ตอน บทที่ 1339 ท่าทีอันเลวร้าย จาก The king of War – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1339 ท่าทีอันเลวร้าย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต The king of War ที่เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
เขาเกือบตายในราชวงศ์หลง ตอนนี้แม้แต่ราชวงศ์เย่ก็อำพรางตัวได้ดีขนาดนี้เชียวหรือ?
เมื่อห้าสิบปีที่แล้ว กษัตริย์องค์ก่อนของราชวงศ์เย่ก็อยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์แล้ว ปัจจุบันนี้จะแข็งแกร่งเพียงใด?
“ท่านแน่ใจไหม?” หยางเฉินถามอย่างไม่เต็มใจ
หลงจิ้นพยักหน้า “ถึงจะเป็นข่าวลือทั้งหมด แต่ก็ใช่ว่าเรื่องเหล่านี้จะไม่มีมูล จักรพรรดิของราชวงศ์เย่เมื่อห้าสิบปีก่อน เป็นบุคคลอัจฉริยะอย่างแท้จริง”
หยางเฉินไม่พูดอะไรอีก สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม
หากเป็นเมื่อก่อน เขาจะฆ่าสมาชิกของราชวงศ์เย่โดยไม่ลังเล แต่หลังจากผ่านประสบการณ์ที่ราชวงศ์หลงในวันนี้ เขาก็ไม่กล้าก้าวเข้าสู่ราชวงศ์เย่ง่ายๆ
เหมือนที่หลงจิ้นพูดไว้ เมื่อห้าสิบปีก่อน กษัตริย์องค์ก่อนของราชวงศ์เย่ก้าวเข้าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์แล้ว ปัจจุบันผ่านไปห้าสิบปี เขาจะแข็งแกร่งได้ถึงขั้นไหกันนะ?
หากเขาต้องการคิดบัญชีกับราชวงศ์เย่ เกรงว่าจะทำได้แค่รอ
ในเวลานี้ คนรับใช้ได้เคาะประตูห้องและพูดกับหลงจิ้นว่า “ฝ่าบาท คนของราชวงศ์เย่มาแล้ว บอกว่าต้องการคุยธุระสำคัญบางอย่าง”
“คนของราชวงศ์เย่?”
ประกายเย็นชาระยิบระยับอยู่ในแววตาของหลงจิ้น เขามองหยางเฉินอย่างเป็นกังวล พอเห็นยางเฉินดูเป็นปกติ เขาจึงสั่งการคนรับใช้ “ให้พวกเขารออยู่ในวังหลงหวงก่อน!”
“รับบัญชา!”
คนรับใช้เดินออกไป
“คุณหยาง ต้องการให้ข้าเก็บรักษาสมาชิกของราชวงศ์เย่ตลอดไปหรือไม่?”
เจตนาฆ่าที่รุนแรงแวบผ่านดวงตาของหลงจิ้น
ตอนนี้ในหัวใจของเขา จดจำหยางเฉินได้อย่างแม่นยำ ในขณะเดียวกัน เขาก็เต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อราชวงศ์เย่
ถ้าไม่ใช่เพราะราชวงศ์เย่หลอกให้หลงเคอลุ่มหลง ส่งผู้แข็งแกร่งแดนเทพหกคนไปลอบสังหารหยางเฉิน เรื่องราวต่อมาก็จะไม่เกิดขึ้น
เจตนาฆ่าที่รุนแรงฉายแววผ่านดวงตาของหยางเฉินเช่นกัน เขาพูดอย่างเย็นชา “ท่านไปพบคนของราชวงศ์เย่ก่อน ดูว่าพวกเขาต้องการพูดเรื่องอะไร?”
“จะลงมือหรือไม่ ข้ามีแผนของตัวเอง”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน หลงจิ้นก็รีบตอบรับ “ใช่ ข้าจะไปพบสมาชิกของราชวงศ์เย่ ดูว่าพวกเขามีลับลมคมในอะไรซ่อนเร้นอยู่
หลงจิ้นไม่ได้รีบร้อนจะไปวังหลงหวงในตอนนี้ แต่ยื่นอึ้งอยู่กับหยางเฉิน
เวลานี้ ภายในวังหลงหวง
ชายวัยกลางคนที่มีลมปราณแห่งวิถีบู๊อันแข็งแกร่งกำลังนั่งรออยู่บนเก้าอี้หวาย ข้างหลังเขามีชายชราสองคนที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า ลมปราณแห่งวิถีบู๊ที่เปล่งออกมาจากชายชราสองคนนี้ เกรงว่าน่าจะไปถึงแดนเทพชั้นยอด
ชายวัยกลางคนมองดูอายุราวๆ ห้าสิบห้าปี แต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหรา สีหน้าเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง
“ฝ่าบาท ราชวงศ์หลงทำเกินไปแล้ว พวกเรารอมาครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ก็ไม่เห็นหลงหวงมาสักที”
ชายชราที่อยู่ข้างหลังชายวัยกลางคนกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
ในสายตาที่ดื้อรั้นของชายวัยกลางคน ฉายประกายเย็นชา “ทำเกินไปแล้ว!”
