เฉินไห่โจวรู้สึกตกใจอย่างมาก ถึงเขาจะมั่นใจว่าสามารถสังหารจางจี้ได้อย่างง่ายดาย แต่มันไม่กล้านี่สิ!
การที่เขาเลือกปลดปล่อยแรงกดดันบูโดนั้น ก็เพื่อต้องการข่มขู่จางจี้ให้เลิกมาจุ้นจ้านได้แล้ว แต่นึกไม่ถึงว่า ระดับวิถีบู๊ของจางจี้ จะบรรลุถึงแดนนภาแล้วเหมือนกัน
อีกอย่าง จางจี้เป็นหนึ่งในสี่รองผู้บัญชาการของกองยุทธการจงโจว ถ้ามาตายด้วยน้ำมือของเขาจริงๆ ตนตัวที่อยู่เบื้องหลังสมาคมผู้อาวุโสไม่มีทางปล่อยตระกูลบู๊โบราณเฉินไว้แน่
“รองผู้บัญชาการจาง ใจเย็นๆ ก่อน!”
เหอหยวนหงที่เห็นอย่างั้น จึงรีบเดินเข้ามา แล้วเกลี้ยกล่อมด้วยสีหน้าที่หวาดกลัวว่า “คุณเฉินไม่มีทางคิดท้าทายสมาคมผู้อาวุโสแน่นอน รองผู้บัญชาการจางช่วยเห็นแก่หน้าผมสักครั้งได้มั้ยครับ?”
จางจี้ไม่ได้สนใจ มือข้างหน้าถือหอกเอาไว้ แล้วจ้องมองเฉินไห่โจวด้วยสายตาที่เคร่งขรึม
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งที่แกร่งกว่าเขามาก สายตาของจางจี้ไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย แต่กลับเต็มไปด้วยความพร้อมสู้
ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งบรรลุถึงแดนนภาจากความช่วยเหลือของหยางเฉิน ยังไม่เคยประมือกับผู้แข็งแกร่งแดนนภา ตอนนี้เขาก็อยากประมือกับเฉินไห่โจวสักตั้ง เพื่อขัดเกลาความสามารถในการต่อสู้ของเขา
ผู้แข็งแกร่งที่ถือกำเนิดจากกองยุทธการ ถึงจางจี้จะเพิ่งบรรลุถึงแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นแต่ความสามารถในการต่อสู้ที่แท้จริง กลับสูงกว่าแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นไปแล้ว บางทีอาจอยู่ระดับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นกลางหรือชั้นปลายเลยก็ได้
ผู้พิทักษ์แดนนภาขั้นสองชั้นยอดสองคนที่อยู่ด้านหลังเฉินไห่โจว ต่างจ้องเขม็งไปที่จางจี้ราวกับถ้าจางจี้กล้าลงมือกับเฉินไห่โจวพวกเขาก็จะสังหารจางจี้ทันที
เฉินหยางสีหน้าเคร่งขรึม การเป็นลูกชายของเฉินไห่โจวเขารู้ดีว่า ในสถานการณ์แบบนี้พ่อของตนไม่อยากมีปัญหากับจางจี้มาก
“รองผู้บัญชาการจาง ทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด คุณที่เป็นถึงรองผู้บัญชาการกองยุทธการจงโจว มีตำแหน่งที่สูงส่ง คงไม่มาถือสาคนอย่างพวกเราหรอกจริงมั้ยครับ?”
เฉินหยางพูดกับจางจี้ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม จากนั้นก็หันไปพูดกับเฉินไห่โจวว่า “พ่อครับ ตอนนี้พ่อเป็นตัวแทนของตระกูลเฉินที่อยู่ในจงโจว ต่อไปยังไงก็ต้องติดต่อกับรองผู้บัญชาการจางวันนี้ก็ถือว่าไม่สู้ไม่รู้จักแล้วกันนะครับ!”
เห็นได้ชัดว่าเขากำลังหาทางลงให้เฉินไห่โจว เฉินไห่โจวพยักหน้าเบาๆ แล้วแสดงรอยยิ้มออกมาจากนั้นก็พูดกับจางจี้ว่า “รองผู้บัญชาการจาง ต้องขออภัยด้วย! ไว้วันหลัง ผมค่อยเชิญคุณไปรับประทานอาหารด้วยกันนะครับ!”
จางจี้สบถออกมา “ไม่สนใจ!”
รอยยิ้มบนใบหน้าเฉินไห่โจวแข็งเกร็งจางจี้นี่ช่างไม่ไว้หน้ากันจริงๆ
หลังจากที่เขารู้ว่าแดนวิถีบู๊ของจางจี้ได้บรรลุถึงแดนนภาแล้ว ก็ไม่คิดจะใช้แรงกดดันวิถีบู๊สร้างแรงกดดันให้จางจี้แล้ว หลังจ้องมองจางจี้อย่างลึกซึ้งไปทีหนึ่ง เขาก็โบกมือ “พวกเราไป!”
คนที่อยู่ตรงหนี้ต่างเป็นผู้มีอิทธิพลของจงโจวทั้งสิ้น การที่อยู่ที่นี่ต่อ มีแต่จะขายหน้ามากขึ้นเท่านั้น
เหอหยวนหงี่เห็นอย่างนั้น ก็ร้อนใจขึ้นมาทันที กว่าจะเชิญสองพ่อลูกเฉินไห่โจวมาได้ ทำไมจะไปแล้วล่ะ?
ถ้าพวกเขาไป แล้วใครจะพาเซี่ยเหอไป?
แต่ว่า มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า เขาก็ไม่กล้าเขาไปขวางสองพ่อลูกเฉินไห่โจว ทำได้แค่มองดูคนของตระกูลบู๊โบราณเฉินจากไปเท่านั้น
จางจี้ถึงได้เก็บหอกงอย่างเซ็งๆ แล้วดื่มชาต่อราวกับไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย
พอคนของตระกูลบู๊โบราณเฉินไปแล้ว ในโต๊ะหน้าสุด ก็เหลือหยางเฉินแค่คนเดียว
ถึงลึกๆ จะมีคนที่รู้สึกไม่ชอบใจ แต่ก็ไม่กล้าออกหน้า
หยางเฉินนั้นกล้าหาเรื่องคนของตระกูลบู๊โบราณเฉินต่อหน้าทุกคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้มีอิทธิพลในจงโจวอย่างพวกเขาเลย
“ในที่สุดก็ไม่เป็นอะไรแล้ว!”
ในโต๊ะตระกูลกู้ เซี่ยหลินรู้สึกโล่งอก ตบไปที่หน้าอกของตัวเองเบาๆ
เหอหยวนหงหันมองไปทางหยางเฉินอย่างไม่ชอบใจ เมื่อกี้จางจี้ออกมาเพราะหยางเฉิน เขาจึงไม่กล้าไล่หยางเฉินออกไปอยู่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...