กษัตริย์ไป๋พูดด้วยเสียงทุ้ม “ได้ยินว่า ในเมืองเหมียว มีผู้แข็งแกร่งแดนเทพไม่น้อย อิทธิพลชั้นนำใหญ่ๆ ของเมืองเหมียว ไม่ใช่อยากจะเข้าสังคมเหรอ? ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมพวกเราถึงไม่รวมกันกับอิทธิพลของเมืองเหมียว มาจัดการหยางเฉินล่ะ?”
“อะไรนะ?”
ชั่วขณะนั้นกษัตริย์เซวสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ “รวมกันกับอิทธิพลของเมืองเหมียว แม้แต่หยางเฉินที่ครอบครองความสามารถแดนเทพไว้ พวกเรายังทำอะไรไม่ได้ ถ้าพวกเราล่ออิทธิพลของเมืองเหมียวออกมาอีก นี่ไม่ใช่หาเหาใส่หัวเหรอ?”
กษัตริย์เฉารีบส่ายหน้าทันที “ไม่ได้! รวมกันกับอิทธิพลของเมืองเหมียวไม่ได้เด็ดขาด ด้วยความสามารถของพวกเราตอนนี้ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอิทธิพลเมืองเหมียวเลย”
กษัตริย์หม่าพูดแบบเสียงทุ้ม “ไม่ว่าอย่างไร พวกเราตระกูลเดอะคิงก็เป็นตระกูลชั้นนำของจิ่วโจว แต่ถ้าเกิดล่ออิทธิพลชั้นนำของเมืองเหมียวออกมา เกรงว่าไม่ช้าก็เร็วพวกเราคงโดนพวกเขาจับรวมแน่”
พวกเขาไม่ได้โง่ เมืองเหมียวครอบครองผู้แข็งแกร่งแดนเทพมากมาย เกรงว่าอิทธิพลเมืองเหมียวแห่งใดก็ตามที่ครอบครองผู้แข็งแกร่งแดนเทพ ล้วนสามารถกำจัดพันธมิตรตระกูลเดอะคิงได้
กษัตริย์ไป๋หัวเราะเยาะทีหนึ่ง “ใครบอกพวกคุณว่าผมอยากรวมกันกับอิทธิพลของเมืองเหมียวจริงๆ?”
“กษัตริย์ไป๋หมายความว่า?”
กษัตริย์สามคนที่เหลือมึนงงหมดแล้ว หรือว่ากษัตริย์ไป๋ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น?”
กษัตริย์ไป๋พูดจาแบบหน้านิ่งสงบ “เท่าที่ผมรู้ เมืองเหมียวมีข้อห้ามบางอย่างอยู่ ทำให้พวกเขาเข้าสู่สังคมไม่ได้ ก็เหมือนกับตระกูลบู๊โบราณที่ไม่ปรากฏตัวเหล่านั้น”
“ปัจจุบันนี้ เมืองเหมียวมีคนอยากจะเข้าสู่สังคมแบบอดใจรอไม่ไหวแล้ว ดังนั้นถึงส่งผู้แข็งแกร่งของแต่ละที่ แฝงตัวอยู่ในตระกูลเดอะคิงของพวกเรา”
“ถ้าหากพวกเขาสามารถเข้าสู่สังคมได้ตามชอบใจจริง จะต้องหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้เหรอ?”
ฟังคำพูดของกษัตริย์ไป๋แล้ว กษัตริย์คนอื่นต่างทำหน้าตกใจ กษัตริย์เฉาอดเอ่ยปากพูดไม่ได้ “กษัตริย์ไป๋หมายความว่า เพราะมีข้อห้ามแบบนี้อยู่ อิทธิพลเมืองเหมียวจึงไม่กล้าเข้าสู้สังคมอย่างสง่าผ่าเผย”
ดังนั้นคือ พวกเราเพียงต้องร่วมมือกับอิทธิพลสักแห่งที่ครอบครองผู้แข็งแกร่งแดนเทพ รับปากให้ผลประโยชน์บางอย่างแก่พวกเขา ให้ผู้แข็งแกร่งแดนเทพของเมืองเหมียวมาจัดการหยางเฉิน”
“ขอเพียงพวกเราเตรียมพร้อมเต็มที่ ถ้าเกิดหยางเฉินตาย พวกเราก็ควบคุมเมืองเยี่ยนตูมาไว้ในเมืองอย่างราบรื่นได้ ตอนนั้น ขอเพียงพวกเราสนับสนุนคิงแห่งเยี่ยนตูสักคนหนึ่ง อาศัยหุ่นเชิดคนนี้ เอาทั้งตี้ชุนมาควบคุมในมือของพวกเรา”
“แม้แต่เมืองเหมียวยังครอบครองผู้แข็งแกร่งแดนเทพไว้หลายคน ตี้ชุนต้องมีผู้แข็งแกร่งแดนเทพแน่ แต่ที่ไม่เหมือนกับเมืองเหมียวคือ ถ้าคิงแห่งเยี่ยนตูปรากฏตัวขึ้น ตี้ชุนก็สามารถเข้าสู่สังคมได้แล้ว”
“ขอเพียงตี้ชุนถูกพวกเราควบคุมไว้หมด ต่อให้เป็นเมืองเหมียว พวกเราก็มีความมั่นใจสู้รบกับพวกเขาสักตั้ง!”
กษัตริย์ไป๋พยักหน้า กวาดสายตามองกษัตริย์คนอื่น “เหมือนแบบนั้นที่กษัตริย์เฉาบอก พวกเราเพียงต้องพึ่งความช่วยเหลือจากอิทธิพลเมืองเหมียว มาจัดการหยางเฉิน ขอเพียงควบคุมตี้ชุนไว้ในมือพวกเราได้ เมืองเหมียวก็ไม่มีอะไรเป็นภัยแล้ว”
ทันใดนั้น ในห้องประชุมทางไกลผ่านวิดีโอของพันธมิตรตระกูลเดอะคิงจมสู่ความเงียบงันอีกครั้ง
บนหน้าแต่ละคนเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด แม้แต่กษัตริย์ไป๋ที่เสนอแผนการนี้ออกมา ก็ทำหน้าขึงขังเช่นกัน
ในที่นี้ล้วนเป็นผู้นำของตระกูลเดอะคิง พวกเรารู้ชัดอย่างมากถึงความอันตรายของแผนการอันนี้
ถ้าหากสำเร็จ อย่าว่าแต่หยางเฉินเลย แม้แต่หยางเฉินสิบคน พวกเขาก็มีความมั่นใจในการเผชิญหน้า
แต่ถ้าเกิดล้มเหลว ผลสุดท้ายจะร้ายแรงอย่างมาก เกรงว่าพันธมิตรตระกูลเดอะคิง ล้วนต้องพังพินาศเพราะเหตุนี้
“เอาแบบแล้วกัน พวกเราลงคะแนนตัดสินดีกว่า! เสียงข้างน้อยยอมให้เสียงข้างมาก เป็นอย่างไร?”
กษัตริย์ไป๋ทำลายความเงียบลงก่อน
“ได้! ลงคะแนนตัดสินใจ!”
กษัตริย์คนอื่นๆ ต่างกัดฟันพูดทั้งหมด
“เห็นด้วยว่าจะร่วมมือกับอิทธิพลเมืองเหมียวจัดการหยางเฉิน ยกมือ!”
กษัตริย์ไป๋รีบยกมือขวาขึ้นทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...