สรุปเนื้อหา บทที่ 1606 หนึ่งแก้วทุกวัน – The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง
บท บทที่ 1606 หนึ่งแก้วทุกวัน ของ The king of War ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
หยางเฉินคิดไม่ออกจริงๆ ทำไมเจ้าเมืองเหมียวถึงทำแบบนี้กับตนเอง และไม่รู้ชัดว่าอีกฝ่ายมีเป้าหมายอะไร รู้แค่ว่า เหล้าที่เจ้าเมืองเหมียวให้เขาดื่ม พิเศษอย่างมาก คาดไม่ถึงสามารถเพิ่มระดับการฝึกฝนของตนเองได้เร็วขึ้น
หลังจากผ่านการฝึกฝนมาคืนหนึ่ง หยางเฉินรู้สึกว่าแดนในวิถีบู๊ของตนเองแตะถึงจุดสูงสุดของแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกแล้ว
รอก้าวสู่แดนเหนือมนุษย์ชั้นยอดขั้นหก ยังอยู่ห่างจากแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดไกลไหม?
ตั้งแต่เช้าตรู่ เหมียวหงมาแล้ว ด้านหลังยังมีผู้ติดตามสองคน ในมือผู้ติดตามแต่ละคน ต่างถือถุงใบใหญ่สองใบ ไม่รู้ว่าด้านในถุงใส่อะไรไว้
เหมียวหงมองทางหยางเฉินบอกว่า “คุณหยางครับ นี่คือต้นหญ้าคืนจิตที่เจ้าเมืองให้ผมนำมาให้คุณครับ”
พูดแบบนี้ออกมา หยางเฉินตะลึงค้างถึงที่สุด
เหตุผลที่เขามาเมืองเหมียวในครั้งนี้ ความจริงคือเพื่อมาตามหาต้นหญ้าคืนจิต เพราะเฝิงเจียหยีบอกเขาว่า ต้นหญ้าคืนจิตสามารถทำให้คนที่สูญเสียจิตสำนึกค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมาได้
ส่วนต้นหญ้าคืนจิตมีแค่ที่เมืองเหมียว ดังนั้นเขาถึงมาที่เมืองเหมียวแล้ว
แต่สิ่งที่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงคือ ตนเองยังไม่ได้เริ่มตามหาต้นหญ้าคืนจิตเลย เจ้าเมืองเหมียวก็ให้คนส่งเจ้าเมืองเหมียวมาให้แล้ว ประเด็นคือ เจ้าเมืองเหมียวรู้วัตถุประสงค์ที่เขามาเมืองเหมียวได้อย่างไรกัน?
“ฝากขอบคุณเจ้าเมืองเหมียวแทนผมด้วยครับ!”
หลังสีหน้าหยางเฉินกลับเป็นปกติ จึงเอ่ยปากบอกไป
เหมียวหงกลับพูดจาอย่างจริงจัง “อยากขอบคุณไปขอบคุณด้วยตัวเองเถอะครับ เจ้าเมืองเหมียวจะไปตกปลาที่ลำธารมังกรทุกวัน”
พูดจบ เขาหมุนตัวออกไป
มองภาพด้านหลังที่จากไปของอีกฝ่าย หยางเฉินหน้าตามึนงง ผู้ชายคนนี้ จริงจังเกินไปแล้วมั้ง?
“พี่หยาง นี่คือต้นหญ้าคืนจิตนี่! ต้นหญ้าคืนจิตมากขนาดนี้!”
เวลานี้ เฝิงเสียวหว่านเดินออกมาจากห้อง ตอนที่เธอมองเห็นต้นหญ้าคืนจิตสี่ถุงใหญ่ หน้าตื่นตกใจเต็มที่
หยางเฉินหัวเราะแล้วพยักหน้า “เจ้าเมืองเหมียวให้คนส่งมาให้เมื่อกี้นี้เอง”
เฝิงเสียวหว่านพูดแบบตกใจอยู่บ้าง “ราคาของเจ้าเมืองเหมียวสูงมากๆ อยู่ข้างนอก ต้นหญ้าคืนจิตอายุร้อยปีอันหนึ่ง อยู่ในงานประมูลสามารถเสนอราคาเป็นสิบล้านออกมากัน แค่ต้นหญ้าคืนจิตธรรมดา อันหนึ่งก็สักห้าหกหมื่น ตรงนี้มีตั้งสี่ถุงใหญ่”
ฟังคำพูดของเฝิงเสียวหว่านแล้ว หยางเฉินตกใจอย่างมากเหมือนกัน
เขารู้เพียงว่าต้นหญ้าคืนจิตหายากมาก มีเพียงที่เมืองเหมียวถึงมีของ กลับคิดไม่ถึงว่า ต้นหญ้าคืนจิตแบบธรรมดาอันหนึ่ง จะราคาห้าหกหมื่น
มองสี่ถุงใหญ่บนพื้น เดาว่าอย่างน้อยมีต้นหญ้าคืนจิตหมื่นอันขึ้น และนั่นหมายความว่า ต้นหญ้าคืนจิตสี่ถุงใหญ่นี้ ถ้าเอาไปขายข้างนอก อย่างน้อยสามารถขายได้ราคาห้าหกร้อยล้านเลย
ดูจากสถานะของเขาในปัจจุบันนี้ ถึงแม้ห้าหกร้อยล้านจะไม่มากอะไร แต่โดยเฉพาะนี่คือของที่คนนอกส่งมาให้ตนเอง
หยางเฉินมองเฝิงเสียวหว่านแล้วพูดว่า “เสียวหว่าน ต้นหญ้าคืนจิตพวกนี้ ให้เธอแล้วนะ เธอคิดหาวิธีหน่อย ว่าจะเอาต้นหญ้าคืนจิตพวกนี้ มาศึกษาวิจัยวิธีรักษาหม่าชาวให้หายได้หรือเปล่า อย่างน้อยต้องคิดวิธีรักษาจิตสำนึกของหม่าชาวไม่ให้สูญเสียเพิ่มขึ้น”
เฝิงเสียวหว่านดึงสติกลับมาจากอาการตกใจ รีบพยักหน้าทันที พูดด้วยท่าทางจริงจัง “พี่หยางวางใจได้ค่ะ ฉันจะต้องหาวิธีรักษาพี่หม่าให้หายได้แน่”
“ดี!”
