สรุปตอน บทที่ 1265 ลืมตัวเองแล้ว – จากเรื่อง The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง
ตอน บทที่ 1265 ลืมตัวเองแล้ว ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง The king of War โดยนักเขียน เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
“ว้าย......”
ในเวลานี้เอง เสียงร้องตกใจของผู้หญิง ดังขึ้นกะทันหัน “พี่ ที่......ที่นี่มีคน เหมือนจะตาย.......ตายแล้ว!”
ผู้หญิงอายุน้อยที่สวมชุดออกกำลังกายคนหนึ่ง บนใบหน้างดงามที่ไม่แต่งแต้ม เต็มไปด้วยความตกใจกลัว พูดจาแบบไม่ลื่นไหล
“เขาน่าจะยังมีชีวิตอยู่ เมื่อกี้ฉันมองเห็นนิ้วของเขาขยับแล้ว”
ผู้หญิงอายุน้อยที่สวมชุดออกกำลังกายอีกคนหนึ่ง บนหน้าก็ตกใจกลัวและว้าวุ่นระดับหนึ่ง
“พี่คะ เขาเหมือนได้รับบาดเจ็บ พวกเราต้องช่วยชีวิตเขาเหรอ?”
ผู้หญิงคนนั้นที่ค่อนข้างเด็ก ทำหน้าลังเล “นี่แม้แต่วงจรปิดก็ไม่มีด้วย ถ้าเกิดเขาตายแล้ว ครอบครัวของเขาจะเข้าใจพวกเราผิดหรือเปล่า?”
“น่าจะไม่มั้ง!”
ผู้หญิงที่ดูโตกว่าหน่อย เอ่ยปากบอก จากนั้นทำหน้าแน่วแน่ “เชียนเชียน ช่วยชีวิตคนได้บุญมากกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้นอีกนะ ในเมื่อพวกเรามาเจอแล้ว ก็อย่าคิดมากขนาดนั้นเลย หาวิธีพาเขาลงเขาดีกว่า!”
“ได้!”
เชียนเชียนรีบเอ่ยปากบอกไปทันที
ผู้หญิงที่โตกว่าชื่อลู่ฉิงเสว่ ส่วนผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอชื่อมู่เชียนเชียน
ถึงแม้ภูเขาหนิงจะเป็นภูเขาสูงอันดับหนึ่งของหนิงโจว ยังดีที่มีถนนรอบเขาเส้นหนึ่ง เพียงแค่ทางขึ้นมาบนยอดเขา ยังไม่ได้ลาดมา
สองพี่น้องใช้แรงสุดชีวิตเลย จนในที่สุดพาหยางเฉินลงมาจากยอดเขาได้ กระทั่งมาถึงบนถนนรอบเขาแล้ว
“เฮ้อๆๆ!”
สองพี่น้องหายใจหอบยกใหญ่ หน้าเต็มไปด้วยเลือดฝาด เหงื่อออกไปทั้งตัว
“เจ้าหมอนี่ หนักเป็นบ้าเลย!”
มู่เชียนเชียนหายใจหอบพูดว่า “ผู้หญิงอย่างฉันโตมาขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่แบกผู้ชาย นึกไม่ถึงโดนเขาเอาเปรียบแล้ว”
พูดอยู่ มู่เชียนเชียนยังถลึงตาดุร้ายใส่หยางเฉินที่หมดสติอยู่แวบหนึ่ง
บนหน้าของลู่ฉิงเสว่ที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าหน่อย ยังมีความกังวลระดับหนึ่ง มองหยางเฉินแล้ว พูดว่า “เชียนเชียน เธอไปขับรถจากด้านล่างขึ้นมา พวกเราต้องรีบไปเขาไปส่งโรงพยาบาล ไม่อย่างนั้นเขาต้องตายจริงๆ แน่”
“ได้!”
