The king of War นิยาย บท 1326

สรุปบท บทที่ 1326 วิวาทะพ่อลูก: The king of War

อ่านสรุป บทที่ 1326 วิวาทะพ่อลูก จาก The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง

บทที่ บทที่ 1326 วิวาทะพ่อลูก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต The king of War ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

หลงเสียงทำหน้าไม่ถูก เขารู้ว่าหลงจิ้นวางตัวตัวเขาเองไว้ แต่เขาไม่มีความคิดจะชิงนั่งบัลลังก์ และรู้พลังฝีมือตัวเองดี ว่าไม่มีคุณสมบัติพอ

แต่ทว่า เวลานี้ก็มีแต่เขาเท่านั้นที่จะเป็นกษัตริย์หลง เมื่อหยางจิ้นจะบุกมาไล่ฆ่าคนตระกูลราชวงศ์หลง จึงมีทางเป็นไปได้ที่จะพาราชวงศ์หลงหลีกพ้นภัยพิบัตินี้ได้

“เสด็จปู่ ขอท่านได้โปรดสละบัลลังก์เถอะ!”

หลงเทียนหยู่คิดทบทวนชั่งใจอยู่นาน สุดท้ายตัดสินใจ มองไปที่กษัตริย์หลงพูดว่า “เสด็จปู่ ข้าขอรับประกันกับท่านได้ ถ้าหยางเฉินบุกเข้ามาตระกูลราชวงศ์หลง ผมจะต้องหาวิธีทุกวิถีทาง ขอให้เขาปล่อยท่าน!”

“ท่านกับท่านปู่จิ้นต่างเป็นถึงผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์ เพียงท่านได้จับมือคุยด้วยกันได้ ราชวงศ์หลงจะต้องทิ้งห่างตระกูลราชวงศ์อื่น ๆ อย่างแน่นอน!”

สายตาหนาวเฉียบของกษัตริย์หลงพุ่งใส่หลงเทียนหยู่ในทันที หยีตาลงพูดว่า “ขนาดเจ้าทั้งสองพ่อลูก ก็จะมางัดบัลลังก์ข้าด้วยเลยหรือ?”

หลงเทียนหยู่ไม่กล้าสบตากษัตริย์หลง รีบก้มหน้าลง “มิกล้า!”

กษัตริย์หลงก็มองไปที่หลงเสียงอีก

หลงเสียงกลับจ้องตากับกษัตริย์หลงอย่างปราศจากความหวาดหวั่น พูดด้วยสีหน้าหนักแน่น “เสด็จพ่อ ท่านก็เข้าใจดีอยู่ หม่อมฉันไม่เคยคิดจะชิงดีเด่นแย่งอำนาจกับใคร แต่ถ้าหากว่า การแย่งชิงอำนาจมาแล้ว สามารถพาราชวงศ์หลงหลีกพ้นภัยพิบัติได้ หม่อมฉันก็จำเป็นต้องทำ!”

“ช่างประเสริฐจริงนะที่ว่าเพื่อตระกูลราชวงศ์หลง!”

กษัตริย์หลงยิ้มเยือก สายตากวาดมองไปทั่วบริเวณ แววฆ่าวูบวาบในเป็นประกาย “ในเมื่อพวกเจ้าล้วนแล้วแต่คิดจะให้ข้ายกบัลลังก์ให้กับไอ้ลูกทรพีคนนี้ แล้วถ้าฆ่าไอ้ลูกทรพีคนนี้ทิ้งไป ก็เป็นอันจบเรื่องกันได้ใช่ไหม?”

พูดคำนี้ออกมาจบ ทุกคนตกตะลึงกลัวกันไปหมด

หลงเสียงยิ่งสะท้านหวั่นหวาด พูดกับกษัตริย์หลงอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เสด็จพ่อ ท่านจะฆ่าหม่อมฉันหรือ?”