“ราชวงศ์หลงในตอนนี้ น่าจะรู้ดีว่าต้องร่วมมือกับราชวงศ์เย่ของเราเท่านั้น จึงจะสามารถจัดการกับราชวงศ์อื่นๆ รวมถึงตระกูลชั้นนำในเมืองราชวงศ์ของพวกเขาได้”
“แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขายังกล้าข่มขู่เรา ทำเกินไปจริงๆ!”
ชายวัยกลางคนชื่อเย่ชาวฝาน เป็นผู้แข็งแกร่งระดับแดนเทพชั้นปลาย องค์ชายใหญ่แห่งราชวงศ์เย่ และเป็นทายาทของกษัตริย์ราชวงศ์เย่คนปัจจุบัน
แค่นี้ก็รู้แล้วว่า เขามีตำแหน่งอะไรในราชวงศ์เย่
ชื่อของเย่ชาวฝาน ยังแสดงให้เห็นความคาดหวังของกษัตริย์เย่ที่มีต่อเขาด้วย เขาหวังว่าวันหนึ่งเย่ชาวฝาน จะสามารถบุกทะลวงสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์ได้อย่างราบรื่น กลายเป็นสุดยอดผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง
“ฝ่าบาท ในเมื่อราชวงศ์หลงไม่ไว้หน้าเรา พวกเรากลับกันดีกว่า ข้าเชื่อว่าวันหนึ่งราชวงศ์หลงจะมาขอร่วมมือกับราชวงศ์เย่ของเราเอง”
ชายชราอีกคนกล่าวขึ้น
เพียงชั่วครู่ เขาก็เกิดภาพลวงตา ถ้าหากหลงจิ้นต้องการชีวิตเขาก็เป็นเรื่องง่ายดาย
ไม่เพียงแค่เย่ชาวฝานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้แข็งแกร่งระดับแดนเทพชั้นยอดสองคนที่อยู่ข้างหลังเย่ชาวฝานด้วย ในเวลานี้สีหน้าได้เปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกัน เหมือนกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่าเกรงขาม มองไปทางหลงจิ้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
พวกเขาสัมผัสได้ถึงลมปราณแห่งวิถีบู๊ที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวหลงจิ้น แข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก
พวกเขาอยู่ในระดับแดนเทพชั้นยอด นั่นก็หมายความว่าลมปราณแห่งวิถีบู๊ของหลงจิ้น อย่างน้อยต้องอยู่ในระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์แล้ว?
หลงหวงองค์ก่อนก็เป็นผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์เช่นกัน ตอนนี้มีหลงจิ้นเพิ่มมาอีกคน นั่นหมายความว่าราชวงศ์หลงในปัจจุบัน มีผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์แล้วเหรอ?
ในทางตรงกันข้าม ราชวงศ์เย่มีเพียงกษัตริย์เย่ที่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์คนเดียว
เดิมทีในการเดินทางของเย่ชาวฝานกับราชวงศ์หลงในครั้งนี้ มีการวางแผนที่จะร่วมมือกับราชวงศ์หลง จัดตั้งพันธมิตรเพื่อจัดการกับราชวงศ์อื่น ๆ และกองกำลังชั้นนำภายในเมืองราชวงศ์
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าหลงจิ้นจะไม่ชอบราชวงศ์เย่มากนัก มันอาจเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะสร้างพันธมิตร
“หลงหวง วันนี้ข้ามาที่นี่ในนามของบิดา การมาของกษัตริย์เย่ หวังว่าจะเพียงพอให้เราสามารถสร้างพันธมิตรระหว่างราชวงศ์เย่และราชวงศ์หลง เพื่อให้เราสามารถทำงานร่วมกันได้และรับมือกับปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่”
เย่ชาวฝานก็ไม่พูดอ้อมค้อม ตรงเข้าประเด็นทันที แสดงจุดประสงค์ในการมาที่นี่
“ปัญหา? ไม่ทราบว่าราชวงศ์เย่คิดเห็นว่า ราชวงศ์หลงของข้าจะเผชิญหน้ากับปัญหาอะไร?”
หลงจิ้นมองเย่ชาวฝานด้วยสีหน้าไม่แยแส พลางถามขึ้น
เย่ชาวฝานพูดไม่ออก เขานึกไม่ถึงว่าตำแหน่งหลงหวงจะได้มาโดยง่าย ยิ่งคิดไม่ถึงเลยว่าท่าทีของหลงจิ้นที่มีต่อราชวงศ์เย่จะเลวร้ายถึงเพียงนี้
จากท่าทีสามารถมองเห็นอะไรได้บางอย่าง
เห็นได้ชัดว่าราชวงศ์หลงไม่มีความคิดที่จะร่วมมือกับราชวงศ์เย่เลย
“หลงหวง ท่านควรจะรู้ดีว่า ผู้แข็งแกร่งแดนเทพหกคนที่พวกเราสองราชวงศ์ส่งออกไป ตอนนี้ได้ตายลงในมือของหยางเฉินหมดแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...