“กษัตริย์ไป๋ รีบโทรหาหลิวเหว่าก้วยเร็ว เขาน่าจะฆ่าหยางเฉินไปแล้วมั้ง?”
กษัตริย์หม่ารีบพูดเร่ง
เขารอที่จะควบคุมตี้ชุนไม่ไหวแล้ว
“วันๆนี้ ตระกูลเดอะคิงรอคอยมาร้อยปีพอดี!”
กษัตริย์เซวก็พูดอย่างตื่นเต้นเหมือนกัน
กษัตริย์ไป๋ก็เหมือนกัน พูดไปหัวเราะไปว่า “ได้ ผมจะโทรหาหลิวเหล่าก้วยเดี๋ยวนี้เลย!”
พูดจบ กษัตริย์ไป๋ก็หยิบมือถือขึ้นมาโทร
ครั้งแรก ไม่มีเบอร์ที่ติดต่อ!
ครั้งที่สอง ก็ยังไม่มีเบอร์ที่ติดต่อ!
ครั้งที่สาม ก็ยังคงไม่มีเบอร์ที่ติดต่อเหมือนเดิม!
รอยยิ้มบนใบหน้าของกษัตริย์ไป๋หายไป สีหน้าแข็งเกร็ง “ทำไมหลิวเหล่าก้วย ถึงไม่รับสายนะ?”
ไม่รู้ทำไม จู่ๆ ในใจของเขาก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้น
กษัตริย์หม่ากับกษัตริย์เซวก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเหมือนกัน แต่ก็ยังอดกลั้นความกลัวในใจเอาไว้
“บางที เขาอาจจะกำลังยุ่งอยู่ก็ได้มั้ง?”
กษัตริย์หม่ามองอย่างไม่มั่นใจ
กษัตริย์ไป๋กับกษัตริย์เซวต่างก็ไม่พูดอะไร ตอนนี้มันก็เวลาเช้าตรู่ จะไปยุ่งได้ยังไง?
“ไม่แน่ ดึกมากแล้ว หลิวเหล่าก้วยอาจจะนอนแล้วก็ได้!”
หลังจากที่เงียบไปนาน กษัตริย์ไป๋ก็พูดให้กำลังใจตัวเอง
กษัตริย์เซวพูดอย่างมีสติว่า “ในเมื่อคุณได้นัดกับหลิวเหล่าก้วยไว้แล้ว ไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหนก็จะติดต่อไป ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ควรติดต่อเขาไม่ได้สิ”
“ถ้าเขากำลังนอนหลับแล้วไม่ได้ยิน หรือปิดเครื่อง หรือแม้กระทั่งแบตหมด มันก็ไม่ควรบอกว่าไม่มีเบอร์ที่ติดต่อสิ!”
พอได้ยินอย่างนั้น กษัตริย์ไป๋กับกษัตริย์หม่าก็หน้าซีดขึ้นมาทันที
“หลิวเหล่าก้วยให้เราช่วยจัดหาผู้แข็งแกร่งแดนเทพสี่คน เมื่อเป็นแบบนั้น เขาก็ต้องมั่นใจมาก นอกจากผู้นำของราชวงศ์มาเอง ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางเอาชนะหลิวเหล่าก้วยได้หรอก”
“อีกอย่าง เขาเป็นถึงผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอด มีวิชาพิษกู่ที่แข็งแกร่ง ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพทั่วไป ก็ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของเขาแน่นอนจริงมั้ย?”
กษัตริย์ไป๋รีบพูดขึ้นมา
“ในเมื่อเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลิวเหล่าก้วย ถ้าอย่างนั้นก็ลองหาข้อมูลก่อน ดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเยี่ยนตูกันแน่”
กษัตริย์เซวพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
พูดจบ เขาก็หยิบมือถือขึ้นมาโทร
ไม่นาน เขาก็วางสาย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “หน่วยข่าวกรองของตระกูลคิงเซวบอกว่า ในศึกชิงตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตู ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ หยางเฉินก็เกิดคลุ้มคลั่ง และเกือบฆ่าหลิวเหล่าก้วยไปแล้ว”
“ในตอนนั้นเอง เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ต่ำกว่าแดนเทพของราชวงศ์ก็ได้ออกจากโรงยิมศิลปะการต่อสู้เยี่ยนตูจนหมด หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง พวกเขาก็ไม่รู้แล้ว”
พอได้ฟังที่กษัตริย์พูด กษัตริย์ไป๋กับกษัตริย์หม่าก็ช็อกไปตามๆ กัน
“นะ…..นี่มันเป็นไปได้ยังไง?”
กษัตริย์พูดด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ “หลิวเหล่าก้วยเป็นถึงผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอด ทำไมถึงเกือบถูกหยางเฉินฆ่าล่ะ?”
กษัตริย์หม่าก็ทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ “ต่อให้หยางเฉินจะเก่งสักแค่ไหน ก็ไม่มีทางเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดได้หรอกมั้ง?”
กษัตริย์ยอมรับความจริงข้อนี้ไม่ได้ แต่หน่วยข่าวกรองของตระกูลคิงเซวไม่มีทางหลอกเขาอยู่แล้ว
“พวกคุณก็น่าจะมีหน่วยข่าวกรองเหมือนกันใช่มั้ย? ลองถามข้อมูลจากพวกเขาดูสิ” กษัตริย์เซวพูดขึ้น
กษัตริย์ไป๋กับกษัตริย์หม่าถึงตั้งสติได้ พวกเขาก็มีหน่วยข่าวกรองอยู่ในเยี่ยนตูเหมือนกัน จึงรีบติดต่อคนของพวกเขา
ไม่นาน ทั้งสองก็วางสาย แล้วพากันทำหน้าเคร่งขรึม ภายใต้ความเคร่งขรึมยังมีความหวาดกลัวแอบแฝงอยู่
เห็นได้ชัดว่า พวกเขาได้รับข้อมูลแบบเดียวกับกษัตริย์เซว หยางเฉินเกือบฆ่าหลิวเหล่าก้วย เหตุการณ์หลังจากนั้นก็ไม่รู้อะไรอีกเลย
“กษัตริย์ไป๋ ตอนนี้เราควรทำยังไงต่อดี?”
ผ่านไปพักใหญ่ กษัตริย์เซวก็ได้ถามขึ้น
กษัตริย์กัดฟันแล้วพูดไปว่า “ผมไม่เชื่อว่าหยางเฉินมันจะฆ่าหลิวเหล่าก้วยได้ ข้อมูลที่เราได้ หยางเฉินก็แค่เกือบฆ่าหลิวเหล่าก้วยได้เท่านั้น แต่บทสรุปนั้นเป็นยังไงก็ยังไม่รู้”
“เมื่อเป็นแบบนั้น แล้วทำไมเราถึงต้องสรุปว่าคนที่ตาย ต้องเป็นหลิวเหล่าก้วยแต่ไม่ใช่หยางเฉินด้วยล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...