The king of War นิยาย บท 1630

ทันทีที่สองพี่น้องตระกูลซ่งพูดจบ ประตูของยอดเมฆาก็ถูกทุบเป็นชิ้นๆ ดัง ‘ปัง’ ร่างทั้งสองของชายวัยกลางคนได้พุ่งเข้ามา

บนร่างกายของทั้งสองปลดปล่อยพลังระดับเหนือมนุษย์ขั้นห้าออกมา

“ที่แท้ นายก็มาหลบอยู่ตรงนี้เอง”

ผู้แข็งแกร่งหนึ่งในนั้นพูดเยาะเย้ย

ทั้งสองกอดอก จ้องไปที่สองพี่น้องตระกูลซ่งด้วยรอยยิ้ม เหมือนแมวกำลังเล่นจับหนู สายตาเต็มไปด้วยการยั่วเย้า

สองพี่น้องตระกูลซ่งมองหน้ากัน ทั้งสองกัดฟันพูดว่า “ในเมื่อพวกคุณต้องการพาเราพี่น้องกลับไป งั้นพวกเรากลับไปกับคุณก็ได้”

พูดจบพวกเขาก็เดินมุ่งหน้าไปหาทั้งสอง

พวกเขาไม่ต้องการทำให้พวกหยางเฉินเดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องการประนีประนอม

“ถือว่าพวกคุณอยู่เป็น! แต่พวกคุณอย่าได้กังวล แม้ว่าจะไปถึงเมืองหวยเฉิงแล้ว แต่ด้วยความสามารถแบบพวกคุณสองพี่น้อง เจ้าเมืองจะไม่ปฏิบัติต่อพวกคุณอย่างไร้ค่าแน่นอน!”

ทั้งสองพูดด้วยรอยยิ้มโดยไม่หันมามอง ในสายตาของพวกเขา เห็นเป็นแค่มดเท่านั้น

“เดี๋ยวก่อน!”

ทันใดนั้นหยางเฉินก็พูดขึ้น

“หืม?”

ผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิงสองคนหันขวับกลับมาทันที หรี่ตามองหยางเฉินแล้วพูดว่า “เจ้าหนู นายมีธุระอะไรหรือเปล่า?”

“คุณจะพาพวกเขาไป เคยถามความคิดเห็นของผมไหม?” หยางเฉินถามด้วยสีหน้านิ่งเฉย

เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของชายจากเมืองหวยเฉิงทั้งสองก็ส่องประกายเจตนาฆ่า

หนึ่งในนั้นจับจ้องไปที่หยางเฉินด้วยเจตนาฆ่าอย่างน่าสะพรึงกลัว พลางพูดว่า “เจ้าหนู นายกำลังรนหาที่ตาย!”

หยางเฉินพูดกับอีกฝ่ายอย่างเยือกเย็น “ดูเหมือนว่าคนของตระกูลบู๊โบราณจะอาศัยอยู่อย่างสันโดษมาเป็นเวลานาน คิดว่าผู้คนภายนอกเป็นมดกันหมด”

ทันทีที่เขาพูดจบ พลังอันยิ่งใหญ่ได้แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา

“บูม!”

พลังอันน่าสะพรึงกลัวได้สั่นสะเทือนผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิงที่อยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าให้ถอยออกไปหลายก้าว

ทั้งสองหน้าถอดสี ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พึมพำว่า “เป็นไปได้ยังไง? นายคือผู้แข็งแกร่งที่เหนือกว่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้างั้นหรือ?”

พวกเขาล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า แต่ตอนนี้กลับสัมผัสได้ถึงลมปราณที่อยู่เหนือกว่าระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าจากตัวหยางเฉิน กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความสามารถของหยางเฉินอย่างน้อยก็อยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหก หรืออาจจะแข็งแกร่งกว่านั้นด้วยซ้ำ

“พวกคุณเป็นคนทำลายวิถีบู๊ของผู้อาวุโสจั่วโย่วหรือเปล่า?” หยางเฉินถามอย่างเยือกเย็น

ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งรีบบอก “พวกเขาบุกเข้าไปขโมยสมุนไพรในหุบเขาราชายาในเมืองหวยเฉิงของพวกเราโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหุบเขาของเราสั่งให้พวกเรานำตัวพวกเขากลับไปให้ได้”

“แต่พวกเขาขัดขืน ไม่ยอมไปกับพวกเรา ดังนั้นจึงถูกทำลายวิถีบู๊”

ซ่งโย่วกล่าวอย่างโมโห “พวกเราไม่ได้ขโมยสมุนไพร แค่ไม่รู้ว่าสถานที่ที่พวกเราเข้าไปเก็บสมุนไพรคือหุบเขาราชายาของพวกคุณ จะว่าไปแล้ว สมุนไพรทั้งหมดที่เราได้มาจากหุบเขาราชายา ก็ถูกพวกคุณแย่งชิงไปหมดแล้ว ตอนนี้วิถีบู๊ของพวกเราก็ถูกทำลายลงแล้ว พวกคุณยังต้องการอะไรอีก?”

ผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิงกล่าวว่า “พวกคุณไม่รู้หรอกว่าพวกคุณทำอะไรลงไป พวกเราต้องใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะปลูกสมุนไพรที่พวกคุณเก็บมาได้ ยังไม่ทันถึงช่วงเวลาที่เก็บเกี่ยวได้ ก็ถูกพวกคุณเก็บเกี่ยวแล้ว”

เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของสองพี่น้องตระกูลซ่งก็แย่ลงอย่างมาก

หยางเฉินกล่าวอย่างเย็นชา “ต่อให้เป็นสมุนไพรที่มีค่าแค่ไหน แต่ก็ต้องมีมูลค่าสำหรับการซื้อขาย คุณต้องการอะไร พูดมาเลย!”

เป็นความจริงที่สองพี่น้องตระกูลซ่งได้พลัดเข้าไปในดินแดนของศัตรูโดยไม่ได้ตั้งใจ แถมยังเก็บสมุนไพรมาด้วย มันเป็นความผิดของพวกเขาก่อนจริงๆ

อย่างไรก็ตาม เมืองหวยเฉิงก็เป็นเมืองโบราณเมืองหนึ่ง หยางเฉินไม่อยากให้ต้องผิดใจกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War