สีหน้าหยางเฉินแสดงออกถึงความสนเท่ห์อย่างมาก ไม่คิดว่าหม่าชาวยังมีวิชาฝังตราประทับวิถีมารใส่ไว้ในสมองมนุษย์ได้ด้วย
แต่เมื่อคิดถึงสถานะของหม่าชาวในปัจจุบัน หยางเฉินก็ยังพอเข้าใจได้
ถึงยังไงหม่าชาวก็เป็นทายาทมารของพรรคมาร ได้รับการถ่ายทอดวิชามารของแท้บริสุทธิ์ ลูกเล่นเล็ก ๆ แบบนี้ สำหรับเขาแล้ว เป็นเพียงของเล่นง่าย ๆ เท่านั้น
ฉีอิงเว่ยพอได้ยินที่หม่าชาวพูด สั่นเทิ้มขึ้นมาทั้งตัว สีหน้าขาวซีด เขาตั้งใจอยู่แล้วว่ากลับไปถึงบ้านตระกูลฉี ก็จะจัดการหาคนมาแก้แค้น คิดไม่ถึงว่า หม่าชาวกลับฝังตราประทับวิถีมารใส่ในหัวสมองเขาไว้แล้ว
“แกจะข่มเหงกันมากไปแล้ว!”
ฉีอิงเว่ยพูดเสียงเครียดแบบแทบจะกัดฟัน
ตัวเป็นถึงว่าที่ผู้สืบทอดบ้านตระกูลฉี กลับมาโดนสบประมาทจากพวกคนโลกมนุษย์ (สามัญ) ซ้ำยังทำกันต่อหน้าพวกหลิ่วหรูเอียน เขาจึงรู้สึกโกรธเป็นอย่างหนัก
แต่ เขาแค่เพียงเพิ่งได้พูดคำนี้ออกไป กระแสการฆ่าที่น่าสะพรึงกลัว แผ่กระจายออกมาจากตัวของหม่าชาว ครอบลงมาคลุมตัวฉีอิงเว่ย
ฉีอิงเว่ยให้รู้สึกถึงความหนาวเหน็บแทงเสียดเข้าไปในกระดูก ทั้งตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ จะขยับตัวก็ยังไม่กล้า
ทันทีนั้นเขาก็ได้มีความรู้สึกว่า ตราประทับวิถีมารในหัวสมองเขามีการเคลื่อนไหว มีท่าทีที่จะระเบิดขึ้นได้ทุกเวลา
หากเกิดว่าตราประทับวิถีมารระเบิดขึ้น ถึงเขาอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ ก็จะต้องกลายเป็นคนปัญญาอ่อนคนหนึ่ง
หยางเฉินก็ได้เอ่ยปากขึ้นมาในตอนนี้ว่า “ปล่อยพวกเขาไปเถอะ!”
หม่าชาวจึงได้เก็บอานุภาพมารของตัวเองขึ้น ฉับพลันนั้นฉีอิงเว่ยก็รู้สึกได้ว่ากระแสฆ่านั้นสูญสลายไป หันหลังกลับได้ก็รีบวิ่งหนีออกไป กลัวเดี๋ยวหม่าชาวเปลี่ยนใจฆ่าเขา
เห็นสภาพของการวิ่งหนีจุกตูดกันไปของสองพี่น้องฉีอิงเว่ยกับฉีอิงเสว่ พวกหลิ่วหรูเอียนต่างพากันหดหู่ใจ
ถ้าสภาพของการหนีอย่างใจหายใจคว่ำจากโลกมนุษย์แบบนี้รู้ไปถึงเหล่าบรรดาจอมคนบูโดในโลกบู๊โบราณล่าง คงต้องทำให้ตื่นกันจนกรามค้าง
“ประมุขตู้ ถ้าข้าทายไม่ผิด ที่ท่านบอกให้คิดตรึกตรองเรื่องการให้พวกเราเข้าครองเขตแดนเหนือ สมควรต้องขอการอนุมัติจากคุณหยางนะ?”
ขณะนั้นเอง หลิ่วหรูเอียนก็ได้พาพรรคพวกหลายคนนั้นเดินเข้ามา มองไปที่ตู้จ้ง พูดด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ
ตู้จ้งจึงได้ดึงสติกลับมา รีบแนะนำกับหยางเฉินว่า “คุณหยาง หลายท่านนี้เป็นแขกผู้มีเกียรติที่มาจากโลกบู๊โบราณล่าง ท่านนี้คือจอมคนบูโดอันดับหนึ่งของตระกูลหลิว คุณหนูหลิ่วหรูเอียน กับอีกสามท่าน คือ......”
ทำการแนะนำทั้งสี่ท่านแล้ว ตู้จ้งก็ได้พูดต่อไปว่า “คุณหยางครับ พวกคุณหนูหลิวเขาอยากจะเข้าไปครอบครองที่แดนเหนือ ไม่ทราบท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?”
หยางเฉินกวาดตามองพวกหลิ่วหรูเอียนผ่าน ๆ ไปอย่างเนือย ๆ แล้วมองไปที่ตู้จ้งพูดขึ้นทันทีว่า “ท่านผู้อาวุโส แดนเหนือก็เป็นเขตของสำนักบู๊ การจะให้ใครเข้าไปครอบครองแดนเหนือ ผู้อาวุโสท่านก็ตัดสินใจเองเถอะ”
ได้ยินหยางเฉินพูดดังนั้น พวกหลิ่วหรูเอียนทั้งหลายคนนั้นต่างก็มีสีหน้าดีใจกัน
ตู้จ้งก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก พูดอย่างยิ้มแย้มว่า “ในเมื่อเป็นอย่างนี้คุณหนูหลิว พวกคุณก็ไปดูที่ที่เหมาะสมในแดนเหนือ แล้วก็เข้าไปครอบครองได้เลยนะ!”
“ขอบคุณท่านประมุขตู้!”
หลิ่วหรูเอียนรีบยกมือคำนับพูดไปด้วยรอยยิ้ม
พูดจบ หล่อนก็หันหน้าไปที่หยางเฉินพูดว่า “คุณหยาง วันนี้ถ้าไม่ได้ท่านลงมือจัดการ พวกเราทั้งหมดนี้ถ้าไม่ถึงตาย น่ากลัวคงต้องถูกฉีอิงเว่ยทำให้กลายเป็นคนพิการไป อย่างที่พูดมานี้ พวกเราล้วนเป็นหนี้ในบุญคุณกับท่านอย่างใหญ่หลวง วันหลังจากนี้หากแม้นคุณหยางมีอะไรที่ต้องให้พวกเรารับใช้ ขอเพียงท่านพูดคำเดียว พวกเราจะไม่ให้คุณหยางต้องผิดหวังเด็ดขาด”
หยางเฉินพูดเสียงเรียบ ๆ ว่า “ที่ข้าลงมือก็ทำเพื่อสำนักบู๊ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกคุณ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...