สรุปเนื้อหา บทที่ 1205 จำเป็นต้องอยู่ – The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง
บท บทที่ 1205 จำเป็นต้องอยู่ ของ The king of War ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
แม้ว่าจะอยู่ไกลจากกัน แต่ทุกการเคลื่อนไหวของหยางเฉินก็ยังคงส่งผลกระทบต่อจิตใจของทุกคนที่อยู่ที่นั่น
“เขาจะทำอะไร?”
หลงเคอขมวดคิ้วขึ้นมา สายตามีความหวาดกลัว
เย่ชงก็ดูประหม่าเช่นกัน เขาไม่ได้ตอบตกลงที่ซ่างกวนโหรวเสนอให้ร่วมมือจัดการหลิวเหล่าก้วย
ต้วนหวูหยาก็มีสีหน้ากังวลเช่นกัน แม้ว่าเขาจะเลือกยืนข้างซ่างกวนโหรว ช่วยแก้ต่างให้หยางเฉิน แต่ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าจากสีหน้าที่เย็นชาเช่นนี้ของหยางเฉิน เขาคิดจะทำอะไร
ทางด้านโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ หวาอิงเจี๋ยก็หน้านิ่วคิ้วขมวดและดูกังวลอยู่บ้าง
“พี่เฉิน คุณคิดจะทำอะไร? อย่าทำให้ผมตกใจสิ!”
หม่าชาวสีหน้าดูประหม่า
ในเวลานี้ดูเหมือนว่าหยางเฉินจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกแปลกหน้าเหลือเกิน
สำหรับซ่างกวนโหรว ใบหน้าอันบอบบางของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ฟิ้ว!”
ภายใต้สายตาของทุกคน จู่ๆ หยางเฉินก็หายตัวไปจากจุดที่ยืนอยู่
“ไปไหนแล้ว?”
ในเวลานี้ทุกคนเบิกตากว้าง
ไม่ว่าคนคนหนึ่งจะมีความเร็วสักแค่ไหน สำหรับยอดฝีมือแดนเทพแล้ว อย่างน้อยก็ต้องรู้สึกได้บ้าง
แต่การหายตัวไปของหยางเฉินมันเหมือนการแว่บอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่รู้สึกว่าหยางเฉินไปไหนเลย
แต่ความน่าสะพรึงกลัวที่หยางเฉินนำมาสู่ทุกคนยังคงอยู่เหมือนเดิม
ทุกคนมีสีหน้ากังวล กลัวว่าเมื่อหยางเฉินปรากฏตัวอีกครั้ง จะปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพวกเขา
“โครม!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังสนั่นขึ้น ร่างหนึ่งถูกโยนเข้ามาเหมือนลูกบอลและตกลงบนพื้นอย่างแรง ร่างนั้นกระอักเลือดออกมาทันที
“หลิวเหล่าก้วย!”
เมื่อทุกคนเห็นร่างที่ถูกโยนลงบนพื้นคือหลิวเหล่าก้วย ดวงตาของทุกคนก็เบิกกว้าง
จนกระทั่งถึงเวลานี้เองที่พวกเขานึกขึ้นได้ว่ายังมีหลิวเหล่าก้วยคนนี้อยู่
ก่อนหน้านี้หลังจากที่หยางเฉินเกิดคลุ้มคลั่งและไร้สติอย่างกะทันหัน พวกเขาทั้งหมดเพิกเฉยต่อการมีตัวตนอยู่ของหลิวเหล่าก้วย แต่ตอนนี้หลิวเหล่าก้วยที่อยู่ระดับสุดยอดแดนเทพ ถูกคนจับโยนลงกับพื้นเหมือนสุนัขที่ตายแล้ว
“คุณหยางได้โปรดไว้ชีวิตด้วย!”
หลิวเหล่าก้วยคุกเข่าลงบนพื้นร้องขอความเมตตา
สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“หยางเฉิน!”
กลุ่มสมาชิกที่มีอำนาจทุกคนรู้ว่าใครกันแน่ที่ตามหาตัวหลิวเหล่าก้วยที่หลบซ่อนอยู่ออกมา และทำร้ายหลิวเหล่าก้วยให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
“โครม!”
วินาทีถัดมา ร่างของหลิวเหล่าก้วยก็พุ่งกระเด็นออกไปราวกับลูกบอลและกระแทกกับซากปรักหักพังของโรงเรียนศิลปะการต่อสู้เยี่ยนตูอย่างแรง
“โครมๆๆ!”
แต่นี่มันยังไม่จบ จากนั้นร่างของหลิวเหล่าก้วยได้กระแทกกับพื้นอย่างแรงครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่
ไม่มีใครเห็นตัวหยางเฉิน แต่พวกเขารู้ว่าต้องเป็นหยางเฉินที่โจมตีหลิวเหล่าก้วย
ไม่กี่วินาทีต่อมา หลิวเหล่าก้วยก็นอนอยู่บนพื้น ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด
และบนพื้นก็มีรอยยุบรูปตัวคนปรากฏขึ้นหลายอัน
ในที่สุดหยางเฉินผมหงอกขาวก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าทุกคน
เขาก้าวเข้าไปหาหลิวเหล่าก้วยทีละก้าว ใบหน้าคมสันไม่มีความโกรธหลงเหลืออยู่ มีเพียงความสงบนิ่งเท่านั้น
“ตายซะ!”
ทุกคนได้ยินแต่เสียงที่ฟังดูเหมือนเทพแห่งความตาย วินาทีถัดมา หยางเฉินก็ยกเท้าขึ้นเตะศีรษะของหลิวเหล่าก้วยอย่างแรง
ไม่มีใครสงสัยเลยว่า การเตะครั้งนี้จะทำให้หัวสมองของหลิวเหล่าก้วยระเบิดในพริบตา
พอเห็นเท้าหยางเฉินกำลังจะโดน แววตาของหลิวเหล่าก้วยก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง แต่ในช่วงเวลาที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายนี้ ลมปราณแห่งวิถีบู๊อันน่าสะพรึงกลัวก็ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ
“ปัง!”
วินาทีถัดมาได้เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น หลังจากหมัดนี้ก็เห็นเท้าของหยางเฉินลื่นไถลไปบนพื้น 3-4 เมตร ก่อนจะหยุดลง
แล้วชายร่างกำยำ สูง 190 เซนติเมตรก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าหลิวเหล่าก้วย แต่ลมปราณแห่งวิถีบู๊จากตัวเขาช่างน่ากลัวอย่างยิ่ง
“ยอดฝีมือแดนเหนือมนุษย์!”
เขาสามารถสัมผัสได้ว่า วรยุทธของหยางเฉินยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์ พูดให้ถูกก็คือ ควรอยู่ในระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์
แม้ว่าจะอยู่ห่างจากระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นต้นเพียงก้าวเดียว แต่มีเพียงยอดฝีมือแดนเหนือมนุษย์เท่านั้นที่รู้ว่าความห่างเพียงก้าวเดียวนี้ มันใหญ่มากเพียงใด
แต่หยางเฉินรับการโจมตีจากเขาและถอยหลังไปเพียง 7-8 ก้าวอย่างน่าแปลกใจ แต่ตัวเขาเองก็ถอยหลังไปเพียง 3-4 ก้าวเท่านั้น
“ยอดฝีมือแดนเหนือมนุษย์ของเมืองเหมียวกล้าที่จะก้าวเข้ามาเหยียบเมืองเยี่ยนตูตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ในขณะนี้ เสียงที่ดูเหมือนจะมาจากเทพสงครามผู้ชนะได้ลงมาจากฟากฟ้า สร้างความตื่นตะลึงไปทั่วหล้า
ในขณะเดียวกัน อานุภาพวรยุทธอันน่าสะพรึงกลัวได้แผ่ซ่านไปทั่วหล้า
“อุ๊บ!”
“อุ๊บ!”
…
ภายใต้อานุภาพอันน่าสะพรึงกลัวนี้ ยอดฝีมือแดนเทพขั้นปลายก็ทยอยคุกเข่าลงทีละคน
อานุภาพเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ยอดฝีมือระดับแดนเทพขั้นปลายคุกเข่า แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเจ้าของเสียงนี้มีอำนาจมากแค่ไหน?
เมื่อชายวัยกลางคนร่างกำยำได้ยินเสียงนี้ แววตาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ราวกับว่าได้เห็นความน่าสะพรึงกลัวมากเพียงใด ใบหน้าก็ซีดเผือด
ในขณะเดียวกัน ตัวเขาก็ถอยห่างออกไปไม่กี่ก้าว พอเขาหยุดลง เลือดก็ไหลออกมาจากมุมปาก
ภาพนี้สร้างความสั่นสะเทือนให้หัวใจของทุกคนอย่างสุดซึ้ง
แม้แต่หยางเฉินเองก็มีสีหน้าเคร่งขรึมในตอนนี้ เพราะถึงจะอาศัยความสามารถของเขาในเวลานี้ ก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเจ้าของเสียงอยู่ที่ไหน
“ไปให้พ้น!”
จู่ๆ ก็มีเสียงอันโกรธเกรี้ยวอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น
คราวนี้ชายวัยกลางคนร่างกำยำไม่กล้าที่จะอยู่อีกต่อไป เขาจ้องมองหยางเฉินด้วยสายตาโหดเหี้ยม ก่อนจะหันหลังเดินจากไปพร้อมกับหลิวเหล่าก้วย
เมื่อเห็นชายวัยกลางคนร่างกำยำกำลังจะพาหลิวเหล่าก้วยออกไป สีหน้าของหยางเฉินก็เย็นชาทันที “ถ้าอยากจะไป ก็ปล่อยเขาไว้ที่นี่ก่อน!”
วันนี้ไม่ว่าใครจะอยู่ที่นี่ เขาก็จำเป็นต้องฆ่าหลิวเหล่าก้วย
เขาย่อมรู้ดีว่า ก่อนหน้านี้ตอนที่เขากำลังจะเข้าสู่สภาวะคลุ้มคลั่ง หลิวเหล่าก้วย ใช้วิชาพิษกู่ให้ยอดฝีมือแดนราชาสิบคนโจมตีเขา ซึ่งทำให้เขาเข้าสู่สภาวะคลุ้มคลั่งอย่างสมบูรณ์
ถ้าไม่ใช่เพราะหลิวเหล่าก้วย เขาอาจจะควบคุมความคลุ้มคลั่งของตัวเองได้ หวางจ้านก็ไม่ต้องตาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...