ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD นิยาย บท 55

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD ตอนที่ 55 มีคนกำลังก่อความไม่สงบ… เถ้าแก่ปู้ ท่านจะห้ามทัพหรือไม่
ตอนที่ 55 มีคนกำลังก่อความไม่สงบ… เ…

“เกิดอะไรขึ้นกัน! ทำไมถึงได้มีคนไม่ทำตามแผนที่วางไว้! หุนเชียนต้วน เจ้าสอนแผนให้ลูกน้องของตนเองประสาอะไร!”

ท่ามกลางฝูงชนในจัตุรัส สีหน้าของพ่อค้าในชุดคลุมลายปักที่กำลังยิ้มแป้นแปรเปลี่ยนเป็นมืดมนทันที เขาหันไปถามชายชราหลังโก่งข้างกายตนด้วยเสียงแหบห้าว

ใบหน้าของชายชราหลังโก่งบูดเบี้ยว เขายืดตัวขึ้นตรง คำพูดที่ออกจากปากเย็นเยียบ “เซียวเยวี่ย อย่าริอ่านใช้คำพูดเช่นนี้กับข้า ข้าไม่ใช่ลูกน้องรองมือรองเท้าเจ้า…”

ใบหน้าของชายชรายังคงบิดเบี้ยวต่อไป ก่อนจะลอกคราบออกเหมือนสายน้ำไหล แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าซีดขาว ชายผู้นี้มีเบ้าตาลึกโหล ดวงตาดูราวกับมีเปลวไฟวิญญาณเต้นตุบๆ อยู่ภายใน

“ยอดเยี่ยมไปเลย! สำนักวิญญาณช่างไร้เทียมทานเสียจริง… หากแผนการของเราล้มเหลว คงเป็นความผิดใครไปไม่ได้นอกจากเจ้า” ร่างอ้วนของพ่อค้าผู้มั่งคั่งหดลงเรื่อยๆ เสื้อผ้าระเบิดออกเป็นชิ้นๆ เผยให้เห็นร่างสูงโปร่งที่อยู่ภายใน

ใบหน้าหล่อเหลาราวรูปสลักน้ำแข็งที่อยู่ยั่งยืนมานับหมื่นปีหันไปมองหุนเชียนต้วนที่อยู่ข้างกาย เสียงกระบี่กังวานดังขึ้น พร้อมด้วยร่างของเซียวเยวี่ยที่ดีดขึ้นไปในอากาศ กระแสพลังปราณกระจายตามแรงอัด ชายหนุ่มพุ่งตรงไปที่ลานประหารทันที ทิ้งไอน้ำสีขาวไว้ตามทางที่ตนผ่าน

สีหน้าของหุนเชียนต้วนพลันเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง ก่อนพ่นลมเยาะอย่างเย็นชา เขาเขย่งเท้าแล้วกระโจนขึ้นไปในอากาศด้วยเช่นกัน ชุดคลุมสีดำเปิดออก พลังปราณเที่ยงแท้สกัดวิญญาณไหลบ่าสู่บรรยากาศภายนอก

ที่กลางลานประหาร แม่ทัพใหญ่เซียวเหมิงหรี่ตาลง เงยหน้าขึ้นมองร่างสองร่างที่กำลังพุ่งเข้ามาหาตน เขาเอามือตบโต๊ะ ตะโกนด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวเหมือนสายฟ้าฟาดที่สะท้อนหายไปในระยะไกล

“ไอ้ชั่วสามานย์! เมื่อวานข้าฆ่าเจ้าไม่สำเร็จ แต่อย่าคิดเลยว่าวันนี้เจ้าจะหนีเงื้อมมือของข้าไปได้อีก!”

ตูม!

รังสีพลังน่าสะพรึงกลัวของผู้ฝึกตนระดับเจ็ดขั้นนักพรตยุทธการพุ่งขึ้นสูงเสียดฟ้า ขณะแม่ทัพใหญ่เซียวเหมิงเปลี่ยนเป็นลำแสงที่พุ่งตรงเข้าหาผู้บุกรุกทั้งสอง

มุมปากของโอวหยางซงเหิงฉีกยิ้มกว้าง เท้ากระทืบลงบนพื้นแล้วกระโจนออกไปเช่นกัน เขาเหยียบลงบนลานประหาร อัดผู้ฝึกตนจากสำนักสองคนที่กำลังพุ่งเข้าใส่ลานประหารปลิวกระเด็นออกไปในฝ่ามือเดียว

“ในเมื่อข้า โอวหยางซงเหิงคนนี้ เป็นผู้ดูแลการประหารให้สำเร็จเสร็จสิ้น ใครหน้าไหนยังอาจหาญมาทำตัวโอหังอีก!”

