The king of War นิยาย บท 197

ภายในใจจวงเจี้ยนเซ่อสั่นไหวขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้เขามีเพียงสองทางเลือก

อย่างแรก เขาออกคำสั่งไปคำเดียว มือปืนสิบกว่าคนลั่นไกปืนพร้อมกัน ถ้าสามารถฆ่าเฉียนเปียวตายได้ ช่วงวิกฤติของตระกูลจวงก็จะมลายหายไป หากฆ่าไม่ตาย งั้นคนที่ตายก็คือเขา

อย่างที่สองคือ เขาปล่อยเฉียนเปียวหนีรอดไป แต่ถ้าเกิดตระกูลเมิ่งตรวจสอบเจอว่าเป็นเขาที่ปล่อยเฉียนเปียวหนีไป ตระกูลเมิ่งจะต้องพังตระกูลจวงย่อยยับเป็นแน่

ไม่ว่าเลือกหนทางไหน สำหรับเขาแล้ว เหมือนว่าจะเป็นทางตันทั้งหมด

“คุณพ่อครับ อย่าปล่อยมันไปเด็ดขาด!”

จวงเซิ่งมองอาการลังเลของจวงเจี้ยนเซ่อออก รีบบอกว่า “ท่านหงเป็นคนที่พวกเราเชิญมา ตอนนี้ทั้งที่พวกเรามีโอกาสฆ่ามันแล้ว ถ้ายังปล่อยมันหนีไปได้อีก ตระกูลเมิ่งคงไม่ปล่อยพวกเราไว้แน่ครับ”

“มันแค่สร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตาเท่านั้นเอง โดนมือปืนสิบกว่าคนเล็งหัวไว้ มันจะมีชีวิตไปได้อย่างไรกัน?”

จวงเซิ่งทำหน้าไม่เชื่อ

เวลานี้คนที่ร้อนใจมากที่สุดคือเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านหงเป็นคนที่เขาเชิญมา

ขณะที่จวงเซิ่งพูดจบ ทันใดนั้นเฉียนเปียวออกแรงไปที่เท้าพลันกระโดดขึ้น ร่างกายวาร์ปหาย

“ยิง!”

จวงเจี้ยนเซ่อไม่ได้ลังเลสักนิดเดียว รีบตะโกนเสียงดังออกไป

“ปังๆๆ!”

ชั่วพริบตาเดียวเสียงปืนดังก้องในค่ำคืนอันมืดมิด

เฉียนเปียวผู้ซึ่งมีการเตรียมพร้อมตั้งแต่แรก ก่อนหน้าที่จะลั่นไกปืน ก็พุ่งเข้าไปในคฤหาสน์แล้ว

เขาไม่กล้าเสี่ยง ทำได้เพียงคว้าโอกาสอันดีงามที่สุดหนีไป

“ตามไปเดี๋ยวนี้!”

เห็นเฉียนเปียวพุ่งเข้าไปในคฤหาสน์ จวงเจี้ยนเซ่อจึงตะโกนอย่างโมโห

ในเมื่อลั่นไกปืนออกไปแล้ว นั่นลิขิตไว้ว่าต้องตามเฉียนเปียวแบบไม่ตายไม่เลิก

มือปืนสิบกว่าคนรีบพุ่งเข้าไปในคฤหาสน์

แต่ทว่าเฉียนเปียวกระโดดลงไปจากหน้าต่างคฤหาสน์เรียบร้อยแล้ว ชั่วพริบตาเดียวก็หายลับไปในความมืดยามค่ำคืน

“สารเลว! ไปหาให้ฉันเดี๋ยวนี้! มันจำเป็นต้องตาย!”

จวงเจี้ยนเซ่อระเบิดอารมณ์โมโหในขณะนั้น

ความสามารถของเฉียนเปียวนั้น เขาเห็นมาด้วยตาตนเอง นั่นถือว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่แม้แต่หงเทียนหยายังฆ่าทิ้งได้อย่างง่ายดาย

ในเมื่อเขาสามารถบุกเข้ามาในตระกูลจวงได้ รวมทั้งสังหารหงเทียนหยาทิ้ง นั่นอธิบายได้ว่าเขาสามารถสังหารตนเองได้อย่างง่ายดายเช่นกัน

นึกถึงเรื่องพวกนี้ ในใจจวงเจี้ยนเซ่อเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ชื่อเรียกของคิงค่ำมืด สืบเนื่องมาจากความสามารถในการลอบสังหารที่ยิ่งใหญ่ของเฉียนเปียวขึ้นชื่อมาก ไม่ต้องพูดถึงตระกูลยิ่งใหญ่ของเมืองเอก ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งของแปดตระกูลแห่งเย็นตู หากโดนเขาจ้องเข้า คงอกสั่นขวัญแขวนเหมือนกัน

ยอดเมฆา

เพิ่งกลับมาถึงบ้าน หยางเฉินก็ได้รับข้อความของเฉียนเปียว มีเพียงสองคำ: “จัดการเรียบร้อย!”

หยางเฉินฉีกมุมปากขึ้นเบาๆ ไม่เสียชื่อว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่ออกมาจากชายแดนเหนือ แข็งแกร่งมากจริงๆ

ถ้าเพิ่มการฝึกฝนอีกเล็กน้อย เกรงว่าความสามารถของเฉียนเปียวคงเพิ่มขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

“เสี้ยวเสี้ยว คืนนี้นอนกับน้านะ น้าจะเล่าเรื่องให้หนูฟัง เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนท้ายของBig Fish & Begonia ดีหรือเปล่า?”

ฉินซีกำลังเตรียมกลับไปที่ห้อง ทันใดนั้นฉินยีดึงเสี้ยวเสี้ยวเอาไว้ทันที

“เอาค่ะ! เอาค่ะ!”

เดิมทีเพิ่งดู Big Fish & Begonia จบมา พอได้ยินฉินยีบอกว่าจะเล่าเรื่องราวตอนท้ายให้ฟังอีก เสี้ยวเสี้ยวจึงดีใจอย่างมาก

ฉินซียังไม่ทันได้ห้ามไว้ เสี้ยวเสี้ยวก็ดึงฉินยีออกไปแล้ว

ตอนที่เดินผ่านหยางเฉิน ฉินยีหัวเราะแบบร้ายกาจ จากนั้นพูดเสียงเบา “พี่เขย ฉันได้แต่ช่วยพี่ถึงตรงนี้นะ! พี่ก็สู้ๆ! พยายามมีหลานชายมาให้ฉันสักคนด้วย”

หลังจากพูดจบ ฉินยีก็พาเสี้ยวเสี้ยวกลับไปที่ห้องของหล่อน

ทันใดนั้นหยางเฉินถึงรู้ว่าคุณน้าคนนี้ ดีไปหมดทุกที่เลย

เขามองฉินซีอย่างระมัดระวังทีหนึ่ง พบว่าฉินซีหน้าตาเขินอายเต็มที่ หน้าแดงไปจนถึงใบหูเลย

ที่สำคัญที่สุดคือคาดไม่ถึงว่าฉินซีจะไม่มีความหมายอยากไปรับเสี้ยวเสี้ยวกลับมา เพียงถลึงตาใส่หยางเฉินไปแวบหนึ่ง จากนั้นหมุนตัวกลับห้องไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War