ปฏิกิริยาของหลงจิ้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า เพียงขยับขา ตัวก็ขวางไว้อยู่ข้างหน้าหลงเสียงในพริบตา มองไปที่กษัตริย์หลงอย่างเตรียมพร้อม

เขาแม้ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์แล้ว แต่ก็เพิ่งก้าวเข้ามาถึงไม่นานนัก ส่วนกษัตริย์หลงนั้นเข้าถึงกึ่งแดนเหนือมนุษย์ไปหลายปีแล้ว หากทั้งสองมีการปะทะกัน การที่เขาจะเอาชนะได้นั้นคงไม่มาก

แต่ทว่า เพื่อราชวงศ์หลง เขาจะไม่ยืนตรงข้ามกับกษัตริย์หลงไม่ได้

“ในบรรดาสายเลือดสืบตระกูลของข้า หลงเยว่ผู้มีพรสวรรค์ด้านบูโดสูงที่สุด ก็ได้ถูกตระกูลบู๊โบราณพาตัวไปฝึกตั้งนานมาแล้ว ต่อหลังนั้นมา สรุปที่มีพลังฝีมือเก่งฉกาจที่สุด ก็คือหลงเดอกับเจ้า”

กษัตริย์มองไปที่หลงเสียง พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ด้วยพรสวรรค์ของหลงเยว่ คงไม่มีทางจะได้กลับมาราชวงศ์หลงเป็นแน่ ตอนนี้หลงเคอก็ตายไปแล้ว ก็มีแต่แกหลงเสียงนี่แหละ เป็นคนที่เหมาะสมที่สุดในการรับสืบทอดบัลลังก์”

“แต่ว่า แกใจร้อนเกินไป หากแกยอมทนรออีกสักหน่อย รอถึงวันที่ข้าก้าวเข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ ข้าก็จะไปจากราชวงศ์หลง แล้วก็จะยกบัลลังก์ให้เจ้าแล้ว”

“มองดูตอนนี้ มันไม่มีความจำเป็นแบบนั้นแล้ว!”

ที่กษัตริย์หลงพูดมา ก็ไม่ใช่เรื่องไม่จริง

บรรดาคนในราชวงศ์หลง ต่างก็รู้เรื่องนี้กันดี ตัวหลงเสียงเองก็รู้

แต่ว่า เขารอต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่ใช่เพราะเขารอไม่ได้ที่จะรีบขึ้นครองบัลลังก์ แต่กลัวว่าก่อนที่กษัตริย์หลงจะลงจากบัลลังก์ หยางเฉินจะบุกมาไล่ฆ่าคนในราชวงศ์หลงเสียก่อน

“เสด็จพ่อ หม่อมฉันไม่ใช่จะรอไม่ได้ แต่หม่อนฉันจะไม่ชิงก่อนไม่ได้”

หลงเสียงพูดตาแดง ๆ “ท่านก็เข้าใจชัดเจน ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์นั้นน่ากลัวขนาดไหน แค่เพียงคนเดียว ก็สามารถพลิกแผ่นดินล้มตระกูลราชวงศ์หลงทั้งราชวงศ์”

“เสด็จพ่อ เอาเป็นว่าหม่อมฉันขอร้องท่าน ออกไปจากราชวงศ์หลงเถอะ!”

กษัตริย์ระเบิดเสียงลั่น “หุบปาก!”

คำตวาดอย่างเกรี้ยวกราดสองคำ เหมือนดั่งของแข็งกระแทกใส่ ทำเอาหลงเสียงสะท้านป่วนไปทั้งตัว

“ในเมื่อจะชิงบัลลังก์ งั้นก็ให้พ่อของแกคนนี้ ส่งแกไปบนทางที่ชอบเถอะ!”