กระแสพลังปราณทรงพลังยังคงปะทุไม่หยุดในหมู่ผู้ชม เหล่าองครักษ์พยัคฆ์ร้ายแห่งตระกูลเซียวประเดิมด้วยการพุ่งเข้าต่อสู้กับผู้เยี่ยมยุทธ์จากสำนักนอกอาณาเขต เสียงการต่อสู้ดังไม่ขาดสายภายในประตูจัตุรัสมายาสวรรค์ เปลี่ยนลานประหารให้กลายเป็นลานสังหารหมู่ภายในพริบตา

ภายในส่วนลึกของพระราชวังหลวงสีทองเจิดจรัส ชายชราผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์รูปมังกร พร้อมด้วยขันทีผมสีขาวโพลนที่ยืนอยู่เคียงข้าง ศีรษะก้มต่ำมองพื้น

ชายชราผู้นั้นสวมมงกุฎสีม่วงประดับด้วยเพชรพลอยมีค่ามากมาย ผมของเขามัดขึ้นเป็นมวยสูง ทั้งยังสวมผ้าคาดศีรษะสีทองปักรูปมังกรสองตัวกำลังแย่งชิงไข่มุกกัน แม้เขาจะดูชราภาพมาก แต่พลังอำนาจแห่งความเป็นจักรพรรดิก็ยังคงอยู่

“เหตุการณ์ที่ประตูจัตุรัสมายาสวรรค์ดำเนินไปตามแผนการของเราหรือไม่” เสียงแผ่วเบาดังจากปากของจักรพรรดิชรา

“ฝ่าบาทพะย่ะค่ะ แม่ทัพใหญ่เซียวเหมิงและแม่ทัพโอวหยางเริ่มการประหารแล้ว ผู้ฝึกตนจากสำนักต่างๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ภายในนครหลวงหมดความอดทนและเดินหน้าเปิดศึกในที่สุด” มุมปากของขันทีผมขาวยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ขณะที่เขาโค้งคำนับลงเล็กน้อย แล้วพูดตอบด้วยเสียงสูง

“พวกนั้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปิดศึกที่ลานประหาร มิเช่นนั้นจะต้องเสียผู้ฝึกตนระดับหกขั้นจักรพรรดิยุทธการไปถึงหกคน… ด้วยเหตุนี้แม้จะรู้ดีว่าเป็นกับดักที่ข้าวางเอาไว้ล่อ ก็ยังต้องกระโดดเข้ามาตะครุบเหยื่ออยู่ร่ำไป… แค่ก” จักรพรรดิยิ้มบาง ดวงตาลุ่มลึกอ่านยาก เขาไอออกมาเบาๆ

“ฝ่าบาทช่างทรงพระปรีชาสามารถเสียจริง สำนักเหล่านี้จะต้องถูกทำลายอย่างราบคาบแน่นอนพะย่ะค่ะ และจักรวรรดิวายุแผ่วของเราจะกลับมาสงบสุขอีกครั้ง” ขันทีลูบหลังจักรพรรดิอย่างเบามือพร้อมพูดเสียงอ่อน

จักรพรรดิโบกมือให้อีกฝ่ายถอยไป แล้วถอนหายใจเบา “ข้ารู้จักร่างกายตนเองดี ข้ารู้ว่าถึงอย่างไรคงอยู่ไม่ถึงวันที่ทุกสำนักถูกทำลายลงราบคาบเป็นแน่ มิเช่นนั้นคงไม่ต้องลำบากสร้างกับดักนี้มาล่อแมลงหรอก… เสี่ยวฟู่ เจ้าจงไปช่วยพวกนั้นเถิด จากแหล่งข่าวของเรา ดูเหมือนว่าจะมีเพียงจิ้งจอกเฒ่าแห่งสำนักความลับแห่งสวรรค์เท่านั้นที่ไม่ได้เข้าร่วมด้วย ส่วนสำนักอื่นนั้นน่าจะนำผู้ฝึกตนมาเยอะพอตัวเลยทีเดียว ข้าเกรงว่าแม่ทัพเซียวจะรับมือทั้งหมดไม่ไหว”

ขันทีผมขาวก้าวออกมาหนึ่งก้าว โค้งคำนับเล็กน้อยแล้วเอื้อนเอ่ย “น้อมรับพระบัญชาพะย่ะค่ะ”

จักรพรรดินั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างโดดเดี่ยวขณะมองขันทีเดินจากไป เหลือเขาอยู่เพียงคนเดียวในพระราชวังมโหฬาร

“ด้วยความช่วยเหลือของเสี่ยวฟู่ ครั้งนี้… น่าจะสำเร็จผล ต่อให้ทำลายพวกนั้นได้ไม่หมด ก็น่าจะตัดกำลังไปได้มากโขเลยทีเดียว… แค่ก แค่ก แค่ก”

ศึกใหญ่ที่ประตูจัตุรัสมายาสวรรค์นั้นดุเดือดเลือดพล่านไม่น้อย จำนวนผู้ฝึกตนจากสำนักน้อยใหญ่ที่แทรกซึมเข้ามาในนครหลวงมากกว่าที่แม่ทัพใหญ่และคนอื่นๆ คาดการณ์ไว้เล็กน้อย ทหารที่ยืนเฝ้าประตูทางเข้าถูกฆ่าตายไปมาก ขณะที่ผู้ฝึกตนจากนอกอาณาจักรหลั่งไหลเข้ามา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD