The king of War นิยาย บท 1815

สรุปบท บทที่ 1815 สองฝ่ายกระทบกระทั่งกัน: The king of War

บทที่ 1815 สองฝ่ายกระทบกระทั่งกัน – ตอนที่ต้องอ่านของ The king of War

ตอนนี้ของ The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1815 สองฝ่ายกระทบกระทั่งกัน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

จบเสียงพูดหยางเฉิน คนที่อยู่นั่นต่างออกอาการโกรธแค้น

ผู้เฒ่าในชุดจีนที่นั่งตรงตำแหน่งประธาน สีหน้าดูยิ่งเหี้ยมน่ากลัวขึ้น

“แกว่ายังไงนะ?”

ผู้เฒ่าในชุดจีนคนนั้น หยีตาทั้งคู่ จ้องเขม็งที่หยางเฉิงแล้วถาม

หยางเฉินหัวเราะเสียงเหยียด ๆ จ้องหน้าผู้เฒ่าในชุดจีน พูดทีละคำทีละตัวชัด ๆ ว่า “ข้าพูดว่า พวกท่านเป็นกลุ่มขยะในมาดผู้มีคุณธรรมโดดเด่น ในนั้น รวมทั้งท่านด้วย!”

บรึม!

กระแสฆ่าที่น่ากลัว แผ่กระจายออกมาจากตัวผู้เฒ่าในชุดจีน

“คุณท่านไป๋หลี่ ไอ้เด็กคนนี้จะโอหังเกินไปแล้ว สบประมาทพวกเราก็ว่าไป ยังบังอาจสบประมาทท่านอีก”

“คุณท่านไป๋หลี่ ท่านโปรดลงมือเถอะ จัดการฆ่าเจ้าบัดซบนี่เลยครับท่าน!”

……

ช่วงเวลานั้น บรรดาผู้แข็งแกร่งที่ห้อมล้อมอยู่ข้างตัวผู้เฒ่าในชุดจีนทั้งหลาย ต่างพากันส่งเสียงพูด

แต่ละคนมองไปที่หยางเฉิน ต่างเคียดแค้นจนอยากจับหยางเฉินฉีกออกเป็นชิ้น ๆ

ส่วนหยางเฉินก็เริ่มรู้ถึงตัวตนของผู้เฒ่าในชุดจีนนี้แล้ว ก็แม้แต่ติงเหวินจัวแห่งห้าตระกูลสืบทอดของแดนเหนือ ก็ยังเรียกว่าคุณท่านไป๋หลี่ ตัวตนผู้เฒ่าคนนี้ เริ่มเห็นเป็นเค้าร่างแล้ว ผู้เฒ่านี้แน่นอนแล้วว่ามาจากบ้านตระกูลไป๋หลี่แห่งตระกูลบู๊โบราณ

“ไป๋หลี่เยี่ยน เป็นอะไรกับคุณ?”

หยางเฉินมองไปที่ผู้เฒ่าในชุดจีนในฉับพลัน เอ่ยปากถามไป

ผู้เฒ่าในชุดจีนหยีตาทั้งคู่ เหมือนคิดไม่ถึงว่า หยางเฉินจะรู้จักไป๋หลี่เยี่ยน

“ถึงเจ้าจะรู้จักกับไป๋หลี่เยี่ยน วันนี้ข้าก็ต้องฆ่าเจ้า!”

ผู้เฒ่าในชุดจีนพูดเสียงเยือก “ในบ้านตระกูลไป๋หลี่ ไอ้นั่นมันก็แค่มดปลวกปลายสายสาแหรกตระกูล ต่อให้เขาอยู่ที่นี่ ข้าจะฆ่าเจ้า มันก็ไม่กล้าพูดแม้แต่ครึ่งคำ”

ไม่คิดเลยว่า ไอ้เฒ่าบัดซบนี่ฐานะในตระกูลไป๋หลี่ กลับยังจะสูงกว่าไป๋หลี่เยี่ยน

ไป๋หลี่เยี่ยนบีบบังคับจนพ่อของหม่าชาวตาย ด้วยเหตุนี้หม่าชาวได้อาศัยแก้วดูดเลือดในตัว ภายใต้อารมณ์แค้นทำให้เกิดพลังระเบิดขึ้นมาถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปด ถล่มสู้อย่างเอาตายกันกับไป๋หลี่เยี่ยน

เสียดายที่ว่า สุดท้ายไป๋หลี่เยี่ยนสู้หม่าชาวที่มีพลังจากแก้วดูดเลือดไม่ได้ หลบหนีออกไปจากราชวงศ์เฝิงก่อน

ไม่คิดว่า ที่เยี่ยนตูนี้ จะได้พบเจอะกับคนตระกูลไป๋หลี่

หยางเฉินหัวเราะเสียงเยือก ไอ้เฒ่าบัดซบคนนี้ กลับคิดว่าเขาอาศัยที่ว่ารู้จักไป๋หลี่เยี่ยน ถึงได้กล้าทำโอหังต่อหน้าเขา

ผู้เฒ่าในชุดจีนพูดขึ้นมาในทันใด “ไอ้หนู แกคุกเข่าขอขมากับข้าเดี๋ยวนี้ แล้วก็จัดการมอบตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตูมาให้ข้าแต่โดยดี แล้วข้าก็จะไว้ชีวิตแกไป”

มาถึงวินาทีนี้เอง หยางเฉินถึงรู้ชัดถึงเป้าหมายที่แท้จริงของฝ่ายตรงข้าม ที่แท้ก็หวังที่ตี้ชุน

ตามข่าวที่ร่ำลือ ใครได้ตี้ชุนนั้นคือผู้ครอบครองใต้ฟ้า และใครคิดได้รับสืบทอดตี้ชุน ก็ต้องมาจากคิงเยี่ยนตู หยางเฉินได้ใช้พลังฝีมือจริงของตน พิสูจน์ตัวเองแล้ว จนได้เป็นคิงแห่งเยี่ยนตู ไม่เพียงเท่านั้น เขายังได้พบกับตี้เทียนซึ่งเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งตี้ชุน

เพียงแต่ว่า ตี้เทียนได้แต่ถ่ายทอดตำราเทพสงครามให้หยางเฉิน แล้วก็จากไป ก่อนจากไปได้แต่สั่งหยางเฉินว่า นอกเสียแต่ว่าพลังบูโดของหยางเฉินจะก้าวไปถึงแดนนภา มิฉะนั้นก็ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าไปในตี้ชุนได้

แววตาหยางเฉินยิ่งดูอึมครึม จ้องหน้าผู้เฒ่าในชุดจีนพูดว่า “ยังยิ่งจะแสแสร้งจริง ๆ อยากได้ตี้ชุนก็พูดตรง ๆ ใยต้องทำเป็นพูดวกวน ทำเป็นเชิญข้ามาร่วมงานประชุมสมาพันธ์บูโด แล้วจะให้ข้ายกตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตูให้”

ผู้เฒ่าในชุดจีนเกิดแววฆ่าขึ้นมาในดวงตา จ้องมองหยางเฉินพูดว่า “แกคงยังไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของข้า ข้ามาจากตระกูลไป๋หลี่ในตระกูลบู๊โบราณ ข้าไป๋หลี่ฉางคง ผู้สืบสกุลสายตรงตระกูลไป๋หลี่ แล้วที่เมื่อกี้เจ้าพูดถึงไป๋หลี่เยี่ยนนั่น มันเป็นเพียงแค่สายแยกสาแหรกตระกูลสายหนึ่ง”

ผู้แข็งแกร่งที่มาจากส่วนต่าง ๆ ของจิ่วโจวนั้น มองไปที่ไป๋หลี่ฉางคง ต่างมีสีหน้าเกรงกลัว

พวกเขาเคยรู้แต่ว่าไป๋หลี่ฉางคงมาจากตระกูลบู๊โบราณ แต่ไม่รู้ชัดเจนว่าไป๋หลี่ฉางคงมีสถานะใดในบ้านตระกูลไป๋หลี่ มาตอนนี้จึงได้รู้ ไป๋หลี่ฉางคงเป็นถึงทายาทสายตรง

“ฮึ!”

หยางเฉินหัวเราะเสียงเหยียด มองไป๋หลี่ฉางคงด้วยสายตาเหยียดหมิ่น หันตัวกลับตั้งท่าเดินจากไป

เขาขี้เกียจจะคุยกับพวกเศษขยะเหล่านี้

แน่นอนว่าเขารู้จักชื่ออาโอกิ ยามาโตะ นี้

ในประเทศหยาง ก็มีพวกบูโดตระกูลฤาษีที่ปลีกตัวออกจากสังคม พวกตระกูลเหล่านี้ ต่างก็มีกิจการในประเทศซัน

ก็เหมือนกับสามกลุ่มแชโบลใหญ่ในประเทศซัน เบื้องหลังก็จะมีตระกูลบูโดอยู่

และอาโอกิ ยามาโตะ นี่ ก็คือตระกูลบูโดที่มาจากประเทศซัน ตระกูลอาโอกิ

อาโอกิ ยามาโตะ เป็นเพียงผู้แข็งแกร่งที่ตระกูลอาโอกิจัดวางให้มาคุมอาโอกิแชโบล

“พรุ่งนี้ถึงเป็นวันนัดประลองของสองฝ่าย พวกแกคิดจะมาเปิดศึกกันวันนี้เลยหรือไง?”

ผู้แข็งแกร่งจิ่วโจวนายหนึ่ง จ้องหน้าอาโอกิ ยามาโตะแล้วพูด

อาโอกิ ยามาโตะมองไปที่คนพูด ยิ้มกวน ๆ พูดว่า “จะทำได้ยังไง?ในเมื่อพวกเราจะท้าดวลกับพวกเจ้าในวันพรุ่งนี้ ท้าดวลก็ต้องเป็นวันพรุ่งนี้สิ”

ผู้แข็งแกร่งจิ่วโจวนายนั้นก็ซักถามไปว่า “แล้วพวกแกจะมาทำไมที่นี่?”

อาโอกิ ยามาโตะเชิดมุมปากเป็นแนวโค้งอย่างยียวน เอ่ยปากพูดว่า “แน่นอนก็คือจะมาดู คนอย่างพวกเจ้าทั้งหลายนี้ จะมีคุณสมบัติพอหรือไม่ ที่จะให้ผู้แข็งแกร่งระดับยอดฝีมือของพวกเราชาวประเทศซันลงมือ”

เสียงพูดจบลง กระแสพลังบูโดในตัวของเขาประทุขึ้นในฉับพลัน

ทั่วทั้งบริเวณโถงจัดงาน เหมือนมีความกดดันของพลังบูโดอันน่าสะพรึงกลัวปกคลุมทั่ว พวกผู้แข็งแกร่งที่พลังฝีมือด้อยอยู่ ต่างมีความอึดอัดจนแทบจะล้มกลิ้งไปกับพื้น

ไป๋หลี่ฉางคงถึงแม้จะกริ่งเกรงในตัวอาโอกิ ยามาโตะอยู่ แต่เวลานี้ผู้แข็งแกร่งแห่งจิ่วโจวอยู่กันที่นี่เกือบทั้งหมด เขาย่อมหดถอยไม่ได้ ทันใดนั้นก็ก้าวขึ้นหน้าไป กระแสพลังบูโดในตัวก็ประทุขึ้น

กระแสพลังบูโดที่แข็งแกร่งยิ่งใหญ่สองกระแส ชนปะทะเข้าหากัน บรรดาคนที่อยู่ต่างสะใจมากไปตามกัน

ไป๋หลี่ฉางคงพูดเสียงเหยียดว่า “อาโอกิ ยามาโตะ ข้าขอเตือนเจ้าให้รีบพาคนออกไปเดี๋ยวนี้ ที่นี่เป็นสถานที่จัดประชุมของสมาพันธ์บูโด ไม่ต้อนรับพวกท่าน!”

ถึงแม้เป็นการออกปากไล่อาโอกิ ยามาโตะ แต่น้ำเสียงนั้นไม่ได้ดุดันเหมือนที่ใส่กับหยางเฉินก่อนหน้านี้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War