“ผ่านมาหลายปีขนาดนี้แล้ว พวกเธอคืนมาสักแดงเดียวหรือยัง? เรื่องราวที่โจวยู่ชุ่ยแอบทำลับหลังฉันพวกนี้ พวกเธอคิดว่าฉันไม่รู้จริงเหรอ? ตอนนี้เหยียดหยามฉันก็ว่าไป นึกไม่ถึงยังมาเหยียดหยามลูกเขยฉันอีก”
“ตอนนี้ พวกเธอบอกฉันมาที พวกเธอมีสิทธิ์อะไรมาเหยียดหยามพวกฉันงั้นเหรอ?”
ฉินต้าหย่งในเวลานี้ ไฟโกรธเดือดเต็มอก จึงนำเรื่องพวกนั้นที่โจวยู่ชุ่ยแอบทำลับหลังเขา พูดออกมาทั้งหมดแบบไม่เหลือเยื่อใย
โจวยู่ชุ่ยหน้าตาตกใจ หล่อนคิดมาโดยตลอดว่าฉินต้าหย่งไม่รู้เรื่องพวกนี้ เดิมทีไม่ว่าอะไรเขาล้วนรู้ทั้งนั้น
ฉินซีและฉินยีไม่ชัดเจนในเรื่องพวกนี้เท่าไร เวลานี้ฉินต้าหย่งพูดออกมาแล้ว พวกเธอถึงได้รู้
“ฉินต้าหย่ง นายพูดมั่วอะไรกัน? เดิมทีฉันไม่ได้เอาเงินจากยู่ชุ่ยมาสักแดงเดียว ยังมีคฤหาสน์สองหลังนี้ด้วย ฉันจ่ายเงินสร้างเองทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเงินของบ้านนายเลยสักนิด!”
โจวอวี้เจี๋ยอับอายจนโมโห โต้ตอบกลับเสียงดัง
เขาเป็นพี่ชายของโจวยู่ชุ่ย คือลูกชายของเขาที่พรุ่งนี้จะแต่งงาน
“ฉินต้าหย่ง คุณไม่มีหลักฐานอะไรเลย อย่ามาพูดเหลวไหลนะ ฉันเคยไปหาเสี่ยวซีขอยืมเงินสามแสนจริง แต่ไม่เคยเอาเงินพี่สาวฉันมาสักแดงเดียว!”
โจวอวี้หรงตะโกนเสียงดังขึ้นมาเช่นกัน พูดโกหกขึ้นมาแบบหน้าตาเฉยไม่ลนลาน
หล่อนเป็นน้องสาวของโจวยู่ชุ่ย ตอนหยางเฉินกลับมาจากชายแดนเหนือ เพิ่งกลับมาถึงบ้านเล็กตระกูลฉิน คือโจวอวี้หรง ที่นำทีมเหยียดหยามหยางเฉิน
ฉินต้าหย่งเพียงส่งเสียงหัวเราะเยาะ มองทางโจวยู่ชุ่ย “มา ตอนนี้เธอบอกต่อหน้าของทุกคนไปสิ บอกพวกเขาว่าคำพูดที่ฉันเพิ่งพูดไป มีประโยคไหนที่ไม่จริงบ้าง?”
เวลานี้โจวยู่ชุ่ยหวาดผวาแล้ว เรื่องราวที่หล่อนทำเหล่านั้น ฉินต้าหย่งล้วนรู้หมด
“แม่คะ ที่พ่อพูดเป็นความจริงทั้งหมด ถูกหรือเปล่า?”
