กัวเชิ่งยิ้มอยู่พลางพยักหน้า มองกัวฉูฉู่แล้วพูดว่า “ฉูฉู่ ครั้งนี้ แกสร้างคุณูปการใหญ่หลวงอย่างหนึ่งให้ตระกูลกัวเลยนะ นึกไม่ถึงจะรับคุณหยางมาที่ตระกูลกัว ประเด็นสำคัญคือ แกยังได้รับคำสัญญาของเขาอีก”
“วันหลัง แกเป็นอิสระแล้ว ปู่จะไม่ก้าวก่ายเรื่องแต่งงานของแกอีก สำหรับหลี่เป่าเฟิง คนอย่างเขา ยังไม่คู่ควรมาแต่งงานกับผู้หญิงดีเลิศที่สุดของตระกูลกัว!”
ถ้าเป็นเมื่อก่อน กัวเชิ่งบอกเธอว่า ให้เธอแต่งงานอย่างอิสระ เธอจะต้องตื่นเต้นมากแน่นอน
แต่ว่าวันนี้ หลังจากพบเจอหยางเฉินด้วยตาตนเอง ความตื่นเต้นในใจของกัวฉูฉู่กลับเลือนหายไปมากมาย ในใจเต็มไปด้วยความซับซ้อน หัวเราะแบบขมขื่นพูดว่า “ครั้งนี้ ถือว่าเพราะโชคร้ายแล้วได้รับข่าวดี?”
อีกด้านหนึ่ง หยางเฉินนั่งอยู่บนรถยนต์ของกษัตริย์ซ่านกวน มุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ซ่านกวน
ซ่านกวนโหรวยิ้มกริ่มจ้องหยางเฉินอยู่ หยางเฉินถูกจ้องจนไม่เป็นอิสระเท่าไร ถึงพูดไปด้วยความจำใจ “คุณจ้องมองผมอยู่ตลอด ทำไมกันเหรอ?”
“ฮาๆ!”
ซ่านกวนโหรวส่งเสียงหัวเราะออกมา จากนั้นมองค้อนหยางเฉินแบบสารพัดอารมณ์ “ได้เจอฉันอีก เหมือนคุณไม่ตื่นเต้นเลยสักนิด”
“จะว่าอย่างไรล่ะ พวกเราก็ถือว่าเป็นเพื่อนกัน เพื่อนเจอกันอีกสักครั้ง หรือว่าไม่ใช่เรื่องที่คุ้มค่าน่าดีใจเหรอ?”
หยางเฉินพยักหน้าแล้ว “เป็นเรื่องคุ้มค่าน่าดีใจเรื่องหนึ่งจริงๆ เพียงแค่ ผมมาเมืองราชวงศ์ซ่านกวนครั้งแรก ก็ถูกคนของตระกูลชั้นนำในเมืองราชวงศ์ซ่านกวนใช้อำนาจข่มขู่เลย คุณในฐานะเพื่อนคนนี้ ต้องรับผิดชอบทั้งหมดด้วย”
ซ่านกวนโหรวย่อมเข้าใจเป็นธรรมดา ที่หยางเฉินพูดคือที่หลี่เป่าเฟิงตามเขาไปที่ตระกูลกัวเรื่องนี้
“อยู่ที่เมืองราชวงศ์ซ่านกวน ตระกูลหลี่ แกร่งมากเหรอ?”
หยางเฉินไม่อยากพูดไร้สาระมากอีกต่อไป ทันใดนั้นมองทางซ่านกวนโหรวแล้วถามขึ้น
รอยยิ้มบนหน้าซ่านกวนโหรวค่อยๆ หายไป แต่เผยแววความเคร่งขรึมออกมา เอ่ยปากตอบว่า “ว่ากันว่าเหล่าจู่(บรรพบุรุษ)ของตระกูลหลี่ ยังมีชีวิตอยู่ และก็คือทวดของหลี่เป่าเฟิง”
“ตามที่คุณปู่ฉันบอกมา ถ้าเหล่าจู่ของตระกูลหลี่ยังมีชีวิตอยู่ วิถีบู๊คงต้องทะลวงไปถึงแดนเหนือมนุษย์แล้ว”
“ไม่เพียงแค่นี้ ตระกูลหลี่ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดออกมาสองคนด้วย สำหรับราชวงศ์ซ่านกวนนั้น เป็นอันตรายใหญ่หลวงอย่างหนึ่ง”
ฟังคำพูดของซ่านกวนโหรวแล้ว หยางเฉินถึงเข้าใจ ทำไมก่อนหน้านี้ หลี่เป่าเฟิงเมื่ออยู่ต่อหน้าซ่านกวนโหรว การแสดงออกถึงก้าวร้าวเช่นนั้น เป็นตระกูลหลี่แกร่งมากตามคาด
อย่างนั้น ก่อนหน้านี้ที่เขาลงมือกับหลี่เป่าเฟิง ตระกูลหลี่จะแก้แค้นตนเองเพราะเหตุนี้หรือไม่?
ในหัวสมองของหยางเฉิน ปรากฏความสงสัยใหญ่มากอย่างหนึ่งขึ้นฉับพลัน
เขาได้รับคำเชิญของกษัตริย์ซ่านกวน ถึงมาที่เมืองราชวงศ์ซ่านกวน เรื่องบังเอิญคือ ตนเองขึ้นเที่ยวบินเดียวกันกับหลี่เป่าเฟิงอย่างคาดไม่ถึง และที่ยิ่งบังเอิญคือ ตนเองยังนั่งด้านข้างกัวฉูฉู่อีก
กัวฉูฉู่เป็นคู่หมั้นของหลี่เป่าเฟิง ส่วนตนเองนั่งอยู่ข้างกายของกัวฉูฉู่ ด้วยความจองหองโอหังของหลี่เป่าเฟิง จำเป็นต้องหาเรื่องหยางเฉินเป็นแน่
พอเป็นเช่นนี้ หยางเฉินก็เจอกับหลี่เป่าเฟิงแล้ว
หยางเฉินได้รับรู้จากในคำพูดของซ่านกวนโหรว ว่าความสามารถของตระกูลแกร่งมาก ต่อให้บอกว่าความสามารถของตระกูลหลี่เทียบเท่าราชวงศ์ ก็ไม่เกินจริง
นี่คือการจัดฉากของกษัตริย์ซ่านกวนหรือไม่?
จงใจล่อตนเองมาที่เมืองราชวงศ์ซ่านกวน จากนั้นปะทะฝีมือกับตระกูลหลี่ ถึงตอนนั้นฝ่ายที่ได้ประโยชน์ก็คือราชวงศ์ซ่านกวน
นึกถึงความเป็นไปได้อันนี้ ชั่วขณะนั้นสีหน้าหยางเฉินอึมครึมลงมา
“คุณหยาง คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”
สัมผัสได้ถึงสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงของหยางเฉิน ซ่านกวนโหรวรีบสอบถามทันที
หยางเฉินส่ายหน้า “ไม่มีอะไร แค่นึกถึงเรื่องไม่ดีบางอย่างมากะทันหัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...