ในขณะเดียวกัน ราชวงศ์ต้วนที่ไกลออกไป ภายในราชวัง
“เสด็จพ่อ คงจะอีกสักสี่สิบนาที อู่หยู่หลานก็จะถึงหนิงโจวแล้วครับ”
ต้วนหวูเหิง มองทางกษัตริย์ต้วนที่อยู่บนบัลลังก์ เอ่ยปากพูดขึ้น
ตั้งแต่กษัตริย์ต้วนบอกการเดินทางของอู่หยู่หลานกับต้วนหวูหยาไป ก็นั่งอยู่บนบัลลังก์มาตลอด มีลักษณะท่าทางจิตใจวุ่นวาย
จนกระทั่งต้วนหวูเหิง พูดจา กษัตริย์ต้วนถึงมีการตอบสนอง เขาลุกขึ้นเดินมาด้านนอกวังกษัตริย์ต้วนแล้ว เอามือไพล่หลังไว้ ดวงตามองทางทิศทางของหนิงโจว
“ไม่รู้ว่า ฉันทำแบบนี้ สรุปว่าดีหรือเลว”
ทันใดนั้นกษัตริย์ต้วนพูดจาแบบหน้าตาซับซ้อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอู่หยู่หลานเป็นผู้หญิงที่เขารักที่สุดในชีวิตนี้ ถึงแม้ปัจจุบันทั้งสองแยกกันมาสี่สิบกว่าปีแล้ว แต่ว่าไม่ได้ทำให้ความรักที่เขามีต่ออู่หยู่หลานลดลงสักนิด
ขณะเดียวกัน วันนี้ตอนที่เจออู่หยู่หลาน กษัตริย์ต้วนก็สามารถสัมผัสได้ว่า ความรู้สึกที่อู่หยู่หลานมีต่อเขา ไม่ได้เลือนหายเช่นกัน
มิฉะนั้น คงไม่เพียงแค่ทำเขาบาดเจ็บหนักแล้วจากไปเท่านี้ แต่จะทำทั้งราชวงศ์ต้วนเสียหายย่อยยับจนหมด
อู่หยู่หลานนั้นแกร่งมาก แต่เขากลับมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง การค้นหาเบื้องหลังของหยางเฉินไม่เจอ ถึงเป็นสิ่งที่ทำให้เขากังวลมากที่สุด
ถ้าหากเป็นเหมือนแบบที่เขาคาดเดาไว้นั้น หยางเฉินมีเบื้องหลังเป็นตระกูลบู๊โบราณ ด้วยพรสวรรค์วิถีบู๊ของหยางเฉิน คงจะมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์แอบคุ้มครองแน่นอน
เพื่อไม่ให้หยางเฉินพบเข้า ความสามารถของฝ่ายตรงข้าม มีเพียงอยู่เหนือกว่าหยางเฉินไปไกล
เดิมหยางเฉินคือผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่ง ถ้ามีคนแอบคอยคุ้มครอง แถมยังไม่ให้เขาพบเจออีก งั้นความสามารถจะแกร่งมากแค่ไหน?
ถ้าเกิดอู่หยู่หลานอยากฆ่าหยางเฉิน จะต้องดึงดูดผู้แข็งแกร่งที่แอบซ่อนตัวคนนี้ออกมาแน่
เป็นเขาที่บอกตารางเดินทางของอู่หยู่หลานให้หยางเฉินรู้ ถ้ามีผู้แข็งแกร่งของตระกูลบู๊โบราณฆ่าอู่หยู่หลานแล้ว งั้นก็เท่ากับว่าเขาเป็นตัวการก่อกรรมทำเข็ญ
พอคิดมาถึงตรงนี้ ความรู้สึกผิดในใจกษัตริย์ต้วนเข้มข้นกว่าเดิม
“เสด็จพ่อ ท่านไม่ต้องกังวลแล้วครับ หยางเฉินก็ดี อู่หยู่หลานก็ด้วย ล้วนแกร่งกันมาก อยากจะให้พวกเขาตาย ย่อมไม่ง่ายดาย”
ต้วนหวูเหิง เอ่ยปากพูดปลอบใจ
กษัตริย์ต้วนไม่ได้พูดจา ความกังวลในแววตาลึก ยังคงเข้มมาก
ตอนที่ในใจกษัตริย์ต้วนเต็มไปด้วยความกังวล ต้วนหวูหยาที่อยู่บนเครื่องบินส่วนตัว ในใจกังวลไร้ที่เปรียบเช่นกัน
ฉินยีกับเสี้ยวเสี้ยวตื่นเต้นมากมาตลอดทาง บนเครื่องบินเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและหัวเราะ เพียงแค่ฉินซีคนเดียวที่มักจะมีท่าทางจิตใจไม่สงบ มองไปยังห้องพักผ่อนด้านในสุดอยู่ไม่ขาดสาย
“พี่ซี พี่อยากกินอะไรหน่อยไหม?”
ต้วนหยู่เยียนยิ้มอยู่มองทางฉินซีแล้วถามขึ้น
ฉินซีส่ายหน้าเล็กน้อย “ฉันกินไม่ลง ขอบใจนะ!”
“คุณฉิน คุณน่าจะนั่งเครื่องบินส่วนตัวเป็นครั้งแรกสินะครับ? ประหม่าอยู่บ้างหรือเปล่า?”
ต้วนหวูหยาเอ่ยปากพูดว่า “ความจริง ตอนที่ผมนั่งเครื่องบินส่วนตัวครั้งแรก ก็ไม่ชินมาก แต่ว่าพอมาคิดดูดีๆ ความจริงก็เหมือนนั่งเครื่องทั่วไป ไม่มีอะไรต่างกันมาก ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียว ก็คือเครื่องบินส่วนตัวกว้างขวางมากกว่า หรูหรามากกว่า”
เขากลัวว่าในเวลานี้ ฉินซีจะวิ่งไปหาหยางเฉินที่ห้องพักผ่อนกะทันหัน จึงหาหัวข้อสนทนาคุยกับฉินซีก่อน
ฉินซีฝืนยิ้มให้หน่อย ยังคงท่าทางกลัดกลุ้มใจ
“หม่าม้า ทำไมปะป๊าถึงไม่มาเล่นเป็นเพื่อนเสี้ยวเสี้ยวคะ?”
ทันใดนั้น เสี้ยวเสี้ยวเอ่ยปากถาม ยังมองทางห้องพักผ่อนแวบหนึ่งด้วย
วินาทีนี้ ต้วนหวูหยากับต้วนหยู่เยียนทั้งสองคน ล้วนสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ ต่างประหม่าขึ้นมาแล้ว
ฉินซีสงสัยอยู่บ้างเล็กน้อย หลังจากขึ้นเครื่องบนลำนี้มา เธอก็จิตใจไม่สงบมาตลอด มักจะรู้สึกว่าหยางเฉินมีเรื่องอะไรปิดบังตนเอง
โดยเฉพาะก่อนหน้าจะขึ้นเครื่องบิน หยางเฉินบอกอยากไปพักผ่อน ตอนที่มองทางเธอกับเสี้ยวเสี้ยว ในสายตาเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์
ปัจจุบันได้ยินลูกสาวพูดแบบนี้มา เธอเหมือนหาข้ออ้างให้ตนเองไปรบกวนหยางเฉินที่ห้องพักผ่อนแล้ว
“งั้นพวกเราไปหาปะป๊า ดีไหมจ๊ะ?”
ฉินซีเอ่ยปากพูดขึ้น
“ดีค่ะ!”
บนใบหน้าของเสี้ยวเสี้ยว เต็มไปด้วยความดีใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...