ฉินยีดวงตาแดงก่ำ จ้องโจวยู่ชุ่ยตาไม่กะพริบแล้วสอบถามไป
ฉินซีก็ตาแดงมองทางหล่อนเหมือนกัน ผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอเรียกว่าแม่มายี่สิบกว่าปี
สองพี่น้องไม่มีทางเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้เป็นโจวยู่ชุ่ยทำทั้งหมด
ถ้าเป็นตอนที่ในครอบครัวมีสภาพเงื่อนไขดี ขอแค่หล่อนพูดมาคำเดียวว่าอยากให้คุณลุงและคุณน้ายืมเงิน พวกเธอจะไม่ลังเลใดๆ เลย
แต่ตอนที่โจวยู่ชุ่ยทำเรื่องพวกนั้นไป เป็นช่วงที่ในครอบครัวอับจนที่สุด
“ยู่ชุ่ย เธอรีบพูดสิ! ฉันกับอวี้หรงไม่เคยยืมเงินเธอมาก่อนเลย”
โจวอวี้เจี๋ยรีบเร่งให้บอกไป
หน้าโจวยู่ชุ่ยเต็มไปด้วยอาการดิ้นรน หล่อนไม่อยากพูดความจริงออกมา แต่หล่อนรู้ว่าถ้าหล่อนปฏิเสธที่จะพูดความจริง ฉินต้าหย่งต้องหย่าขาดกับหล่อนแน่นอน
หล่อนอยู่ที่นั่นของฉินต้าหย่ง ยังตักตวงไม่พอเลย ยังมียอดเมฆาคฤหาสน์ใหญ่ขนาดนั้นอีกหลังหนึ่ง ถ้าหย่าขาดกับฉินต้าหย่งไปแบบนี้ หล่อนคงไม่มีอะไรสักอย่างจริงๆ
ฉินต้าหย่งมองโจวยู่ชุ่ยด้วยท่าทางนิ่งสงบ เขารู้ว่าโจวยู่ชุ่ยกำลังคิดอะไร ดังนั้นในใจเขาจึงมีความมั่นใจว่าโจวยู่ชุ่ยจะพูดความจริงออกมา
“โจวยู่ชุ่ย ดีที่สุดแกคิดให้ดีก่อนค่อยตอบ คนตระกูลโจวของฉัน ห้ามมาใส่ร้ายกันและกัน!”
ในเวลานี้เอง นายท่านตระกูลโจวเอ่ยปากกะทันหัน จ้องโจวยู่ชุ่ยแบบท่าทางเย็นชา
สำหรับเรื่องนั้นที่ฉินต้าหย่งพึ่งพูดเมื่อสักครู่ เขาในฐานะผู้นำของตระกูล รู้ชัดเจนดี
ตอนนี้ในห้องโถงใหญ่ ไม่เพียงมีคนของตระกูลโจวอยู่ ยังมีญาติพี่น้องตระกูลอื่นด้วย แม้กระทั่งมีคนนอกอยู่บางส่วน
ถ้าโจวยู่ชุ่ยพูดความจริงออกมา นี่ต้องเป็นความอัปยศอดสูของทั้งตระกูลโจว
หยางเฉินรู้ว่าโจวยู่ชุ่ยทำอะไรไม่มีขอบเขต กลับนึกไม่ถึงว่าจะทำเรื่องเกินเหตุเช่นนี้
เดิมทีที่เขามา นำของขวัญราคาแสนแพงมาให้ญาติแต่ละคน เพื่อรักษาหน้าฉินซี เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากตระกูลโจว
ผลปรากฏว่าถูกเข้าใจผิดตั้งแต่ยังไม่พูดอะไร ทว่ากลับเป็นฉินต้าหย่งเปิดโปงเรื่องฉาวโฉ่บางอย่างของโจวยู่ชุ่ยออกมา
“โจวยู่ชุ่ย นายท่านพูดไม่ผิด ดีที่สุดเธอคิดให้ดีก่อนค่อยตอบ ถ้าเธอกล้าพูดความเท็จสักประโยคเดียว มะรืนนี้วันจันทร์ พวกเราเจอกันที่สำนักงานเขต!”
เวลานี้ฉินต้าหย่งเอ่ยปากพูดขึ้น ท่าทีแน่วแน่ที่สุด
เวลานี้ สายตาของทุกคนตกอยู่บนตัวของโจวยู่ชุ่ยกันไม่กะพริบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...