“เสียวหว่าน คุณรีบพาเสี่ยวจิ้งอันหนีไปตั้งแต่ตอนนี้เถอะ”
หลังจากที่อ้ายหลินพูดจบ เธอก็อุ้มเสี่ยวจิ้งอันเข้าไปให้เฝิงเสียวหว่าน อุ้มไว้ หลังจากนั้นเธอมองหน้าเสี่ยวจิ้งอันด้วยความรักและพูดเบา ๆ ว่า "จิ้งอัน แม่รักลูกนะ!"
เธอโน้มตัวและจูบหน้าผากของเสี่ยวจิ้งอันเบาๆ เธอไม่สามารถกั้นน้ำตาของตัวเองได้ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา
"เสียวหว่าน ฉันฝากเสี่ยวจิ้งอันด้วยนะ"
อ้ายหลินมองดูเฝิงเสียวหว่านที่กำลังตกใจและพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า "ถ้าฉันตาย แล้วคุณเจอสามีของฉัน ฝากบอกเขาว่าฉันรักเขา!"
เฝิงเสียวหว่านเริ่มร้อนใจ "พี่อ้าย อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ เสี่ยวจิ้งอันยังเด็กมากจะขาดแม่ไม่ได้เด็ดขาด คุณพาเสี่ยวจิ้งอันหนีไป แล้วฉันจะล่อพวกมันให้เอง"
"ไม่ได้!"
อ้ายหลินรีบปฏิเสธทันที "ต่อให้คุณล่อพวกมันได้ แต่เสี่ยวจิ้งอันกับฉันก็หนีไม่พ้นอยู่ดี เพราะฉันไม่มีพลัง มีเพียงคุณเท่านั้นที่จะพาเสี่ยวจิ้งอันหนีไปได้"
เมื่อเห็นว่าเฝิงเสียวหว่านตัดสินใจไม่ได้ อ้ายหลินก็ขอร้องด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา "เสียวหว่าน ถือว่าฉันขอร้องคุณล่ะนะ อย่าลังเลอยู่อีกเลยได้มั้ย? นายคิดแค่ว่าช่วยฉันพาเด็กหนีไป และไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรหรอก”
เฝิงเสียวหว่านไม่สามารถทิ้งให้อ้ายหลินได้จริงๆ แต่เธอก็รู้ดีว่าถ้าให้เธอเป็นคนที่พาเสี่ยวจิ้งอันหนีไป มีโอกาสที่จะหนีออกไปไม่ได้ ในทางกลับกันหากให้อ้ายหลินเป็นคนพาหนีออกไป แทบไม่มีหวังเลยด้วยซ้ำ
"ตกลง ฉันรับปากคุณ!”
เฝิงเสียวหว่านร้องไห้และตอบตกลง
อ้ายหลินยิ้มอย่างสดใส “ขอบคุณ!”
หลังจากพูดจบ เธอก็มองดูเสี่ยวจิ้งอันเป็นครั้งสุดท้าย และหันกลับมาแล้วรีบวิ่งไปอีกทางหนึ่ง
“ไม่ได้การละ เธอจะหนี! รีบตามไป!”
หลี่เป่าจุ้นที่แอบอยู่เมื่อเห็นอ้ายหลินวิ่งออกไป ก็รีบสั่งคำสั่งให้ผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นต้นได้ไล่ตามอ้ายหลินไปทันที
การวิ่งครั้งนี้ของอ้ายหลินดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที เมื่อหลี่เป่าจุ้นตั้งสติได้ และหันไปหาเฝิงเสียวหว่าน ก็พบว่าเฝิงเสียวหว่านหายตัวไปนานแล้ว
“เฝิงเสียวหว่านล่ะ?” หลี่เป่าจุ้นดูโกรธมาก
เมื่อกี้เฝิงเสียวหว่านที่อยู่ตรงนั้น ได้หายตัวไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเธอนั้นหายตัวได้
หลี่เป่าจุ้นรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา และสั่งว่า "ล้อมสนามบินไว้ และหาตัวเฝิงเสียวหว่านให้เจอให้ได้!"
แม้ว่าสถานะของตระกูลหลี่จะเทียบราชวงศ์ซ่านกวนไม่ได้ แต่ตอนนี้ตระกูลหลี่มีเหล่าจู่ที่ก้าวเข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ ดังนั้นแม้แต่ราชวงศ์ซ่านกวนก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลหลี่
เรื่องที่ตระกูลหลี่ได้ล้อมสนามบินไว้ ไม่นานราชวงศ์ซ่านกวนก็รู้
"ทำไมจู่ๆ ตระกูลหลี่ถึงมาล้อมสนามบินไว้ล่ะ?"
ในวังของราชวงศ์ซ่านกวน กษัตริย์ซ่านกวนซึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
"เสด็จพ่อ ตอนนี้ตระกูลหลี่ชักจะเหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วครับ เขาไม่เห็นหัวราชวงศ์ของเราอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ ปิดล้อมสนามบินไว้โดยไม่แม้แต่จะบอกจะกล่าวกันสักคำแบบนี้"
ภายในห้องโถง บุคคลวัยกลางคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
คนที่พูดคือซ่านกวนจื่อฉิน องค์ชายสามของราชวงศ์ซ่านกวน และเป็นพ่อของซ่านกวนโหรว
หลังจากที่เขาพูดประโยคนี้ ก็มีใครบางคนพูดขึ้นทันที "ฝ่าบาท องค์ชายสามพูดถูก ในตอนนี้ตระกูลหลี่หยิ่งผยองมากขึ้นเรื่อยๆ หากปล่อยให้พวกเขาทำแบบนี้ต่อไป เกรงว่ามันจะเป็นหายนะต่อเมืองราชวงศ์ซ่านกวนนะครับ"
"ในตอนนี้ ตระกูลหลี่เหล่าจู่หลี่จ้งยังมีชีวิตอยู่ และระดับบู๊ของเขาทะลวงไปสู่แดนเหนือมนุษย์แล้ว เกรงว่าเคงต้องการเข้ามาแทนที่ราชวงศ์ซ่านกวนเป็นแน่!"
"ฝ่าบาท ถึงเวลาระงับความเย่อหยิ่งของตระกูลหลี่แล้ว ไม่เช่นนั้นคนราชวงศ์ซ่านกวนของเราจะไม่สามารถเงยหน้าขึ้นได้ในเมืองราชวงศ์"
......
ในวัง สมาชิกราชวงศ์หลายคนต่างก็ออกความเห็น ทุกคนต่างไม่พอใจตระกูลหลี่ที่ทำแบบนี้
ยังไงราชวงศ์ซ่านกวนก็เป็นเจ้าของเมืองราชวงศ์ซ่านกวนที่แท้จริง แต่ตระกูลหลี่นั้นไม่ไว้หน้าราชวงศ์ซ่านกวนเลยแม้แต่น้อย จึงทำให้ราชวงศ์เกิดความไม่พอใจมาเป็นเวลานาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...