The king of War นิยาย บท 1317

สรุปบท บทที่ 1317 หยางเฉินที่แข็งกร้าว: The king of War

สรุปเนื้อหา บทที่ 1317 หยางเฉินที่แข็งกร้าว – The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง

บท บทที่ 1317 หยางเฉินที่แข็งกร้าว ของ The king of War ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

พวกเขาเห็นกับตา ตอนที่ยอดฝีมือตระกูลเจี่ยงพุ่งเข้าถึงข้างหน้าหยางเฉิน ยังไม่ทันได้สะกิดถูกตัวของหยางเฉิน อีกทั้งยังไม่ทันได้เห็นหยางเฉินขยับมือ ได้ยินแค่พูดว่า “ไสหัวไป” หลังจากนั้นก็เห็นผู้แข็งแกร่งคนนั้น ลอยลิ่วออกไป

“คนเป็นไง ตายแล้ว!”

ในเวลานั้นเอง หนึ่งในผู้บริหารระดับสูงมองไปที่ยอดฝีมือตระกูลเจี่ยงที่ตายแบบไม่ทันหลับตา พูดด้วยความหวาดกลัว

“อะไรกัน?”

“ตายแล้ว?”

“ไม่นะ!”

งงชะงักไปชั่วอึ้ง หวงเหล่ยสีหน้ายังดูไม่อยากเชื่อ “เป็นไปไม่ได้!เป็นไปได้ยังไงนี่?”

“ผู้เฒ่าจางนั้นเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสุดยอดของตระกูลเจี่ยง เป็นไปได้ยังไงที่ถูกฆ่าตาย?”

หวงเหล่ยเหมือนบ้าไปแล้ว ถลาเข้าไปที่เบื้องหน้ายอดฝีมือ ชั่วเดี๋ยวเดียว เขาก็ต้องแน่ใจ ผู้แข็งแกร่งที่เขาเห็นว่าสุดยอดที่สุดนั้น ตายแล้วจริง ๆ

ตายด้วยคำพูดคำเดียว

“ผลุบ!”

หวงเหล่ยทรุดตัวลงทันที คุกเข่าคลานเข้าไปถึงแทบเท้าหยางเฉิน วอนขอด้วยสีหน้าหวาดกลัวสุด ๆ “ท่านประธาน ผมผิดไปแล้ว ผมยอมรับผิดจริง ๆ!”

“เพราะพวกเขาบีบบังคับผม ให้ผมทรยศต่อท่าน มิฉะนั้นพวกมันจะฆ่าผม”

“ท่านประธาน ผมถูกบีบบังคับอย่างทำอะไรไม่ได้จริง ๆ นะครับ!โปรดกรุณาผมสักครั้งด้วย ต่อไปผมไม่กล้าทำอีกแล้ว”

หยางเฉินมองหน้าหวงเหล่ยด้วยสายตาหนาวเยือก “ข้าก็เชื่อนะว่าแกถูกบีบบังคับ แต่ถ้าเมื่อกี้นี้แกไม่ทำผยองอวดเบ่งแบบนั้น ข้าคงมีทางรอดให้แกเลือกสักทางแน่”

“แต่ว่าตอนนี้ แกต้องตายลูกเดียว!”

เสียงพูดหยางเฉินจบ ขยับนิ้วดีด ดินสอที่อยู่ในมือ พุ่งทะลวงคอหอยหวงเหล่ยทะลุออกไป

ในขณะนั้น เงียบกริบไปทั้งบริเวณ!

ในบริเวณนั้นล้วนแต่เป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กร พวกเขาในแต่ละวันก็จะพบอยู่แต่กับกลุ่มที่เกี่ยวกับงานด้านธุรกิจ อาจจะมีรู้เรื่องของผู้แข็งแกร่งบูโดบ้าง แต่ผู้ที่เคยได้สัมผัสกับของจริงมีก็แค่ไม่กี่คน

สิ่งที่ได้พบได้เห็นในวันนี้ ทำเอาพวกเขาแทบเป็นลม

“ผลึบผลับ!”

“ผลึบผลับ!”

……

กลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่แต่เดิมคล้อยตามไปกับหวงเหล่ย ตอนนี้แต่ละคนคุกเข่าลงแทบเท้าหยางเฉิน “ท่านประธาน พวกเราผิดไปแล้ว ขอท่านได้โปรดให้ทางรอดชีวิตพวกเราด้วย.......”

หยางเฉินมองแล้วพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “ให้ถึงเช้าพรุ่งนี้ พวกแกจะต้องทำการส่งต่อมอบงานในมือของพวกแกทั้งหมดให้เรียบร้อย หากข้ารู้ว่าใครตุกติก หรือมีการแอบขายข้อมูลของบริษัท ข้าจะไปเก็บชีวิตมันทิ้งไปด้วยมือข้าเอง!”

ความเก่งฉกาจของหยางเฉินที่เป็นประจักษ์เมื่อครู่นี้ ได้สยบคนทั้งบริเวณหมดแล้ว มีหรือใครจะกล้าออกเสียงค้าน โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่คุกเข่าวอนขอชีวิตพวกนั้น ต่างแสดงความยินยอมโดยดุษดี รับปากจะส่งมอบงานในมือให้เป็นที่เรียบร้อย

พวกกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่ยืนหยัดติดตามมากับลั่วปิง ต่างรู้สึกเป็นปลื้ม พวกเขาย่อมรู้ดี โอกาสของพวกเขามาถึงแล้ว

เมื่อไล่พวกกลุ่มบริหารระดับสูงสายของหวงเหล่ยออกไปจากบริเวณแล้ว หยางเฉินกวาดตามองไปรอบ ๆ แล้ว พูดกับผู้บริหารระดับสูงที่เหลือว่า “หลังจากนี้ต่อไป งานของพวกคุณคงต้องหนักขึ้นอีกเป็นเท่าตัว และขณะเดียวกัน ค่าจ้างพวกคุณก็จะให้เพิ่มเป็นเท่าตัวด้วย”

พูดจบ หยางเฉินมองไปที่ลั่วปิงแล้วสั่งไปว่า “เอาละ ตอนนี้เป็นหน้าที่ของคุณ จัดการให้พวกผู้บริหารระดับสูงที่ให้ออกไป แบ่งงานมอบให้กับผู้บริหารระดับสูงที่อยู่ที่นี่รับช่วง”

“ได้ครับ ท่านประธาน!”

ลั่วปิงตอบรับอย่างนอบน้อม ตื้นตันอยูในใจอย่างล้นหลาม

ครั้งนี้ ถึงแม้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปจะพบกับความวุ่นวายเล็กน้อย แต่กลับเป็นการเสียที่คุ้มค่า อย่างน้อยก็ได้ขจัดกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่คิดทรยศกับบริษัทออกไปหมด

รอจนกว่าหยางเฉินจากไป แต่ละคนจึงหายใจกันได้ทั่วท้อง

แต่ละคนต่างก็ตื่นเต้นกันออกนอกหน้า หลังจากนี้ไป พวกเขานอกจากต้องมีภาระกับงานมากขึ้น ค่าแรงก็ได้เพิ่มอีกเป็นเท่าตัว และยังมีโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งอีก

“เอาละ ตอนนี้ พวกเราเริ่มประชุมได้!”ลั่วปิงเปิดประชุมเป็นทางการ

เยี่ยนตู ภายในบริเวณคฤหาสน์แห่งหนึ่ง

“ท่านผู้นำ ผมได้ข่าวที่ไม่สู้ดีมา เห็นว่า พบเบาะแสของหยางเฉินแล้ว เขาอยู่ที่หนิงโจว”

ภายในศาลาพักร้อนบริเวณมุมลานโถง หนึ่งเงาร่างชายวัยกลางคน เข้ามาอย่างร้อนรน รายงานด้วยความเคร่งเครียด

ภายในศาลา ยังมีร่างคนผมขาวนั่งอยู่ด้วย พอได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคน ๆ นั้น สีหน้าเปลี่ยนไปในฉับพลัน “แกว่าอะไรนะ?หยางเฉินยังไม่ตาย? อยู่ที่หนิงโจวหรือ?”

ชายวัยกลางคนเป็นคนสอดแนมของตระกูลเจี่ยง ได้สืบจนรู้เรื่องของหยางเฉินแล้ว

เขาก็รีบผงกหัว “ข่าวว่า ราชวงศ์หลงและราชวงศ์เย่ได้ส่งผู้แข็งแกร่งแดนเทพไปถึงสิบสองคน ตายหมดที่หนิงโจว ราชวงศ์หลงกับราชวงศ์เย่ ต่างก็อยู่กันไม่เป็นสุข กลัวว่าหยางเฉินจะบุกไปที่เมืองราชวงศ์ด้วยตัวเอง”

“ผลุบ!”

เจี่ยงอานจวินถึงกับเข่าอ่อน ทรุดคุกเข่าลงกับพื้น

“คุณหยาง ท่านเข้าใจผิดแล้ว ท่านเข้าใจผิดแล้วนะครับ!”

เจี่ยงอานจวินพูดเสียงสั่น “ผมไหนเลยจะกล้าคิดหวังได้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปของท่าน?”

“จริงหรือ?”

แวตาหยางเฉินทอส่องประกายฆ่า

ไอ้เฒ่าตัวนี้ กล้าขนาดแหกตาพูดเรื่องโกหกด้าน ๆ มันเห็นเราเป็นคนปัญญาอ่อนหรือไง?

“ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ ตระกูลเจี่ยงไม่มีความจำเป็นที่ต้องมีเหลืออยู่แล้ว”

หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

เสียงพูดจบ เขาดีดนิ้วออกไป

“ผลึบ!”

ท่ามกลางความตื่นกลัวของคนทั้งหมด ตรงระหว่างคิ้วของเจี่ยงอานจวินปรากฎออกมาเป็นรูเลือด ร่างกายล้มลงพื้น ตายไปอย่างตาไม่ทันหลับ

“บรึม!”

คนที่อยู่ทั้งหมดถึงกับตะลึงกลัว!

ในเมืองราชวงศ์หลง ตระกูลเจี่ยงเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในราชวงศ์หลง และเจี่ยงอานจวินก็เป็นถึงผู้นำตระกูล พลังฝีมือก็ไปถึงแดนเทพขั้นปลายแล้ว

ผู้แข็งแกร่งที่มีพลังบูโดที่แข็งแกร่งระดับนี้ กลับถูกหยางเฉินสังหารไปในพริบตา

พวกเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำ หยางเฉินฆ่าเจี่ยงอานจวินยังไง เห็นแต่หยางเฉินแค่ดีดนิ้ว หน้าผากของเจี่ยงอานจวินก็เกิดเป็นรูเลือด

ซัดทีเดียว ปลิดชีวิตผู้แข็งแกร่งแดนเทพขั้นปลายได้ ในโลกนี้ ยังมีผู้แข็งแกร่งขั้นนี้ด้วยจริงหรือ?

“ฆ่ามัน!”

แววตาหยางเฉินทอประกายฆ่าที่เฉียบคม สั่งคำออกไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War