สรุปเนื้อหา บทที่ 1696 ผลลัพธ์ที่แย่ที่สุด – The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง
บท บทที่ 1696 ผลลัพธ์ที่แย่ที่สุด ของ The king of War ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ภายในสายตาที่แดงก่ำของหยางเฉิน มีความคมเข้มฉายขึ้น น้ำเสียงที่เย็นชาอย่างที่สุดดังออกมาจากปากของเขา “ตอนนี้คิดอยากจะหนี สายไปแล้วละ!”
เสียงสิ้นสุดลง เขาก็ได้พุ่งตัวออกไปแล้ว
ถ้าหากว่าติงชางไล่ตามมาถึงแล้ว เขาทำได้แค่สู้เต็มทีสักตั้ง แต่ตอนนี้ ในเมื่อติงชางยังไล่ตามมาไม่ทัน เขาจึงไม่คิดจะปล่อยคนพวกนี้ไปง่ายๆแน่นอน
“ปึก!”
เขาไล่ทันผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นต้นคนหนึ่ง กระทืบเท้าใส่แล้วอีกฝ่ายก็ตายคาที่ทันที
ในเวลานี้เอง ติงชางได้ตามมาถึงแล้ว และตะคอกว่า “เจ้าหยางเฉิน แกมันรนหาที่ตาย!”
หยางเฉินกำลังจะเลิกไล่ฆ่าแล้ว แต่ในเวลานี้เอง จู่ๆก็ได้มีผู้แข็งแกร่งชุดดำหลายคน วิ่งไล่ฆ่าตามไปทางที่คนพวกนั้นหนีไป
วินาทีต่อมา ภาพที่ทำให้หยางเฉินตกตะลึงก็ได้เกิดขึ้น เห็นเพียงแค่ว่าเมื่อผู้แข็งแกร่งชุดดำพวกนั้นไล่ตามพวกผู้แข็งแกร่งที่หนีไปแล้ว ต่างก็ใช้เพียงแค่กระบวนท่าเดียว ฆ่าผู้แข็งแกร่งพวกนั้นตายคาที่
ส่วนผู้แข็งแกร่งพวกนั้นที่ติงชางพามา นอกจากผู้แข็งแกร่งที่ถูกหยางเฉินฆ่าทิ้งแล้ว ผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ล้วนอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้ากันทั้งนั้น
แต่ว่าตอนนี้ พวกเขากลับสู้ผู้แข็งแกร่งชุดดำพวกนั้นไม่ได้แม้แต่น้อย แทบจะเพียงแค่พริบตาเดียว ต่างก็ถูกฆ่าทิ้งจนหมด
“คุณหยางครับ!”
เมื่อผู้แข็งแกร่งชุดดำพวกนั้นไล่ฆ่าคนพวกนั้นจนหมดแล้ว ก็รวมตัวกันกลับไปที่ด้านหลังของหยางเฉิน
จนกระทั่งวินาทีนี้ หยางเฉินถึงได้รู้ว่าคนพวกนี้น่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งของจวนมู่ ที่มู่ฮว๋าบอกว่ามาเพื่อช่วยเหลือเขา
หยางเฉินเหลือบมองคนพวกนี้ก็รู้สึกตะลึง มีผู้แข็งแกร่งชุดดำทั้งหมดสิบคน พลังของทุกคนล้วนอยู่เหนือกว่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าทั้งหมด
โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งตัวนำคนนั้น พลังบูโดที่แผ่กระจายออกมาจากตัว ช่างน่ากลัวอย่างมาก แม้แต่หยางเฉินเอง ยังรู้สึกได้ถึงแรงกดดัน
สามารถทำให้หยางเฉินรู้สึกถึงแรงกดดันได้ แดนบูโดของอีกฝ่ายจะต้องสูงกว่าหยางเฉินแน่นอน นั่นก็หมายความว่า ระดับแดนบูโดของอีกฝ่าย อย่างน้อยก็อยู่ที่ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นต้น หรืออาจจะสูงมากกว่านั้น
ขณะนี้ ติงชางเองก็เดินใกล้เข้ามา สีหน้ามืดมนจนขีดสุด สายตาจ้องหยางเฉินเขม็ง พูดอย่างโมโหว่า “หยางเฉิน แกช่างใจกล้าจริงๆ กล้าฆ่าคนของเรามากขนาดนี้ แกต้องเสียใจแน่นอน”
สายตาเย็นชาของหยางเฉิน จับจ้องไปที่ติงชาง พูดเสียงเย็นชาว่า “นายวางใจได้ คนที่จะเสียใจภายหลัง มีเพียงแค่นายเท่านั้น!”
ติงชางยิ้มเยาะ “งั้นเราก็มารอดูกัน!”
พูดจบ เขาก็ได้หันหลังจากไป
หยางเฉินไม่ได้ตามไปไล่ฆ่า ถึงแม้ติงชางจะถูกเขาใช้มีดพกอาถรรพ์ทำร้ายสาหัส แต่ยังไงซะอีกฝ่ายก็อยู่ถึงระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอด
ผู้แข็งแกร่งชุดดำด้านหลังเขาพวกนี้ ถึงแม้ว่าจะแข็งแกร่งมากเช่นกัน แต่คนที่เก่งมากที่สุด ระดับแดนบูโดก็ไม่น่าจะเทียบถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอด
ถ้าหากพวกเขาสู้กันกับติงชาง บางทีก็ไม่อาจจะเก็บติงชางได้ แต่กลับกันที่อาจจะรอจนถึงทีมช่วยเหลือของติงชางมาถึงก็ได้
แน่นอน ติงชางเองก็ไม่กล้าเข้าไปฆ่าหยางเฉินต่อหน้าผู้แข็งแกร่งมากมายเช่นนี้
เพียงแต่ หยางเฉินไม่ได้สังเกตว่าในตอนที่ติงชางเพิ่งหันหลังไปนั้น มุมปากของเขาได้ยกยิ้มชั่วร้ายขึ้น เหมือนว่าไม่เสียใจต่อการที่เสียผู้แข็งแกร่งมากมายพวกนั้นเลย
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง หยางเฉินกลับถึงจวนมู่
“พี่หยางคะ!”
เพิ่งกลับถึงจวนมู่ เฝิงเสียวหว่านก็วิ่งเข้ามาอย่างตื่นเต้น
เมื่อเห็นเฝิงเสียวหว่าน บนใบหน้าของหยางเฉินก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้น “เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”
เฝิงเสียวหว่านส่ายหน้า พูดด้วยตาแดงก่ำว่า “พี่หยาง ฉันดูแผลให้ก่อนเร็ว”
เหล่าจิ่วเองก็ร้อนรนขึ้นมาทันที “เป็นเพราะอะไรกันแน่?”
หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก “ถ้าหากว่าผมเดาไม่ผิด บาดแผลพวกนั้นที่เสียหว่านพูดถึง น่าจะเป็นแผลที่เกิดจากของอาถรรพ์ดูดจิตครับ”
“อะไรนะ?”
สีหน้าของเหล่าจิ่วและหวยหลันต่างก็ตะลึงอย่างมาก
หยางเฉินยื่นแขนขวาออกไป เห็นเพียงแค่ว่าผิวหนังตั้งแต่แขนท่อนบนด้านขวา ล้วนกลายเป็นสีดำหมดแล้ว
เห็นได้ชัดว่าเป็นอาการที่ผิวหนังตาย
ก่อนหน้านี้ที่เจอติงชางในสนามบิน หยางเฉินก็สังเกตเห็นแล้วว่าหน้าอกของติงชาง ตำแหน่งที่ถูกมีดพกอาถรรพ์ของเขาทำร้าย มีบาดแผลที่รุนแรงมาก บนเสื้อผ้ามีรอยเลือดที่เห็นได้อย่างชัดเจน
ในตอนนั้น เขาก็เดาได้แล้วว่า ผลการทำร้ายของมีดพกอาถรรพ์ น่าจะน่ากลัวเป็นอย่างมาก
ส่วนตัวเขาก่อนหน้านี้ก็ได้ใช้มีดพกอาถรรพ์ฆ่าเงาเพชฌฆาตของจวนเมืองหวยเฉิง จากนั้นก็ใช้มีดพกอาถรรพ์ต่อสู้กับติงชาง แขนขวาทั้งแขนจึงได้รับการโดนดูดจิตอย่างหนัก
โดยเฉพาะผิวหนังของแขนขวา ถึงขั้นเปลี่ยนเป็นสีดำม่วง แต่ช่วงท่อนบน สภาพดีขึ้นเรื่อยๆ
แต่ว่าผิวหนังตั้งแต่ช่วงศอกลงมา ล้วนแทบจะกลายเป็นสภาพเนื้อตายเสียหายทั้งหมด
เฝิงเสียวหว่านมองไปที่แขนของหยางเฉิน น้ำตาก็ไหลรินอย่างห้ามไม่ได้ เธอน้ำตาไหลไปด้วย แล้วก็รีบร้อนหยิบเอายาจินชวงที่ดีมากออกมา และถูบนแขนของหยางเฉิน
ในตอนที่หวยหลันเห็นสภาพแขนของหยางเฉิน ตกตะลึงจนต้องเอามือปิดปากตัวเองไว้
จู่ๆเหล่าจิ่วก็พูดเสียงทุ้มว่า “ผลลัพธ์ที่แย่ที่สุด เป็นยังไง?”
มือของเฝิงเสียวหว่านที่กำลังทายาให้กับหยางเฉินอยู่หยุดนิ่งในทันที หลังจากที่เงียบไปสักพัก แล้วเธอก็พูดด้วยดวงตาแดงก่ำว่า “ตัดแขนค่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...