หยางเฉินพยักหน้า
สำหรับเขานั้น เรื่องสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการฝึกฝน
ถึงแม้ตอนนี้เขาจะกลายเป็นคิงแห่งเยี่ยนตูแล้ว ว่าตามที่เล่าลือกัน เขาเป็นผู้สืบทอดของตี้ชุน แต่ผู้แข็งแกร่งตี้ชุนบอกว่าเขาอ่อนแอเกินไป แม้แต่สิทธิ์เข้าสู่ตี้ชุนยังไม่มี
ดังนั้นตอนนี้เขาได้เพียงคิดหาวิธีทำให้ตนเองแกร่งขึ้นกว่าเดิม ตี้เทียนก็บอกไว้แล้ว มีเพียงหลังจากแดนของเขาข้ามแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า ถึงมีสิทธิ์เข้าสู่ตี้ชุน
หยางเฉินคิดดูแล้ว เอ่ยปากถามว่า “ท่านผู้อาวุโสครับ ท่านรู้เรื่องราวพวกนี้ได้อย่างไรครับ?”
เห็นได้ชัดว่า ความหมายของเขาคือ เจ้าเมืองเหมียวรู้เป้าหมายที่เขามาเมืองเหมียวได้อย่างไร
บางทีเพราะรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมมาก คำเรียกที่หยางเฉินเรียกเจ้าเมืองเหมียว ก็เปลี่ยนเป็นท่านผู้อาวุโสแล้ว
เจ้าเมืองเหมียวมองทางหยางเฉินแบบท่าทางเมตตาพูดว่า “ถ้านายเรียกฉันว่าปู่ บางทีฉันจะบอกคำตอบนาย”
หยางเฉินตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นหัวเราะแล้วพูดว่า “ปู่เหมียว!”
“ฮาๆ ดี!”
เห็นได้ชัดว่าเจ้าเมืองเหมียวดีใจอย่างมาก หยิบขวดน้ำเต้าขึ้น แล้วเทเหล้าสองแก้ว ยื่นแก้วหนึ่งในนั้นให้หยางเฉิน ยิ้มบอกว่า “มา ดื่มเหล้า!”
หยางเฉินรอคอยเหล้านี้มากเช่นกัน เมื่อวานเพียงดื่มแก้วเล็กๆ ไป ประสิทธิผลการฝึกฝนยังเพิ่มเป็นเท่าตัว
กระทั่งแม้แต่คำถามที่เขาเพิ่งสอบถามเจ้าเมืองเหมียวไป ยังไม่ได้รับคำตอบของเรื่องนี้ ล้วนลืมไปหมดแล้ว
กลืนเหล้าแก้วหนึ่งลงท้อง เขารีบเข้าสู่สภาพการฝึกฝนทันที
รอตอนที่เขาเสร็จสิ้นการฝึกฝน ดวงอาทิตย์เพิ่งลับขอบฟ้า ไม่เห็นเงาของเจ้าเมืองเหมียวตั้งนานแล้ว
หยางเฉินหัวเราะขมขื่นแล้วส่ายหน้า “ท่านผู้อาวุโสเหมือนยังไม่ได้บอกคำตอบผมเลย”
สองสามวันต่อมา ช่วงบ่ายแต่ละวัน หยางเฉินจะมาที่ลำธารมังกรตรงเวลา ส่วนทุกครั้งที่มาถึงตรงนี้ เจ้าเมืองเหมียวจะให้เหล้าหยางเฉินแก้วหนึ่ง ดื่มเสร็จแต่ละครั้ง หยางเฉินจะเข้าสู่สภาพการฝึกฝน รอสิ้นสุดการฝึกฝน ก็ไม่เจอเจ้าเมืองเหมียวแล้ว
จนกระทั่งวันนี้เจ็ด หลังหยางเฉินฝึกฝนเสร็จสิ้น คาดไม่ถึงพบว่าเจ้าเมืองเหมียวไม่ได้ออกไป เหมือนว่ากำลังรอตนเองฝึกฝนเสร็จสิ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...