ตอนที่ 81 สุนัขตัวนี้นี่มันจองหองจริงๆ! – ตอนที่ต้องอ่านของ ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD
ตอนนี้ของ ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายSlice of Lifeทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 81 สุนัขตัวนี้นี่มันจองหองจริงๆ! จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
“ใคร! ใครพูดน่ะ!”
เมื่อหุนเชียนอวิ่นได้ยินเสียงถือดีนั้น เปลวไฟวิญญาณในดวงตาก็ขยายขนาดขึ้น พลังปราณรอบตัวทวีความน่ากลัวมากขึ้นอีก เขามองไปรอบๆ เพื่อหาต้นตอของเสียง
ทว่าก็หาใครที่ดูมั่นใจพอจะเอ่ยประโยคเหล่านั้นออกมาไม่พบแม้แต่น้อย ลูกค้าภายในร้านต่างพากันค้อมตัวลงหลบหน้าเมื่อชายชรามองผ่าน ไม่มีคนอวดดีผู้นั้นอยู่ในหมู่คนเหล่านี้อย่างแน่นอน
ปู้ฟางมุ่นคิ้ว สีหน้าขรึม พื้นดินที่ถูกน้ำแกงหกใส่ยังคงมีไอร้อนลอยออกมา ความร้อนเหล่านั้นสลายหายไปทันทีที่เจออากาศเย็น ทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมเข้มของน้ำแกงไก่
“ตรวจพบรังสีสังหารมุ่งตรงมาที่นายท่าน เริ่มปฏิบัติการคุ้มครอง”
เสียงจักรกลดังขึ้น พร้อมด้วยร่างใหญ่สีขาวที่รีบพุ่งออกจากร้านมายืนอยู่ข้างปู้ฟางด้วยเสียงอันดัง เจ้าขาวยืนหลังตรง ดวงตากะพริบแสงสีแดง
“หุ่นเชิดรึ!” หุนเชียนอวิ่นหาต้นตอเสียงไม่เจอจึงล้มเลิกความพยายาม เขาประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อหันมาเห็นเจ้าขาวปรากฏตัวขึ้นข้างปู้ฟาง
แม้จะได้ยินเรื่องราวของร้านแห่งนี้มาบ้าง แต่เขาก็ไม่เคยพยายามหาต้นตอจริงๆ สักครั้ง ชายชรารู้เพียงว่าร้านนี้แข็งแกร่งมากจนไล่ขั้นนักพรตยุทธการอย่างเซียวเหมิงกระเจิงได้ แต่ไม่รู้มาก่อนว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของร้านนี้อยู่ที่จุดใด ดูท่าแล้ว… อาจเป็นเจ้าหุ่นเชิดนี่ก็เป็นได้
เจ้าดำค่อยๆ เดินเข้ามาหาด้วยท่าทางเหมือนแมวเยื้องย่าง เมื่อมันเห็นว่าเจ้าขาวยืนอยู่ข้างปู้ฟาง ก็กลอกตาแล้วเลิกเดิน
“เจ้าสังหารลูกค้าข้าแถมทำลายอาหารของข้า… ให้อภัยไม่ได้!” ปู้ฟางสูดหายใจเข้าลึก ดวงตาซึ่งจับจ้องอยู่ที่หุนเชียนอวิ่นเย็นชาลง
“ฮึ! โอหังอะไรเช่นนี้… ชายแก่คนนี้นี่แหละจะมาทดสอบความแข็งแกร่งของร้านเจ้าในวันนี้!” หุนเชียนอวิ่นถอยไปหนึ่งก้าว เขาโบกแขนเหี่ยวๆ ทันใดนั้นร่างอสูรยักษ์ข้างหลังก็พลันขยับเขยื้อน
หมอกสีดำพวยพุ่ง อสูรยกมือขึ้นเรียกหอกสีดำออกมาอีกครั้ง หมอกมืดหมุนวนรอบหอกพร้อมด้วยพลังงานรุนแรงร้ายกาจ
เสียงหอกพุ่งแหวกอากาศดังเข้ามาใกล้ หลังร่างอสูรเจ้าอเวจีโยนหอกมาทางร้านด้วยแรงมหาศาล มันพุ่งเข้าหาปู้ฟางพร้อมเสียงหวีดหวิว ราวกับว่าแม้แต่อากาศยังถูกฉีกขาด
ดวงตาของเจ้าขาวกะพริบวาบ มันพุ่งมาอยู่ข้างหน้าปู้ฟาง ยกแขนยักษ์ขึ้นพุ่งหมัดออกไปใส่หอกสีดำ
เสียงระเบิดดังกึกก้อง ตามมาด้วยลมหมุนที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ตรอกทั้งตรอกถูกปกคลุมด้วยหมอกสีดำหนาจนมองไม่เห็นในพริบตา
ลูกค้าในร้านของปู้ฟางต่างตกใจเสียงดังน่ากลัวนั้น แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือหมอกสีดำไม่ได้ลอดเข้ามาในร้านแต่อย่างใด ราวกับว่าหมอกนั้นถูกกั้นไว้ด้วยเกราะคุ้มกันที่มองไม่เห็น
หุนเชียนอวิ่นพ่นลมเยาะขณะมองสถานการณ์จากระยะไกล แม้แต่ขั้นนักพรตยุทธการยังต้องหนาวหากเผชิญกับหอกเจ้าอเวจีพิฆาต แล้วหุ่นเชิดกระหลั่วนั่นจะไปทำอะไรได้
ตูม!
