The king of War นิยาย บท 1699

ในตอนนี้ มู่ฮว๋าได้เข็นเจ้าเมืองมู่กลับมาถึงที่ห้องแล้ว

มู่ฮว๋าถามว่า “ท่านเจ้าเมืองครับ ท่านจะนับยัยเด็กคนนั้นเป็นหลานบุญธรรมจริงหรือครับ?”

เจ้าเมืองมู่หัวเราะ ถามว่า “ทำไม? นายคิดว่า หล่อนไม่มีสิทธิ์?”

มู่ฮว๋าส่ายหัว “คุณหนูเฝิงอ่อนเยาว์มากขนาดนี้ ก็ได้มีฝีมือวิชาการแพทย์ที่เก่งกาจเช่นนี้ สามารถถูกท่านรับมาเป็นหลานบุญธรรมได้ สำหรับจวนมู่ของเราแล้ว ก็ถือเป็นเรื่องดีอย่างหนึ่งครับ”

เจ้าเมืองมู่หัวเราะพูดว่า “นายพูดถูก ถ้าหากจวนมู่ได้มีหญิงคนนี้ ถือเป็นเกียรติแก่จวนมู่ของเรา”

“ที่ฉันรับหล่อนมาเป็นหลานบุญธรรม ยังมีข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือหยางเฉินระวังตัวอย่างมาก ตั้งแต่ต้นจนตอนนี้ ล้วนยังระแวดระวังต่อฉันเสมอ”

“สถานการณ์ของเขาในตอนนี้อันตรายอย่างมาก หากออกจากจวนมู่ มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะถูกตระกูลติงและจวนเมืองหวยเฉิงฆ่าทิ้ง แต่ถ้าหากอยู่ที่จวนมู่ของฉัน เขาก็กังวลว่าเราจะหวังอะไรจากตัวเขา แน่นอน ความระแวดระวังต้องมีอยู่แล้ว ยิ่งเป็นคนที่เพิ่งรู้จักได้ไม่นานอีกด้วย เขามีความระวังต่อฉัน ก็ถือเป็นเรื่องปกติ”

“ฉันอยากจะเป็นมิตรกับหยางเฉินจริงๆ ไม่พูดถึงพรสวรรค์ด้านบูโดของตัวเขาแล้ว แค่พูดถึงคนรอบข้างของเขา เสียวหว่านฝีมือการแพทย์เป็นหนึ่ง มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะสามารถรักษาขาของฉันให้หายได้ เป็นคนอัจฉริยะที่หาได้ไม่มาก”

“ยังมีเหล่าจิ่วอีก รู้มั้ยว่าเขาเป็นคนของใคร? เขาเป็นคนของเจ้าเมืองเหมียว ฉันสืบเหล่าจิ่วมาแล้ว เขาซื่อสัตย์ต่อเจ้าเมืองเหมียวมาก ถึงแม้พลังจะยังไม่ก้าวเข้าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า แต่ก็ถือเป็นผู้แข็งแกร่งที่ไร้เทียมทานในระดับตั้งแต่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าลงไป”

“เจ้าเมืองเหมียวถึงขั้นส่งตัวเหล่าจิ่วมาที่ข้างกายหยางเฉินแล้ว ยังไม่สามารถอธิบายได้อีกหรอ?”

“ส่วนหวยหลันคนนั้น เคยเป็นโฆษกของเจ้าเมืองหวยเฉิงอยู่เมืองหวยเฉิง วิธีการและความสามารถล้วนโดดเด่นมาก และก็เป็นอัจฉริยะที่หาได้ไม่มากเช่นเดียวกัน”

“คนพวกนี้ยังเป็นแค่คนที่พวกเราได้เห็นเท่านั้น แล้วยังมีคนที่พวกเราไม่เคยได้พบเจออีกละ?”

เมื่อได้ฟังคำพูดของเจ้าเมืองมู่แล้ว มู่ฮว๋าก็กระจ่างแจ้งในทันที เขาเพิ่งได้รู้ถึง พรสวรรค์ในตัวของหยางเฉิน คนที่ข้างกายสามารถรวมตัวอัจฉริยะได้มากมายเช่นนี้ คุ้มค่ามากพอที่จะให้จวนมู่สานสัมพันธ์ด้วยจริงๆ

“ท่านเจ้าเมืองครับ ผมเข้าใจแล้วครับ!”

มู่ฮว๋าพูดว่า “ท่านรับเฝิงเสียวหว่านเป็นหลานบุญธรรม ก็เพื่ออยากจะสานสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกันหยางเฉินมากขึ้น อีกอย่างหยางเฉินคนนี้ยังรู้นักชอบธรรมอีกด้วย แล้วในตอนนี้เขาก็อยู่ในช่วงไร้หนทาง ถ้าหากว่าพวกเราช่วยเหลือเขา อนาคตเขาต้องนำพาจวนมู่ของเขาก้าวไกลอย่างจริงใจแน่นอน”

เจ้าเมืองมู่พยักหน้า ทันใดนั้น เหมือนว่าเขารู้สึกถึงบางอย่าง แล้วคิ้วก็ขมวดขึ้น “ไม่คิดเลยว่า พวกเขาจะมาเร็วขนาดนี้”

ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของมู่ฮว๋าก็ตกใจ “ท่านหมายถึง คนของจวนเมืองหวยเฉิง มาอีกแล้วหรอครับ?”

เจ้าเมืองมู่หรี่ตาลงพูดว่า “ครั้งนี้ ไม่เพียงแค่คนของจวนเมืองหวยเฉิงเท่านั้น แต่ยังมีคนของตระกูลในเมืองซ่านเฉิงของเรา มาพร้อมกันด้วย”

“พวกเขาคิดจะทำอะไรครับ?”

มู่ฮว๋าโมโหขึ้นมาทันที “เจ้าพวกเกลือเป็นหนอนพวกนี้ คิดจะพลิกหน้าใส่กันกับจวนมู่ของเราแล้วงั้นหรอ?”

เวลานี้ รถหรูมากมาย จอดอยู่หน้าประตูจวนมู่

บุคคลผู้มีอำนาจในเมืองซ่านเฉิงที่ปกติหาเจอได้ยาก ต่างก็มาปรากฏตัวกันหมด

ผู้นำหน้าคนแรกคือผู้นำตระกูลติง ติงอู่

แต่หวยเจิ่น นายน้อยที่มาจากจวนเมืองหวยเฉิง ในเวลานี้กลับทำตัวเหมือนเป็นผู้ยืนดู พาลูกน้องยืนอยู่ด้านข้าง สีหน้าท่าทางเหมือนกำลังดูเรื่องสนุก

“ผู้นำตระกูลติงครับ คุณพาคนมาจวนมู่มากมายขนาดนี้ มีเรื่องอะไรงั้นหรือครับ?”

ในเวลานี้ มู่ฮว๋าเดินออกมา มองไปที่ติงอู่ แล้วขมวดคิ้วถามออกไป

ติงอู่พูดเสียงเย็นชาว่า “มู่ฮว๋า ส่งตัวหยางเฉินออกมาซะ เจ้าคนนี้มันฆ่าคนในตระกูลติงของฉัน วันนี้ มันต้องตาย!”

“ใช่ ส่งตัวหยางเฉินออกมา วันนี้มันต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”

“ส่งตัวหยางเฉินออกมา!”

…….

ชั่วขณะนั้น พวกผู้มีอำนาจของซ่านเฉิงที่มาพร้อมกับติงอู่ ต่างก็ตะโกนเสียงดัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War