เฉียนเปียวรู้จักชื่อของหงเทียนหยา ขับรถเข้ามาชนคฤหาสน์ของหงเทียนหยาโดยตรง ตอนนี้มือถือมีดเอาไว้เดินไปยังหงเทียนหยา เห็นได้ชัดว่าอยากฆ่าเขา
โดยเฉพาะหงเทียนหยาเป็นยอดฝีมือของตระกูลเมิ่งที่เชิญมา ถ้าโดนฆ่าในตระกูลจวง ตระกูลเมิ่งต้องเอาเรื่องนี้มาลงที่ตระกูลจวงเป็นแน่
“แจ้งมือปืนว่าเตรียมตัวให้พร้อม!”
จวงเจี้ยนเซ่อพูดสั่งการกับพ่อบ้านอาวุโสด้านข้าง
ญาติสายตรงของตระกูลจวงโดยรอบต่างทำหน้าตื่นตกใจ คาดไม่ถึงว่าจวงเจี้ยนเซ่อจะให้มือปืนออกหน้า ช่างทำให้คนรู้สึกมหัศจรรย์ใจเหลือเกิน
ถึงแม้ในที่เกิดเหตุล้วนเป็นญาติสายตรงของตระกูลจวง แต่นอกจากจวงเจี้ยนเซ่อและคนมีอำนาจมากที่ควบคุมตระกูลไม่กี่คนแล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่รู้กันว่าตระกูลจวงยังมีมือปืน
พ่อบ้านอาวุโสอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง พูดแบบหน้าตาเป็นกังวล “ผู้นำครับ ถ้าเกิดให้มือปืนลงมือ เกรงว่าจะนำพาความวุ่นวายใหญ่หลวงมาให้ตระกูลนะครับ ขอให้ท่านพิจารณาอีกทีด้วยครับ!”
ที่ประเทศจิ่วโจว ปืนเป็นของที่ควบคุมเข้มมาก ไม่มีระเบียบการที่เกี่ยวข้อง ถ้าเกิดถูกจับได้ว่าแอบซ่อนปืนไว้ นั่นคือโทษสถานหนัก
“ไปทำตามที่ฉันสั่ง!”
จวงเจี้ยนเซ่อพูดจาเย็นชาไร้ที่เปรียบ
“ครับ ผู้นำ!”
พ่อบ้านอาวุโสไม่กล้าพูดอะไรมากอีก รีบหมุนตัวออกไป
ถ้าไม่ใช่ว่าไม่มีทางเลือก จวงเจี้ยนเซ่อคงไม่ใช้ปืน
หลายปีมาขนาดนี้ ตระกูลจวงเพียงแค่สร้างทีมอาวุธปืนขึ้น กลับไม่เคยส่งลงไปใช้งานเลย นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะได้ใช้งานแล้ว
แต่เขาไม่ทำแบบนี้ไม่ได้ ถ้าเกิดหงเทียนหยาเป็นอะไรไป ตระกูลเมิ่งต้องเอาเรื่องนี้มาคิดบัญชีกับตระกูลจวงแน่นอน อย่างนั้นตระกูลจวงมีทางตายสถานเดียว
ในคฤหาสน์ หงเทียนหยายืนอยู่ที่เดิม ดวงตาทั้งสองจ้องเฉียนเปียวไม่กะพริบ ในสายตาเต็มไปด้วยความระวัง
เขารู้สึกถึงความไม่ธรรมดาของเฉียนเปียวได้แล้ว
เวลานี้ เฉียนเปียวหยุดตรงตำแหน่งห่างจากหงเทียนหยาประมาณสามเมตร
“แกคือ เฉียนเปียว?”
ในที่สุดหงเทียนหยาก็เห็นใบหน้าของเฉียนเปียวชัดเจน ชั่วขณะนั้นหน้าตาตื่นตกใจ
สมัยก่อนเฉียนเปียวคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลหยางแห่งเมืองเฉิงโจว และสามารถพูดได้ว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองเฉิงโจว
ตระกูลหยางเพราะมีเฉียนเปียวอยู่ เพียงการกระทำครั้งเดียวก็ก้าวขึ้นมาเป็นตระกูลอิทธิพลใหญ่ชั้นนำของเมืองเฉิงโจว ต่อให้เป็นตระกูลเฉินและตระกูลหยวนที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองเฉิงโจว ต่างไม่กล้าบุ่มบ่าม เพราะความน่าสยองของเฉียนเปียว
หงเทียนหยาเป็นยอดฝีมือของตระกูลเมิ่ง ย่อมรู้จักเฉียนเปียวเป็นธรรมดา
เพียงแต่เฉียนเปียวไม่เคยเจอเขา สายตาที่เย็นชาไม่เปลี่ยนไปจากเดิม
“เฉียนเปียว ฉันกับแกไม่มีความแค้นต่อกัน ทำไมแกต้องมาหาเรื่องวุ่นวายกับฉันด้วย?”
ทันใดนั้นหงเทียนหยาเอ่ยปากถาม ในน้ำเสียงมีความโกรธเคืองระดับหนึ่ง
ถึงแม้เขาจะไม่เคยปะทะมือกับเฉียนเปียว แต่ชื่อเสียงของเฉียนเปียว ทั้งเมืองเจียงผิง ล้วนโด่งดังไปทั่ว
ถ้าไม่ต้องปะทะกันได้ หงเทียนหยาย่อมยินดีเป็นธรรมดา
“แปดคนนั้นที่แกส่งไป โดนฉันฆ่าตายหมดแล้ว ตอนนี้แกคิดว่าระหว่างพวกเราไม่มีความแค้นต่อกันงั้นเหรอ?”
เฉียนเปียวพูดขึ้นกะทันหัน
“อะไรนะ? คนของฉัน ตายแล้ว?”
หงเทียนหยาโกรธจัดในชั่วขณะหนึ่ง เขายังรอข่าวดีของแปดคนนั้นมาโดยตลอด ไม่ทันรอให้คนกลับมา กลับเป็นเฉียนเปียวมาเยือนแทน
ไม่นานเขาตอบสนองเข้ามาแล้ว “แกทำงานให้หยางเฉิน?”
“ไม่ผิด แกกล้าลงมือกับเขา งั้นก็เป็นศัตรูของฉัน”
เฉียนเปียวพูดด้วยหน้าตาเรียบเฉย “ฉันให้เวลาแกห้านาที พูดสิ่งที่อยากบอกออกมาก่อนตาย!”
“ไอ้เด็กโอหัง!”
ชั่วพริบตาเดียวหงเทียนหยาระเบิดความโกรธ พุ่งไปยังเฉียนเปียวโดยตรง
ถึงแม้เขาจะไม่อยากปะทะกับเฉียนเปียว แต่ไม่ได้หมายความว่ากลัวเฉียนเปียว
สายตาเฉียนเปียวเย็นชาถึงขั้นสุดแล้ว หลายปีนี้ที่ตระกูลหยาง เขาฆ่ายอดฝีมือมาไม่น้อย ขอเพียงคนที่มาประลองฝีมือกับเขา ล้วนโดนเขาสังหารทิ้งหมด ไม่มีข้อยกเว้นสักคน
ต่อให้หงเทียนหยาเป็นยอดฝีมือของตระกูลเมิ่ง ก็จะไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...