ข้าวที่ใช้ทำน้ำนมข้าวก็มาจากระบบเช่นกัน ข้าวทุกเมล็ดมีรูปร่างกลมป้อมเหมือนไข่มุก ภายในอัดแน่นไปด้วยพลังปราณมากมาย
ปู้ฟางใช้ทัพพีตักข้าวออกมาแล้วเทใส่โม่หิน จากนั้นก็ใส่ถั่วลิสงเข้าไปอีกหนึ่งทัพพี ตามด้วยน้ำ แล้วจึงเริ่มโม่อย่างเบามือ โม่หินที่ใช้เป็นโม่หินแบบดั้งเดิม พื้นผิวเรียบลื่นมันวาว
หลังจากที่โม่ส่วนผสมไปสักพัก น้ำนมข้าวข้นก็เริ่มไหลลงสู่ชามกระเบื้องสีฟ้าขาวที่ปู้ฟางนำมารองไว้ใต้โม่
เมื่อได้น้ำนมข้าวในปริมาณที่ต้องการแล้ว ปู้ฟางก็ทำความสะอาดโม่แล้วหยิบกระทะออกมา เขาเทน้ำมันลงไปครึ่งหนึ่งของกระทะ เปิดเตา รอให้น้ำมันร้อนได้อุณหภูมิที่ต้องการ
ตะหลิวที่ใช้ทอดขนมปังมีรูปร่างพิเศษ ไม่ได้เป็นทรงครึ่งวงกลมเหมือนตะหลิวทั่วไป แต่ค่อนข้างแบนเล็กน้อย
หลังจากที่เทน้ำนมข้าวลงไปบนตะหลิวแบน ปู้ฟางก็โรยหัวไชเท้าหั่นฝอยและหัวหอมสับบนน้ำนมข้าว หลังจากเทน้ำนมข้าวลงไปอีกสองชั้นโดยใส่เนื้อไว้ตรงกลาง เขาก็วางหอยนางรมตัวอ้วนโปะหน้า ราดทับด้วยน้ำนมข้าวชั้นสุดท้ายเพื่อห่อวัตถุดิบทั้งหมดไว้ข้างใน จนกลายเป็นขนมทรงครึ่งวงกลม
เมื่อน้ำมันในกระทะร้อนได้ที่จนเอามือไปอังแล้วรู้สึกได้ เขาก็จุ่มตะหลิวที่มีขนมปังหอยนางรมอยู่ข้างบนลงไปในน้ำมันเดือด ทันใดนั้น น้ำมันก็แตกดังซ่า ฟองน้ำมันสีเหลืองอ่อนปะทุขึ้นรอบขนมปัง
ขนมปังหอยนางรมนั้นไม่สามารถกลับได้ระหว่างกระบวนการทอด จึงถือเป็นบททดสอบความสามารถของพ่อครัวในการควบคุมความร้อนและเวลา แน่นอนว่ารสชาติของขนมปังย่อมไม่เหมือนกันหากสุกน้อยเกินไปหรือสุกมากเกินไป
หลังจากที่ภายนอกขนมปังสุกกรอบเป็นสีทองอร่ามเรียบร้อย ปู้ฟางก็นำขนมปังออกจากตะหลิว เอาไปพักบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน
เมื่อสะเด็ดน้ำมันจนหมด เพียงเท่านี้ขนมปังหอยนางรมทรงครึ่งวงกลมก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
น้ำนมข้าวที่ไม่ข้นจนเกินไปทำให้ยังมองเห็นวัตถุดิบภายในแป้งกรอบสีทองอยู่ กลิ่นหอมของของทอดกระจายออกจากขนมปังหอยนางรม เป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นอันมาก
ถั่วลิสงที่ใส่เข้าไปด้วยระหว่างขั้นตอนการโม่นั้น ทำให้น้ำนมข้าวมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษหลังทอดจนกรอบ นอกจากนี้ความร้อนจากน้ำมันและน้ำนมข้าวทอดกรอบยังทำให้วัตถุดิบภายในสุกได้ด้วยตัวเอง ทั้งยังเสริมให้กลิ่นของวัตถุดิบทุกชนิดเข้ากันมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นกลิ่นหอยนางรมที่มีรสชาติของทะเลเจืออยู่ ยังติดปลายจมูกผู้ใดก็ตามที่ได้ดมเข้าไปอย่างไม่ยอมหนีหายไปไหน
