ในเวลาเดียวกัน สำนักบู๊
หลังเกิดเรื่องกับหม่าชาว ก็ผ่านไปสองชั่วโมงเต็มแล้ว ช่วงเวลาที่ผ่านมา คนของสำนักบู๊กับกามิ กาโสะต่างตามหาหม่าชาวสุดกำลัง แต่กลับไม่เจอวี่แววอะไรเลย
ไม่ใช่แค่สำนักบู๊กับกามิ กาโสะ ยังมีผู้แข็งแกร่งอีกมากมายของภูเขาวมาร ต่างออกตามหาหม่าชาวด้วย เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนที่มากมายของทั้งสองกองกำลัง
สำนักบู๊ ในคฤหาสน์ที่หรูหราหลังหนึ่ง หยางเฉินยืนอยู่ข้างหน้าต่าง สองตาจ้องมองไปด้านนอก สีหน้าเคร่งขรึม
จนถึงตอนนี้ เขายังไม่รู้ข้อมูลอะไรของหม่าชาวเลย รู้แค่ว่าหม่าชาวอยู่กับผู้แข็งแกร่งที่ชื่อเนี่ยชิว เป็นหรือตาย ยังไม่รู้
ในตอนที่เขากำลังร้อนใจอยู่นั้นเอง ตู้จ้งก็เข้ามาอย่างเร่งรีบ
“มีเบาะแสแล้วเหรอครับ?”
หยางเฉินรีบเดินมาข้างหน้า มองหน้าตู้จ้งแล้วถามออกมา
พอเห็นท่าทางที่ร้อนรนของหยางเฉิน ตู้จ้งก็รู้สึกผิดมาก แล้วส่ายหน้า “ยังไม่ได้เบาะแสของคุณหม่าเลยครับ แต่คุณไม่ต้องห่วง สำนักบู๊ได้ส่งผู้แข็งแกร่งทั้งหมดออกไปตามหาคุณหม่าแล้ว ยังมีทางกามิ กาโสะก็กำลังตามหาอย่างเต็มที่อีกไม่นานต้องตามหาคุณหม่าเจอแน่ครับ”
ยังไม่มีเบาะแสของหม่าชาว มันทำให้หยางเฉินรู้สึกโมโหอย่างบอกไม่ถูก อยากที่จะระเบิดออกมา
เขาอดกลั้นความโกรธที่แทบระเบิดออกมาเอาไว้ แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ตำแหน่งสุดท้ายที่หม่าชาวหายตัวไปอยู่ที่ไหน? น่าจะหาข้อมูลได้ใช่มั้ย?”
ตู้จ้งรีบพยักหน้า “ทางกามิ กาโสะได้บอกมาแล้วว่าก่อนที่คุณหม่าจะหายตัวไป อยู่ที่ผาลุกไหม้ทางตะวันออกของภูเขาวมารครับ เพียงแต่ คนของสำนักบู๊กับกามิ กาโสะได้ค้นหาไปทั่วผาลุกไหม้แล้ว แต่ก็ไม่ได้เบาะแสอะไรของคุณหม่าเลย”
หยางเฉินหายใจเข้าลึกๆ พยายามควบคุมความโกรธของตัวเองอย่างเต็มที่ ผ่านไปพักหนึ่งถึงกดความโกรธในใจลงไปได้
เขาหันมองตู้จ้งแล้วพูดไปว่า “ช่วยเตรียมรถออฟโรดแรงๆ ให้ผมคันหนึ่ง ผมจะไปผาลุกไหม้”
ตู้จ้งตกใจทันที แล้วรีบเกลี้ยกล่อมไปว่า “คุณหยาง สำนักบู๊กับกามิ กาโสะกำลังค้นหาคุณหม่าอย่างเต็มที่แล้ว ภูเขาวมารใหญ่มาก ถึงคุณจะไปที่ผาลุกไหม้ ก็ไม่มีประโยชน์ สู้รออยู่ที่นี่ดีกว่า ถ้าได้ข้อมูลอะไร พวกเราจะมาบอกคุณทันทีเลย”
หยางเฉินตะคอกไปว่า “ผมไม่รอแล้ว เตรียมรถ!”
พอเห็นหยางเฉินโมโห ตู้จ้งก็ไม่กล้าเกลี้ยกล่อมอีก จึงรีบออกไป
ไม่ถึงห้านาที ยูนิม็อกสีคำคันใหม่คันหนึ่งได้มาจอดอยู่ตรงหน้าคฤหาสน์ที่หยางเฉินอยู่ ข้างรถยังมีคนขับรถที่เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอดคนหนึ่ง ยืนอย่างนอบน้อมอยู่ตรงนั้น
“คุณหยาง นี่คือหนึ่งในสมาคมผู้อาวุโสของสำนักบู๊ ชื่อเฉินอู่ มีเขาไปกับคุณ น่าจะพอช่วยจัดการปัญหาที่ไม่จำเป็นได้บ้าง”
ผู้นำแห่งสำนักบู๊ ตู้ป๋อมาส่งถึงรถด้วยตนเอง มองหยางเฉินแล้วพูดออกมา
หยางเฉินพยักหน้า กล่าวขอบคุณแล้วขึ้นไปบนที่นั่งข้างคนขับ
เฉินอู่ขับรถ ขับรถพาหยางเฉินมุ่งหน้าไปยังผาลุกไหม้ที่อยู่ทางตะวันออกของภูเขาวมาร
พอเห็นทิศทางที่รถวิ่งไป แววตาของตู้ป๋อมีแต่ความประทับใจ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพจริงๆ การที่เขาเข้าร่วมกับสำนักบู๊ สำหรับสำนักบู๊ของเราแล้ว ถือเป็นผลประกอบการที่ดีที่สุดในรอบรอยปีแน่นอน”
พอได้ฟังที่ ตู้ป๋อพูด ตู้จ้งก็รู้สึกตกใจ นึกไม่ถึงว่าตู้ป๋อประเมินหยางเฉินไว้สูงขนาดนี้
ต้องรู้ก่อนว่า สำนักบู๊ก่อตั้งมาไม่ใช่แค่ร้อยปี ร้อยปีมานี้ ผู้แข็งแกร่งจากสำนักบู๊ที่บรรลุถึงแดนนภาก็มีไม่น้อย
ตู้ป๋อไม่เคยพูดมาก่อนว่าผู้แข็งแกร่งที่บรรลุถึงแดนนภาเหล่านั้นโดดเด่นแค่ไหน ตอนนี้กลับเอาคำยกย่องที่สูงส่งแบบนั้น ยกให้หยางเฉิน
แต่ว่าไม่นาน ตู้จ้งก็เข้าใจ ก่อนหน้านี้ผู้แข็งแกร่งของสำนักบู๊ที่บรรลุถึงแดนนภา มีคนไหนบ้างที่ไม่ใช่ตาแก่อายุเจ็ดแปดสิบที่ฝึกมานานบ้าง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...