น​ใบหน้า​งดงาม​ที่​เต็มไปด้วย​ความกังวล​ได้​ชัดเจน​

“ท่าน​พ่อ​…”

เสียง​ของ​เซียว​เยีย​นอ​วี่​สั่นเครือ​ด้วย​ความรู้สึก​มากมาย​ขณะ​มอง​ผู้​เป็น​บิดา​

ปู้​ฟางไม่ได้​พูด​อะไร​ เขา​ทำ​เพียง​หันหลัง​เดิน​กลับ​เข้าครัว​ไป​เท่านั้น​ ไม่นาน​นัก​ชายหนุ่ม​ก็​กลับมา​พร้อม​สุรา​หัวใจ​หยก​เยือกแข็ง​พลาง​วาง​มัน​ลง​ตรง​หน้าเซียว​เห​มิง

เซียว​เห​มิงมอง​เหยือก​ที่​ปู้​ฟางวาง​ลง​ตรงหน้า​ตน​แล้ว​หัวเราะ​ออกมา​ จากนั้น​ก็​ยก​จอก​ขึ้น​จด​ริมฝีปาก​ เขา​ดื่ม​สุรา​เข้าไป​หมด​จอก​ แล้ว​หัวเราะ​อี​กรอบ​ด้วย​ความ​เบิกบานใจ​

พิษร้าย​ซึมลึก​เข้าสู่​ร่าง​เซียว​เห​มิง แม้จะดูเหมือน​พิษ​ที่​นาย​ท่าน​รอง​แห่ง​ตระกูล​เซียว​เคย​ได้รับ​ แต่​ก็​ต่างกัน​เล็กน้อย​ เซียว​เยีย​นอ​วี่​รู้​ว่า​ปู้​ฟางสามารถ​ขับ​พิษ​ออกจาก​ร่างกาย​ท่าน​อา​สอง​ได้​ จึงคิด​จะมาลอง​ถามชายหนุ่ม​ดู​ แต่​นาง​ก็​รู้ดี​ว่า​วิธี​ขับ​พิษ​ของ​ปู้​ฟางต้อง​ใช้เนื้อ​ปลา​อสูร​มังกร​พินาศ​ นาง​รู้​ว่า​แก่น​ภายใน​เนื้อ​ปลา​เป็น​ยา​ที่​ช่วย​ขับ​พิษ​ออกจาก​ร่างกาย​ แต่​แม้แก่น​นั้น​จะช่วย​ขับ​พิษ​ออกจาก​ร่าง​ของ​ท่าน​อา​สอง​ได้​ ก็​ไม่ได้​แปล​ว่า​จะขับ​พิษ​ของ​เซียว​เห​มิงได้​

ปู้​ฟางชน​จอก​กับ​เซียว​เห​มิงจากนั้น​ก็​ยก​จอก​ขึ้น​จด​ริมฝีปาก​ แล้ว​ดื่ม​เข้าไป​หมด​จอก​

ขณะที่​ทั้งสอง​กำลัง​ดื่ม​สุรา​กัน​อย่าง​เต็มที่​ เสียงดัง​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​ก็​ปะทุ​อยู่​ภายนอก​กำแพงเมือง​ เสียง​นั้น​เป็น​เสียงคำราม​ยาม​ออกศึก​ของ​ทหาร​นับ​หมื่น​นาย​ที่​ปักหลัก​อยู่​นอก​นครหลวง​

เซียว​เห​มิงตกใจ​ เขา​กระแทก​จอก​ลง​บน​โต๊ะ​พลาง​ผุด​ลุกขึ้น​ยืน​

“ไม่ได้​จะเจรจา​กัน​ก่อน​หรือ​ เหตุใด​ราชา​อวี่​ถึงมาโจมตีเมือง​เอา​ตอนนี้​”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD