หลังจากมีดสั้นลอยไปทางหยางเฉิน และไม่ได้แทงเข้าร่างกายของเขา แต่ว่าถูกหยางเฉินกุมเอาไว้
ชั่วขณะนั้นที่มือเขากุมมีดสั้นไว้ กลิ่นอายอันมหาศาล ระเบิดออกจากบนตัวเขา
หยางเฉินมีภาพลวงตาบางอย่างขึ้นฉับพลัน มีดเล่มนี้เหมือนเดิมทีเป็นของตนเอง โดยเฉพาะยังมีความรู้สึกคุ้นเคยแบบน่าประหลาดใจ
“ฆ่า!”
เขาตะโกนขึ้นทีหนึ่ง โฉบตัวผ่านไป ชั่วพริบตาเดียว ก็ปรากฏตัวด้านหน้าของผู้แข็งแกร่งเพ้าดำแล้ว
เห็นเพียงมีดในมือของเขา กรีดเป็นเส้นโค้งที่สวยงามเส้นหนึ่งอยู่กลางอากาศ แล้วแทงเข้าไปยังบริเวณหัวใจของผู้แข็งแกร่งเพ้าดำโดยตรง
ลูกตาของผู้แข็งแกร่งเพ้าดำหดตัวลง ออกแรงที่เท้าอย่างฉับพลัน ร่างกายถอยออกไปด้านหลัง
แต่ว่า หยางกลับตามเข้าไปติดๆ มีดอยู่ห่างจากตำแหน่งหัวใจของผู้แข็งแกร่งเพ้าดำใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
หยางเฉินท่าทางดุร้าย ตอนที่มองทางผู้แข็งแกร่งเพ้าดำ ในสายตาเต็มไปด้วยแรงอาฆาตอันดุเดือด
“ตายไปซะ!”
เขาตะโกนเสียงดัง มีดในมือปรากฏอยู่ที่ตำแหน่งหัวใจของผู้แข็งแกร่งเพ้าดำโดยตรง
“ป้าบ!”
ในชั่วเวลาพริบตาเดียว มีมือข้างหนึ่งปรากฏขึ้นกะทันหัน จับบนข้อมือของหยางเฉินไว้แล้ว
และเวลานี้ ระยะห่างของมีดกับตำแหน่งหัวใจของผู้แข็งแกร่งเพ้าดำ มีเพียงหนึ่งเซนติเมตรสุดท้าย ตามองเห็นว่าจะแทงเข้าร่างกายของเขา
“ปู่เหมียว!”
ตอนที่หยางเฉินมองเห็นผู้อาวุโสที่จับข้อมือตนเองไว้ ท่าทางตกใจ
ความโกรธบนตัวของเขา เลือนหายไปในชั่วพริบตา
เจ้าเมืองเหมียวมองทางหยางเฉินแบบยิ้มแย้มแล้วพยักหน้า “ในที่สุดก็กระตุ้นลายตระกูลได้แล้วนะ!”
หยางเฉินตะลึงครู่หนึ่ง ถึงถามว่า “ปู่เหมียวครับ ที่ท่านพูดมาหมายความว่าอะไรครับ?”
เจ้าเมืองเหมียวพูดจาแบบเบิกบาน “นายวางมีดลงมาก่อน”
หยางเฉินมึนงงพอสมควร ถึงแม้อยากจะแก้แค้นแทนพ่อแม่ตนเองให้สาสม แต่ว่าเจ้าเมืองเหมียวให้เขาวางมีดลงมา เขาไม่วางไม่ได้
หลังเห็นหยางเฉินวางมีดลง เจ้าเมืองเหมียวถึงหัวเราะแล้วบอกว่า “ความจริง เขาคือเหมียวเจิ้นตงผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งที่อยู่ข้างกายฉันเอง และไม่ได้เป็นศัตรูที่ฆ่าพ่อแม่ของนาย ไม่เพียงแค่นี้ ภายใต้การช่วยเหลือของเขา นายยังกระตุ้นลายตระกูลอย่างราบรื่นอีกด้วย”
“ตอนนี้นายสัมผัสดูสักหน่อย สามารถรู้สึกได้ถึงความสามารถของตัวเองเพิ่มขึ้นฉับพลันหรือเปล่า?”
ฟังคำพูดของเจ้าเมืองเหมียวแล้ว หยางเฉินอึ้งอยู่ที่เดิมถึงที่สุด
ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำที่เขาอยากฆ่าเมื่อสักครู่นี้ คาดไม่ถึงเป็นคนที่เจ้าเมืองเหมียวจัดเตรียมไว้?
เวลานี้ เหมียวเจิ้นตงถอดหน้ากากบนหน้าลงมา เผยใบหน้าที่แก่หง่อมออกมา บนหน้ายังมีรอยยิ้มระดับหนึ่ง มองทางหยางเฉินบอกว่า “คุณหยาง ก่อนหน้านี้ล่วงเกินไปมากเลย ขอท่านอภัยให้ด้วยครับ!”
หยางเฉินมองทางเจ้าเมืองเหมียวอย่างตกใจถามว่า “ปู่เหมียวครับ นี่สรุปมันเรื่องอะไรกันครับ?”
เจ้าเมืองเหมียวหัวเราะแล้วตอบว่า “ถึงแม้ในร่างกายนายจะครอบครองสายเลือดคลั่งไว้ แต่เพราะไม่มีทางกระตุ้นลายตระกูล ดังนั้นจึงไม่มีทางสำแดงสภาพแกร่งที่สุดของสายเลือดคลั่งออกมาได้”
“ส่วนฉันรู้วิธีกระตุ้นลายตระกูลมาพอดี ก็แค่ใช้ความโกรธแค้น มากระตุ้นผู้ครอบครองสายเลือดคลั่ง มีเพียงนายเข้าสู่สภาพเดือดดาลถึงที่สุด ถึงกระตุ้นลายตระกูลได้”
“มีเพียงกระตุ้นลายตระกูลขึ้นแล้ว ตอนที่กระตุ้นสายเลือดคลั่ง ร่างกายถึงจะไม่แบกรับผลข้างเคียงใดๆ สำหรับนายนั้น ตอนนี้พอใช้งานสายเลือดคลั่ง ก็จะไม่สร้างการบาดเจ็บให้แก่ร่างกายของนายอีกแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...