กษัตริย์หลงพูดจบคำ พลังปราณบูโดที่น่าสะพรึงกลัว แผ่กระจายออกมาจากภายในตัวของเขา

ในช่วงเวลานั้น ทั่วทั้งราชวงศ์หลง เหมือนถูกปกคลุมมืดด้วยบรรยากาศของการฆ่า

สัมผัสถึงกับอานุภาพจากพลังปราณบูโดที่กษัตริย์หลงปล่อยออกมา หลงเสียงหน้าซีดเป็นขี้เถ้า

ไม่ใช่ความสิ้นหวัง แต่เป็นความรู้สึกที่รับไม่ได้ พ่อบังเกิดเกล้าของตัวเขาแท้ ๆ จะลงมือสังหารตัวเขา

หลงจิ้นที่ยืนขวางหน้าหลงเสียงอยู่ ก็ได้ปล่อยพลังปราณบูโดกึ่งแดนเหนือมนุษย์ออกมาในฉับพลัน ตวาดเสียงเหี้ยมไปว่า “เจ้าก็ได้ฆ่าลูกตัวเองไปแล้วคนหนึ่ง นี่ยังคิดจะฆ่าอีกเป็นคนที่สองงั้นหรือ?”

ในทันทีนั้นกระแสพลังที่น่าสะพรึงกลัว กวาดม้วนพุ่งกระจายออกไปรอบด้าน

“บรึม บรึม บรึม!”

ที่เห็นกันคือศาลาพักร้อนที่อยู่ข้างหลังออกไป พังทลายยับไปในพริบตา ฝุ่นดินบนพื้นปลิวว่อน

ที่ทำให้ทุกคนตื่นเต้นกันก็คือ สองผู้กล้าแข็งปะทะกันซึ่ง ๆ หน้าตรง ๆ หลงจิ้นคงยืนปักหลักในที่เดิม

แม้แต่กษัตริย์หลงเองก็ให้รู้สึกเป็นที่อัศจรรย์ใจ

ตัวเขาเองนั้นก้าวถึงขั้นกึ่งแดนเหนือมนุษย์มาระยะหนึ่งแล้ว แม้เขาเองยังมีความมั่นใจ ที่จะประมือกับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์แท้จริง แต่คิดไม่ถึงว่า หลงจิ้นที่เพิ่งก้าวถึงกึ่งแดนเหนือมนุษย์ กลับสามารถต้านรับการโจมตีครั้งนี้ของเขาได้

“ฝ่าบาท หยุดเถอะ!”

หลงจิ้นเอ่ยขึ้น สายตาเห็นแววการขอร้อง

ไม่ใช่ว่าเขากลัวจะสู้กษัตริย์หลงไม่ได้ แต่ไม่คิดจะประหัตประหารกันเอง

พวกเขาเป็นความเก่งฉกาจที่คงอยู่ของราชวงศ์หลง ไม่ว่าใครเกิดบาดเจ็บสาหัส ผลต่อราชวงศ์นั้น คือความวิบัติ

กษัตริย์หลงได้ก้าวมาถึงแดนกึ่งเหนือมนุษย์แล้ว เชื่อได้ว่าอีกสามตระกูลราชวงศ์ ก็น่าจะมากันถึงแดนนี้แล้วเช่นกัน

เมื่ออยู่ในสภาพการณ์นี้แล้ว หากว่ากษัตริย์หลงกับหลงจิ้นต่อสู้จนบาดเจ็บไปด้วยกัน ตระกูลราชวงศ์อื่น คงไม่ทิ้งโอกาสในการบดขยี้ตระกูลราชวงศ์หลงให้ล่มสลายไปเป็นแน่

และต้องเป็นไปได้ว่า ตระกูลราชวงศ์อีกสามตระกูลนั้น จะรวมหัวเป็นการชั่วคราว มาถล่มตระกูลราชวงศ์หลง

เพราะถึงยังไงมีเหลือสามตระกูลราชวงศ์ใหญ่ ก็จะดีกว่ามีสี่ตระกูลราชวงศ์ใหญ่เป็นไหน ๆ

“เจ้าหลงจิ้นนะเจ้าหลงจิ้น แกนี่ช่างเก็บซ่อนตัวเองได้ลึกล้ำจริง ๆ ถ้าไม่ได้มีการปะมือกับแกในวันนี้ ข้าก็ยังไม่รู้เลย ว่าแกนี่จะเก่งฉกาจมาถึงขั้นนี้แล้ว”

กษัตริย์หลงพูดอย่างหนาวเยือก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War