เชียนเชียนก็จริงจังขึ้นมาแล้ว รีบวิ่งลงภูเขาไป
วันนี้คือสุดสัปดาห์ สองพี่น้องนัดกันเรียบร้อยจะมาปีนเขา นำรถจอดไว้ที่ตีนเขาแล้ว ไม่ง่ายที่จะปีนขึ้นมาบนเขาได้ นึกไม่ถึงเจอหยางเฉินที่ได้รับบาดเจ็บหนักบนยอดเขาเข้าแล้ว
ไม่นาน เชียนเชียนขับรถเข้ามา สองพี่น้องเปลืองแรงมากอีกรอบ ถึงเอาหยางเฉินขึ้นรถได้
อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา โรงพยาบาลประชาชนหนิงโจว
“คุณหมอคะ แฟนฉันเป็นอย่างไรบ้างคะ?”
ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก แพทย์พยาบาลหลายคนเดินออกมา ลู่ฉิงเสว่รีบเข้าไปสอบถามทันที
ครึ่งชั่วโมงก่อน สองพี่น้องพาหยางเฉินมาส่งที่โรงพยาบาลประชาชนหนิงโจว หลังแพทย์ตรวจดูอาการบาดเจ็บของหยางเฉินคร่าวๆ ก็รีบส่งเข้าห้องฉุกเฉินทันที
เพียงแต่ จำเป็นต้องมีคนในครอบครัวเซ็นชื่อ ถึงสามารถพาหยางเฉินไปช่วยชีวิตได้ ลู่ฉิงเสว่ได้แต่บอกว่าตนเองเป็นแฟนของหยางเฉิน
“อาการบาดเจ็บของแฟนคุณสาหัสมาก จะฟื้นมาได้หรือไม่ ต้องดูโชคของเขาแล้ว”
แพทย์มองลู่ฉิงเสว่อยู่ พูดด้วยท่าทางรู้สึกเสียใจ
“สาหัสขนาดนี้เลยเหรอคะ?”
ความกังวลในสายตาของลู่ฉิงเสว่เข้มขึ้นในชั่วขณะนั้น
ถึงจะพูดว่าแค่ถือโอกาสช่วยชีวิตไว้ แต่เป็นเธอกับมู่เชียนเชียนเปลืองแรงเอามากๆ ถึงส่งมาถึงโรงพยาบาลได้ ปัจจุบันนี้กลับถูกแจ้งว่า หยางเฉินมีความเป็นไปได้มากจะไม่ฟื้นขึ้นมา
“พี่ พี่อย่าเสียใจไปเลยนะ พวกเราเจอกันโดยบังเอิญ ช่วยส่งเขามาโรงพยาบาลได้ ก็เป็นการช่วยคนอย่างดีที่สุดแล้ว”
มู่เชียนเชียนจับมือของลู่ฉิงเสว่ไว้ พูดปลอบใจเสียงต่ำ
หล่อนรู้ว่าลู่ฉิงเสว่เป็นผู้หญิงที่จิตใจดีมากแค่ไหน ถ้าหยางเฉินตายจริงแล้ว ลู่ฉิงเสว่จะต้องเสียใจอย่างมาก
ลู่ฉิงเสว่พยักหน้าแล้ว มองหยางเฉินที่ถูกส่งเข้าห้องคนไข้อย่างลึกล้ำ พูดเบาๆ ว่า “หวังว่าคุณจะผ่านเคราะห์ร้ายนี้ไปได้นะ!”
“พี่ พี่คงไม่ได้คิดจะอยู่เป็นเพื่อนข้างตัวเขาจริงๆ หรอกมั้ง?”
เห็นลู่ฉิงเสว่อยากไปห้องคนไข้ ชั่วขณะนั้นมู่เชียนเชียนร้อนใจแล้ว รีบดึงมือของลู่ฉิงเสว่ถามไปทันที
ลู่ฉิงเสว่ตอบว่า “เชียนเชียน ช่วยคนก็ต้องช่วยให้สุด ทำดีก็ต้องทำให้สุด ตอนนี้เขาเจ็บหนักลุกไม่ขึ้น พวกเราก็ไม่มีทางติดต่อครอบครัวของเขาได้อีก”
“ไม่ว่าอย่างไร เขาก็เป็นคนที่พวกเราช่วยลงเขามา หรือว่าอยากทิ้งเขาไว้ที่นี่คนเดียวจริงๆ ?”
ถ้าเพียงแค่เธอเอง เธอกลับไม่กลัว แต่ถ้าหากทำหยางเฉินลำบากไปด้วย ยังมีตระกูลลู่อีก งั้นคงเป็นความผิดของเธอ
“พี่ พวกเราทำได้แค่เท่านี้ ให้ความเมตตามากที่สุดแล้ว พี่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว อยู่รอดได้หรือเปล่า ต้องพึ่งเขาเองแล้ว”
มู่เชียนเชียนดึงมือของลู่ฉิงเสว่ไว้แล้วพูดขึ้น และยังกังวลว่าลู่ฉิงเสว่จะไม่ยอมออกไป จึงรีบพูดอีกว่า “เอาแบบนี้แล้วกัน พรุ่งนี้เช้า ฉันจะมาดูเขาเป็นเพื่อนพี่อีกที ดีหรือเปล่า?”
“งั้นก็ได้!”
ในที่สุดลู่ฉิงเสว่ก็รับปาก มองทางหยางเฉินแล้วพูดว่า “ขอโทษนะ ฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณที่นี่ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะเป็นอันตรายต่อคุณ”
พูดจบ เธอหยิบปากกากับกระดาษออกมา เขียนโน้ตไว้ใบหนึ่ง วางไว้ข้างหมอนของหยางเฉิน นี่ถึงได้ออกไปด้วยกันกับมู่เชียนเชียน
สำหรับเรื่องพวกนี้ หยางเฉินไม่รู้ทั้งนั้น
สลบไปอีกหนึ่งคืนเต็มๆ เช้าวันต่อมา ตอนแสงแดดสายแรกของเช้าวันใหม่ สาดส่องมาบนโลก หยางเฉินบนเตียงคนไข้ ทันใดนั้นนิ้วมือขยับแล้ว
“ฮู้!”
หยางเฉินที่เดิมทีนอนอยู่บนเตียงคนไข้ ลุกขึ้นนั่งฉับพลัน ตอนเขานั่งขึ้นมา อยู่ในอาการมึนงง เหงื่อท่วมหน้า
ตั้งนาน เขาถึงค่อยๆ ได้สติกลับมา ในสายตาที่พร่ามัว มีชีวิตชีวามาช้าๆ
เพียงแค่ เขาในเวลานี้ หัวสมองว่างเปล่าแถบหนึ่ง จำอะไรไม่ได้เลย
“อ่า......”
ตอนที่เขาพยายามนึกย้อนความทรงจำ เจ็บปวดอย่างรุนแรง ก่อกวนหัวสมองของเขาอย่างลึกล้ำ
เขากุมศีรษะไว้ ในลำคอลึกส่งเสียงคำรามที่เศร้ารันทดออกมา
“หมอ! หมอ!”
พยาบาลที่เข้ามาดูอาการ รีบตะโกนขึ้นมาเสียงดัง
ไม่นาน แพทย์ที่สวมเสื้อกาวน์หลายคนพุ่งเข้าห้องคนไข้ ฉีดยากล่อมประสาทเข็มหนึ่งให้หยางเฉิน เขาถึงสงบลงช้าๆ หายใจเฮือกใหญ่ ทั้งตัวเปียกชุ่มด้วยน้ำเหงื่อ
“ตอนนี้คุณดีขึ้นหรือยัง?”
เห็นหยางเฉินสงบลงมา หัวหน้าแพทย์ถึงเอ่ยปากสอบถาม
หยางเฉินมองทางแพทย์ ทำหน้างุนงง “คุณเป็นใคร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...