แสงสีแดงสองจุดสว่างออกจากหมอกมืด ฉับพลันแสงนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีม่วง ลมหมุนปรากฏขึ้นอีกครั้ง พัดพาหมอกให้สลายหายไปจนหมดสิ้น
ทันทีที่หมอกจางหาย ผลการประมือก็ปรากฏให้เห็นต่อสายตา เมื่อหุนเชียนอวิ่นเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็ต้องตกใจจนก้าวขาไม่ออก เปลวไฟวิญญาณในดวงตากะพริบถี่อย่างบ้าคลั่ง
ร่างของเจ้าขาวกลายเป็นสีโลหะวาววับ ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีม่วงเย็น แขนทั้งสองข้างผสานเป็นกากบาทอยู่เบื้องหน้าร่างอ้วน ดูเหมือนว่ามันจะใช้แขนนี้กันการโจมตีของหอกเมื่อครู่ บนตัวไม่มีร่องรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย
ปู้ฟางยืนหน้าตายอยู่ข้างหลังเจ้าขาว เขามองไปที่ชายชราตรงหน้าด้วยสายตาไร้อารมณ์ ไม่มีความกลัวหรือกังวลให้เห็นแม้แต่น้อย
“เริ่มปฏิบัติการต่อสู้!” เสียงจักรกลของเจ้าขาวเย็นเยียบขึ้นอีก ดวงตาสีม่วงอัดแน่นไปด้วยรังสีสังหาร
เสียงหึ่งของเครื่องกลดังขึ้น เจ้าขาวตาสีม่วงทะยานไปข้างหน้าทันที ความเร็วของมันมากเสียจนตาเปล่ามองแทบไม่เห็น จู่ๆ หุนเชียนอวิ่นก็เริ่มหายใจไม่ออก
ชายชราพ่นลมอย่างโกรธเกรี้ยวแล้ววาดมือเหี่ยวย่นออกมาตรงหน้า เขาขอยืมพลังจากร่างอสูรเจ้าอเวจีเบื้องหลังตนควบคุมพลังปราณสีดำที่หมุนวนอยู่รอบกาย จากนั้นก็ส่งการโจมตีด้วยฝ่ามือไปหาเจ้าขาว
ทั้งสองพุ่งเข้าปะทะกันกลางอากาศ พลังปราณรุนแรงส่งกระแสตีกลับกระจายเป็นวงไปทั่วบริเวณ กำแพงตรอกเริ่มปริร้าวราวกับจะพังทลายลงมาด้วยแรงกระแทก
“ไอ้พวกโง่… กล้าพูดจาสามหาวกันท่านสุนัขผู้สูงศักดิ์ผู้นี้รึ” เจ้าดำเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาอวดดี เสียงอ่อนโยนของชายชาตรีเต็มไปด้วยแววเย้ยหยัน
ทั้งหกคนชะงักไปทันที… ต่างคนต่างทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ
“ไอ้หมาพูดได้ตัวนี้มันจองหองสิ้นดี!” เหล่าผู้ฝึกตนขั้นราชันยุทธการโวยวายทันที เป็นแค่สุนัขธรรมดาแต่กลับกล้าทำตัวโอหังต่อหน้าพวกเขา ให้อภัยไม่ได้เด็ดขาด
“ไอ้หมาบ้า! หากวันนี้ข้าไม่ได้เอาเนื้อเจ้ามาแกง ข้าจะเปลี่ยนไปใช้แซ่หมาแบบเจ้าเลย!” ผู้ฝึกตนขี้โมโหคนหนึ่งทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยวแล้วสร้างหอกสีดำจากร่างเจ้าอเวจีทันที
หอกพุ่งตรงเข้าหาเจ้าดำพร้อมเสียงหวีดหวิว
“เจ้ากล้าเรียกไอ้ของเล่นเด็กปาหี่นี่ว่าหอกเจ้าอเวจีพิฆาตรึ ถ้าไม่บอกข้าก็นึกว่าเป็นแค่เข็มเย็บผ้านะเนี่ย… ต่อให้เอามาเกาที่ที่ข้าคัน ท่านสุนัขผู้ยิ่งใหญ่อย่างข้ายังไม่เอาเลย” เจ้าดำกลอกตา
หอกสีดำพุ่งเข้าปะทะหัวของเจ้าดำอย่างรุนแรง เจ้าสุนัขสะบัดหูเล็กน้อย ฉับพลันหอกก็แตกกลายเป็นเสี่ยงๆ กลายสภาพเป็นพลังปราณสีดำที่สลายหายไปในอากาศทันที
ผู้ฝึกตนทั้งหกพลันตัวแข็งทื่อ เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกัน พวกเขาตาฝาดไปรึ…
“ถึงไอ้ตัวบ้านี่จะไม่ใช่ไอ้แก่ที่โลกใต้ดินนั่นจริงๆ แต่ท่านสุนัขผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้ก็ยังเกลียดมันเสียยิ่งกว่าอะไรดี เพราะพวกเจ้าบังอาจมาขัดจังหวะการนอนกลางวันของข้า ดังนั้นพวกเจ้าทุกคน… จงตายเสียเถอะ” เจ้าดำพูดเสียงเรียบพร้อมยื่นอุ้งเท้าสะอาดน่ารักออกไปข้างหน้า อุ้งเท้านั้นพุ่งเข้าหาร่างของเจ้าอเวจีช้าๆ
ปู้ฟางเลิกคิ้วขึ้น จากตรงที่เขายืนอยู่ อุ้งเท้าของเจ้าดำที่ยื่นออกไปนั้นค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นอุ้งเท้ายักษ์ที่บังท้องฟ้าเอาไว้จนมิด
เจ้าดำมองร่างเจ้าอเวจีใต้อุ้งเท้าของมันแล้วพ่นลมอย่างเดียดฉันท์ จากนั้นก็ฟาดอุ้งเท้าลง
…………………….
Related
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD