ช่วงเวลาแห่งความหนาวเหน็บตามฝนแห่งฤดูใบไม้ร่วงมาติดๆ และเมื่อฝนตกครบสิบครั้ง ฤดูหนาวก็จะมาเยือน
หลังจากที่ฝนฤดูใบไม้ร่วงตกมาสักพัก อุณหภูมิในนครหลวงก็ลดลงต่ำอย่างต่อเนื่อง ลมฤดูใบไม้ร่วงเริ่มเปลี่ยนเป็นลมหนาวจับขั้วหัวใจของฤดูหนาว ปู้ฟางตื่นเช้าขึ้นมาในวันนั้น และพบว่าตนเองหนาวเสียจนไม่อยากจะจากเตียงไปไหน
หลังจากที่ล้างหน้าล้างตาเรียบร้อย ชายหนุ่มก็เปลี่ยนไปใส่ชุดคลุมกันหนาวอย่างหนาแล้วเปิดร้าน ลมหนาวพัดหอบเข้ามาในร้าน ทำให้ปู้ฟางรู้สึกเสียวสันหลังวาบขณะที่ลมหนาวแทรกผ่านเสื้อเข้าไปยังต้นคอของเขา
ปู้ฟางถูมือสองข้างเข้าด้วยกัน พลางสูดลมเย็นเข้าปอดเล็กน้อย
ชายหนุ่มเหลือบมองเจ้าดำที่นอนอยู่บนพื้น เขาเม้มปากและคิด “เจ้าหมาขี้เกียจนี่… วันๆ เอาแต่นอนกินบ้านกินเมือง ทำไมมันถึงไม่มีความองอาจเช่นที่อสูรเวทในตำนานควรจะมีเลยนะ ความจริงแล้วมันต้องยืนจังก้าอยู่หน้าร้านอย่างยิ่งใหญ่เพื่อเพิ่มความน่าเกรงขามให้ร้านสิถึงจะถูก”
“ไอ้หนู ท่านสุนัขผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้อยากกินซี่โครงเปรี้ยวหวาน” เจ้าดำลืมตาขึ้นพูดกับปู้ฟางด้วยน้ำเสียงขี้เกียจ เสียงของมันไม่ได้ดูมีอายุ แต่เป็นเสียงที่สมชายชาตรีและดูมีอำนาจดึงดูดใจคนฟัง
ปู้ฟางเลิกคิ้ว “เจ้าหมาขี้เกียจ นอนกินไม่จ่ายเงินมาจนถึงตอนนี้ ยังกล้าสั่งอีกรึว่าจะชักดาบรายการอะไรดี”
เจ้าดำกลอกตาแล้วเมินปู้ฟางไปโดยสิ้นเชิง มันซุกหน้าลงในอุ้งมือสองข้างแล้วนอนต่อ ชัดเจนว่าปู้ฟางจะทำหรือไม่ทำก็ตามใจ
ชายหนุ่มโกรธเป็นอันมากเมื่อเห็น… เจ้าสุนัขขี้เกียจนี่กล้าดีอย่างไรมาเมินเขา! มันไม่กลัวโดนยัดซอสพริกอเวจีเข้าไปในซี่โครงเปรี้ยวหวานรึ รับรองว่าจากที่นอนอืดคงได้เปลี่ยนเป็นนอนรอความตายแน่
ปู้ฟางหันหลังกลับเข้าครัวไป แม้ว่าเขาจะไม่อยากทำซี่โครงเปรี้ยวหวาน แต่เมื่อวานเจ้าดำก็ช่วยร้านเอาไว้จริงๆ ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มจึงตัดสินใจยอมทำตามคำขอของมันสักครั้ง
ชายหนุ่มหยิบวัตถุดิบหลักเพื่อทำซี่โครงเปรี้ยวหวานออกมาจากตู้เย็น อันประกอบไปด้วยซี่โครงของหมูป่าเมฆาทะยาน แป้งจำนวนหนึ่ง และซอสที่ใช้ปรุงรส
ปู้ฟางวางซี่โครงลงบนเขียง เมื่อเขาโบกมือ มีดทำครัวที่คมจนเป็นประกายก็พลันหมุนวนอยู่ในมือ หลังจากที่หมุนมีดอยู่สองสามครั้ง ปู้ฟางก็กระแทกสันมีดลงบนซี่โครงอย่างรวดเร็ว
การทุบเนื้อด้วยสันมีดทำให้เนื้อนิ่มและหั่นง่ายขึ้น หลังจากที่ฝึกทักษะการใช้มีดฝนดาวตกมาหลายวัน ทักษะการใช้มีดทำครัวของเขาก็ดีขึ้นเล็กน้อย มือที่หั่นซี่โครงเป็นระวิงนั้นรวดเร็วจนเห็นเป็นเพียงภาพติดตาเท่านั้น
ตอนที่ปู้ฟางลองทำซี่โครงเปรี้ยวหวานเป็นครั้งแรก เขารู้สึกว่าการหั่นซี่โครงเป็นเรื่องที่ยากมากจนทำให้แขนล้า แต่เมื่อทักษะการใช้มีดของเขาพัฒนาขึ้นแล้ว ซี่โครงที่เคยเป็นปัญหาก็ไม่ได้หั่นยากอีกต่อไป
ชายหนุ่มหั่นซี่โครงที่เต็มไปด้วยพลังปราณออกเป็นชิ้นๆ จากนั้นก็ใส่ซี่โครงที่หั่นแล้วลงไปในแป้งชุบสำหรับทอดที่เตรียมไว้ คลุกเคล้าให้ถ้วนทั่วสม่ำเสมอกันทุกชิ้น
เขารอให้ความร้อนลอยขึ้นมาจากกระทะที่มีน้ำมันอยู่เต็ม เมื่อไอร้อนจากน้ำมันเดือดมากพอลวกมือที่อังไว้ ชายหนุ่มก็ใส่ซี่โครงชุบแป้งลงไปในกระทะเพื่อทอด
ฉ่า!
เนื้อที่กลิ้งกระดอนในน้ำมันส่งกลิ่นหอมฉุยออกมา
เมื่อทอดเนื้อทุกชิ้นจนกรอบได้ที่ ปู้ฟางก็เทซี่โครงทอดลงในชามใหญ่ จากนั้นก็ราดซอสปรุงรสเปรี้ยวหวานลงไป และคลุกเคล้าให้ทั่วทุกซอกทุกมุมก่อนจัดใส่จาน
“เจ้าดำ ได้เวลาอาหารแล้ว” ปู้ฟางเดินออกมาจากครัวพร้อมด้วยซี่โครงเปรี้ยวหวานในมือ แล้วร้องเรียกเจ้าสุนัขให้มากินข้าว
ดวงตาที่เปิดอยู่เพียงครึ่งเดียวของเจ้าดำเป็นประกายขึ้นมาทันที จมูกดมฟุดฟิดในอากาศ ลิ้นของมันห้อยออกมานอกปาก สายตาจ้องไปที่จานซี่โครงเปรี้ยวหวานในมือปู้ฟางเขม็ง
ทันทีที่วางจานลงตรงหน้าเจ้าดำ มันก็เริ่มกินอาหารในจานอย่างตะกละตะกลาม พร้อมส่ายหางดุ๊กดิ๊ก
มุมปากของปู้ฟางฉีกกว้างเป็นรอยยิ้ม ชายหนุ่มลูบขนนุ่มลื่นสลวยของเจ้าสุนัข จากนั้นก็ลุกขึ้นลากเก้าอี้ไปวางที่ปากทางเข้า เขานั่งลงบนเก้าอี้เพื่ออาบแดดอย่างสบายอารมณ์
แม้เมื่อวานจะเกิดการต่อสู้ระหว่างผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งนครหลวงภายในร้านอาหารเล็กๆ แห่งนี้ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตประจำวันของปู้ฟางเปลี่ยนไปแต่อย่างใด
แสงแดดของปลายฤดูใบไม้ร่วงนั้นอบอุ่นสบายยิ่งกว่าเดิม เสื้อผ้าของปู้ฟางส่งกลิ่นหอมแดดชื่นใจภายใต้แสงอาทิตย์
ช่างเป็นวันที่ดีอะไรอย่างนี้
กลุ่มเจ้าอ้วนจินและสหายเดินเข้ามาใกล้ร้านอย่างองอาจ เจ้าอ้วนจินที่นำหัวขบวนนั้นเดินกะเผลก ใบหน้าอ้วนบวมปูดเล็กน้อย
“อรุณสวัสดิ์เถ้าแก่ปู้ อาบแดดอยู่รึ ช่างสบายอารมณ์เสียจริงนะ” เจ้าอ้วนจินทักทายปู้ฟาง
ชายหนุ่มพยักหน้ารับ จ้องไปที่เจ้าอ้วนจินอย่างงุนงงเล็กน้อย “เหตุใดเจ้าจึงหน้าบวม เจ้าอ้วนพอแล้ว ไม่ต้องทำให้มันอ้วนกว่าเดิมหรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD