The king of War นิยาย บท 1913

หม่าชาวในตอนนี้ เลือดอาบท่วมตัว ผิวหนังที่อยู่ด้านนอก เต็มไปด้วยคราบเลือดที่น่ากลัว สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวไปจากความเจ็บปวด ดูสยดสยองมาก

“อ้า……” 

จู่ๆ เขาก็เงยหน้าคำราม ราวกับปีศาจที่เพิ่งขึ้นจากนรก

เนี่ยชิวจ้องมองสภาพหม่าชาวของหม่าชาวที่น่าสยดสยอง ในใจก็เกิดความหวาดกลัวที่ได้เคยมีมาก่อน แม้แต่ถูกกามิกาโสะกับสำนักบู๊ตามฆ่าเขายังไม่รู้สึกกลัวเลย

แต่ว่าตอนนี้ เขากลับรู้สึกถึงความหวาดกลัวอันมหาศาลจากตัวของหม่าชาว

“ฆ่า!” 

เนี่ยชิวไม่ลังเลอีกต่อไป คำรามออกมา แล้วพุ่งเข้าใส่หม่าชาว

ทั่วทั้งถ้ำ ถูกปกคลุมไปด้วยแรงกดดันของวิถีบู๊อันน่ากลัว

เพียงพริบตาเดียว เนี่ยชิวพุ่งมาอยู่ตรงหน้าหม่าชาว ยกมือแล้วซัดกำปั้นออกไป

“ตุบ!” 

ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน หม่าชาวง้างหมัด ซัดใส่เนี่ยชิว เกิดเสียงดังขึ้น กำปั้นของทั้งคู่ปะทะเข้าด้วยกัน

ภายใต้พละกำลังที่รุนแรงของทั้งสองปะทะเข้าด้วยกัน หม่าชาวกระเด็นออกไป กระแทกไปที่ผนังถ้ำอย่างแรง

ในตอนนี้ รังสีวิถีบู๊ในตัวเขาได้หยุดเพิ่มขึ้นแล้ว หยุดอยู่ที่กึ่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอด แต่ยังไงเขาก็ไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอด แต่เนี่ยชิวเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอดของจริง แถมยังเรียกได้ว่าเป็นกึ่งแดนนภาอีกด้วย

หลังจากที่ถูกเขาโจมตีอย่างแรง หม่าชาวกลับยังไม่ตาย และยังสามารถลุกขึ้นมาต่อสู้ได้อีก

ความหวาดกลัวในใจของเนี่ยชิวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ พรสวรรค์วิถีบู๊ที่เก่งกาจขนาดนี้ ไม่ได้มาจากตระกูลบู๊โบราณจริงๆ เหรอ?

ยิ่งคิด ความหวาดกลัวที่อยู่ในใจของเนี่ยชิวก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้น

เขารู้จักกองกำลังของตระกูลบู๊โบราณดี ทำให้ตอนที่หม่าชาวบอกว่าตัวเองมาจากตระกูลบู๊โบราณ เขาไม่ได้เชื่อ และคิดว่าหม่าชาวไม่ได้มาจากกองกำลังโบราณ

แต่ว่าตอนนี้ เขาเริ่มสงสัยขึ้นมาแล้วว่า ถึงเขาจะรู้จักกองกำลังโบราณดี แต่ในโลกบู๊โบราณ ไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เห็น ยังมีกำลังที่ลึกลับอีกมากมายที่ไม่รู้จัก

หรือหม่าชาวจะมาจากตระกูลบู๊โบราณจริงๆ?

ไม่อย่างนั้น หม่าชาวที่อยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าชั้นสุดยอด จะปลดปล่อยพลังที่น่ากลัวขนาดนี้ออกมาได้ยังไง?

ในตอนที่เขากำลังอึ้ง หม่าชาวที่เลือดท่วมตัวก็ได้พุ่งมาหาเขาแล้ว

ถึงเขาจะกังวลกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังหม่าชาว แต่เรื่องถึงขั้นนี้แล้ว อะไรที่ทำแล้วก็ต้องทำให้สุด ในเมื่อลงมือกับหม่าชาวแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลต้องออมมืออีก

แววตาของเขาจริงจังอย่างถึงที่สุด รังสีวิถีบบู๊บนร่างกายปะทุออกมาทันที จนถึงจุดสูงสุดของแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอด

ถ้าเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอดทั่วไป คงถูกฆ่าเขาตายอย่างง่ายดาย

ในบรรดาผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอดก็มีความห่างชั้นเหมือนกัน โดยเฉพาะคนอย่างเนี่ยชิว เป็นผู้แข็งแกร่งที่ฝีมือเข้าใกล้แดนนภาขั้นหนึ่งอย่างถึงที่สุด ห่างชั้นกับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอดทั่วไปมาก

“หึ! ไม่เจียมตัว!” 

พอเห็นหม่าชาวพุ่งมาหาตัวเอง เนี่ยชิวทำเสียงฮึดฮัด รังสีบนร่างกายระเบิดออก เกิดเสียง “ปั้ง” ดังขึ้น เขาได้ออกจากจุดที่ยืนทันที และพุ่งเข้าใส่หม่าชาว

วินาทีต่อมา เงาดำร่างหนึ่งมาถึงทันที ขวางอยู่ตรงหน้าหม่าชาว

สีหน้าของเนี่ยชิวเคร่งขรึมอย่างถึงที่สุด จับจ้องไปที่อีกฝ่าย เมื่อกี้เขาได้รู้แล้ว ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่ระดับเดียวกับเขาแต่เขาดูแล้ว ฝีมือของอีกฝ่าย น่าจะอยู่เหนือกว่า

ลำพังแรงกดดันที่อีกฝ่ายเลือดปลดปล่อยออกมาตอนนี้ มันก็มากพอที่จะทำให้เขารู้สึกกดดันได้แล้ว

หรือก็คือ อีกฝ่ายอยู่ห่างจากแดนนภา อยู่ใกล้กว่าเขา

ในภูเขาวมาร นอกจากผู้นำของห้ากองกำลังใหญ่แล้ว ยังจะมีใครที่แข็งแกร่งได้ขนาดนี้อีก?

“แกเป็นผู้นำของสำนักมาร! ลี่เฉิน!” 

สำนักมารหนึ่งในห้ากองใหญ่แห่งภูเขาวมาร และเป็นกองกำลังที่ลึกลับที่สุดในห้ากองกำลังใหญ่

ในภูเขาวมาร มีคำกล่าวขานว่า หลายสิบปีก่อน ตอนที่ลี่เฉินยังไม่ได้ขึ้นเป็นผู้นำของสำนักมารก็เคยถูกผู้แข็งแกร่งเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอดสี่คนปิดล้อม ผลคือการต่อสู้ดำเนินไปเพียงห้านาทีก็จบลงแล้ว

ไม่มีใครเห็นตอนที่ต่อสู้กัน รู้แค่ว่าลี่เฉินจากไปพร้อมกับเลือดที่ท่วมตัว ส่วนผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอดสี่คนที่ปิดล้อมเขา กลับตายไปแล้ว

ผู้แข็งแกร่งที่สามารถสังหารผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอดนั้นมีอยู่มาก แต่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอดที่สามารถสังหารผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอดสี่คนได้ในเวลาเพียงห้านาที และทำด้วยตัวคนเดียวนั้นน้อยซะยิ่งกว่าน้อย

ประเด็นคือ นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ตอนนี้ ลี่เฉินจะแข็งแกร่งขนาดไหน ไม่มีใครรู้

หลังจากที่ลี่เฉินได้ยินคำพูดของเนี่ยชิว ดวงตาที่เหมือนดั่งปีศาจคู่นั้น แสดงแววตาอันประหลาดออกมา ตาขาวกลายเป็นสีดำทันที

เห็นแล้วเหมือนลี่เฉินไม่มีตาขาว มีเพียงตาดำใหญ่ๆ คู่หนึ่ง

นี่เป็นดวงตาที่เปลี่ยนแปลงดวงตาของผู้แข็งแกร่งระดับสูงแห่งสำนักมารมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเคล็ดวิชาที่ผู้แข็งแกร่งแห่งสำนักมารฝึกฝน

นั่นยิ่งทำให้มั่นใจว่า ผู้แข็งแกร่งชุดดำคนนี้ ก็คือผู้นำแห่งสำนักมารลี่เฉิน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War