ฉินต้าหย่งดูเฉยเมย มองไปที่หยางเฉินอย่างกะทันหัน: “ท่านประธาน ตอนนี้ผมจะไล่คนเหล่านี้ออก คุณสามารถเซ็นชื่อได้มั้ย?”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินต้าหย่ง ทุกคนต่างก็ตกใจ
แม้แต่จ้าวหัว ก็ไม่เคยเจอหยางเฉินมาก่อน เมื่อกี้นี้หยางเฉินปรากฏตัวพร้อมกับฉินต้าหย่ง พวกเขาต่างก็คิดว่าหยางเฉินเป็นพนักงานใหม่ที่ฉินต้าหย่งรับเข้ามา
หยางเฉินมองไปที่ทั้งห้าคนนั้นอย่างเฉยเมย เอ่ยปากพูดว่า: “ในเมื่อไม่พอใจการบริหาร ก็ย่อมต้องไล่ออกเป็นธรรมดา!”
สีหน้าของห้าคนนั้นซีดเผือด และดูเฉื่อยชา
หลังจากที่จ้าวหัวเฉื่อยชาไปพักหนึ่ง ก็ตะคอกว่า: “เด็กน้อย แกกล้าสวมรอยเป็นท่านประธานของบริษัทวัสดุก่อสร้างหลงเหอ รนหาที่ตายชัดๆ ฉันจะรายงานให้ประธานลั่วเดี๋ยวนี้!”
หลังจากที่เขาพูดจบ ก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรออก ในไม่ช้าลั่วปิงก็รับสาย และถามอย่างราบเรียบว่า: “มีเรื่องอะไร?”
“ประธานลั่ว มีชายหนุ่มอายุยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดมาที่บริษัท สวมรอยเป็นท่านประธานของบริษัท ประธานฉินยังปิดอำพรางเขาด้วย คุณว่า เรื่องนี้จะจัดการยังไงครับ?”
น้ำเสียงของจ้าวหัวเคารพนบน้อมเป็นอย่างมาก ตอนที่พูด เขามองไปทางหยางเฉินอย่างเยาะเย้ย ลั่วปิงที่เดิมทีกำลังยุ่งอยู่กับงาน ไม่มีเวลามาสนใจจ้าวหัวด้วยซ้ำ แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูด สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
เขารู้ว่าฉินต้าหย่งก็คือพ่อตาของหยางเฉิน
ก็รู้ด้วยว่าหยางเฉินอายุยี่สิบเจ็ดปี
ยัง‘สวมรอยเป็นประธาน’ แล้วมาการ‘ปิดอำพราง’ของฉินต้าหย่ง
สวมรอยที่ไหนกันเล่า เห็นได้ชัดว่าเป็นหยางเฉิน
เมื่อได้ยินเสียงของจ้าวหัว เห็นได้ชัดว่าล่วงเกินหยางเฉิน แผ่นหลังของลั่วปิงก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็นทันที เนื่องจากจ้าวหัวเป็นคนที่เขาเก็บไว้ในบริษัท
เมื่อเห็นลั่วปิงเงียบเป็นเวลานาน จ้าวหัวพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ประธานลั่ว คุณว่า ต้องการให้ผมขับไล่ฉินต้าหย่งกับเด็กคนนี้ออกไปมั้ยครับ?”
“ไล่แม่แกสิ ชายหนุ่มที่แกพูดถึงก็คือท่านประธาน เขาให้แกทำอะไรแกก็ไปทำซะ ถ้าหากแกกล้าล่วงเกินท่านประธาน กูเอาแกตายแน่!”
ลั่วปิงตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว เสียงของเขาถูกส่งผ่านมายังในสาย อยู่ในห้องโถงสำนักงานที่เงียบสงบนี้ ก็ดังเข้ามาในหูของทุกคนอย่างชัดเจน
รอยยิ้มที่ประจบสอพลอบนใบหน้าของจ้าวหัวก็แข็งทื่อ ผู้บริหารระดับสูงทั้งห้าที่เพิ่งเลือกที่จะยืมข้างจ้าวหัวเมื่อกี้นี้ การแสดงออกมาบนใบหน้าก็เด่นชัดมาก
“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พนักงานทั้งหมดที่ไม่พอใจการกับการบริหารของคุณ ไม่ต้องเก็บไว้สักคน!”
หยางเฉินกวาดสายมองไปที่หลายคนแวบหนึ่ง ต่อจากนั้นก็พูดกับฉินต้าหย่งที่อยู่ข้างกายว่า:“ถ้าหากกำลังคนไม่พอ ไปเอาคนกับลั่วปิง!”
“ครับ ท่านประธาน!”
เนื่องจากอยู่ในบริษัท ท่าทีของฉินต้าหย่งให้ความเคารพนบน้อมต่อหยางเฉินเป็นอย่างมาก
“ท่านประธาน ผมรู้ตัวว่าผิดไปแล้ว คุณได้โปรดให้โอกาสผมอีกสักครั้งเถอะครับ!”
หลังจากที่เฉื่อยชาอยู่ชั่วครู่ ใบหน้าของจ้าวหัวก็เต็มไปด้วยความสยดสยอง รีบขอร้องอ้อนวอนขึ้นมา สีหน้าที่แสดงออกมาดูไม่ดีมาก
ก่อนช่วงหน้านั้นเขาเพิ่งเปลี่ยนคฤหาสน์ใหญ่และรถหรู แต่ก็เป็นการซื้อด้วยเงินกู้ ถ้าหากโดนไล่ออก เงินกู้งวดเดียวก็ผ่อนคืนไม่ไหว
“ท่านประธาน พวกเราก็ผิดไปแล้วเหมือนกันครับ!”
ผู้บริหารระดับสูงอีกห้าคนของบริษัท ทั้งหมดก็ขอร้องอ้อนวอน
หยางเฉินแสยะยิ้ม: “ก่อนหน้านี้ตอนที่ต่อกรกับประธานฉิน ทำไมพวกคุณไม่คิดถึงผลที่จะตามมาบ้าง?”
“ท่านประธาน คุณจะไล่ผมออกไม่ได้ ผมเป็นพนักงานที่คุณวุฒิประสบการณ์เก่าแก่ที่สุด ที่สำคัญเคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของบริษัท โครงการมากมายก็มีผมเป็นคนรับผิดชอบด้วยตัวเอง ถ้าหากผมไม่อยู่แล้ว โครงการเหล่านี้พังพินาศแน่”
จ้างหัวรู้สึกถึงการตัดสินใจเด็ดขาดที่จะไล่ตัวเองออกของหยางเฉิน ก็กังวลขึ้นมาทันที
“บริษัทใหญ่ขนาดนี้ คุณคิดว่าออกจากคุณแล้ว ก็ดำเนินการต่อไปไม่ได้เหรอ? คุณยังคิดว่า โลกขาดคุณแล้ว ก็จะหมุนไม่ได้แล้วเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...