แค่มองขนมปังหอยนางรมปู้ฟางก็รู้สึกหิวมากแล้ว ระหว่างที่รอขนมปังชิ้นที่สองทอดเสร็จ ชายหนุ่มก็หยิบขนมปังชิ้นแรกขึ้นมากัดอย่างหิวโหย
กรอบ…
ความกรอบของแป้ง รสชาติที่เข้มข้น และน้ำชุ่มฉ่ำจากหัวไชเท้าหั่นฝอยไหลทะลักเข้าปากชายหนุ่มทันที เขารู้สึกราวกับว่าความอร่อยได้พุ่งตรงขึ้นสู่สมอง ทำให้รูขุมขนทั่วทั้งร่างเปิดออกเล็กน้อย
กรอบ หอม อร่อย! สามคำนี้อธิบายรสชาติของขนมปังหอยนางรมได้เป็นอย่างดี หลังจากที่กัดคำแรกเข้าไป ก็ไม่มีใครต้านทานความต้องการอยากกินคำที่สองได้ เมื่อกัดเข้าไปอีกคำ ปู้ฟางก็ได้รสชาติของเนื้อที่ระเบิดอยู่ในปาก แล้วพุ่งตรงเข้าขั้วหัวใจของเขาทันที
เมื่อกัดคำที่สาม ชายหนุ่มก็ได้รับรสของหอยนางรมเข้าไปเต็มๆ หอยนางรมไม่ได้ถูกทอดจนกรอบเนื่องจากถูกห่อไว้ด้วยน้ำนมข้าว จึงกักเก็บรสชาติของอาหารทะเลเอาไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม เมื่อกินคู่กับหัวไชเท้าหั่นฝอยและเนื้อบด รสชาติจึงอร่อยล้ำจนปู้ฟางอยากกลืนลิ้นตัวเองเข้าไปให้รู้แล้วรู้รอด
ขนมปังหอยนางรมนั้น… อร่อยจนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว!
ปู้ฟางสะกดกลั้นความรู้สึกอยากกินขนมปังหอยนางรมจนหมดชิ้น แล้วเอาขนมปังหอยนางรมที่ทอดอยู่ออกจากกระทะ
หลังจากที่ทอดขนมปังหอยนางรมเสร็จสามชิ้น ปู้ฟางก็ไม่ได้ทำต่อ
ขนมปังหอยนางรมนี้เมื่อทำเสร็จแล้วต้องกินทันที หากปล่อยทิ้งไว้นานไป น้ำหัวไชเท้าและไอน้ำจะทำให้ขนมปังนิ่มลงจนสูญเสียความกรอบ จนรสชาติไม่เหมือนเดิม
ปู้ฟางกินขนมปังหอยนางรมเข้าไปสามชิ้น แต่ก็ยังรู้สึกอยากกินอยู่ ภายในปากของเขาเต็มไปด้วยรสชาติของขนมปังหอยนางรม ส่วนภายในใจก็เต็มไปด้วยความต้องการกินต่อ
ชายหนุ่มทำความสะอาดครัวแล้วกลับเข้าห้องเพื่อไปนอน ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร เขาก็ต้องนอนตามตารางปกติเสมอ
วันต่อมา ท้องฟ้าอบอุ่นด้วยแสงแดด อากาศปลอดโปร่งสดใส
ปู้ฟางนอนเกินเวลานิดหน่อยจึงตื่นสายกว่าปกติเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่อย่างใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD