The king of War นิยาย บท 2143

สรุปบท บทที่ 2143 เริ่มต้นงานเลี้ยง: The king of War

สรุปเนื้อหา บทที่ 2143 เริ่มต้นงานเลี้ยง – The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง

บท บทที่ 2143 เริ่มต้นงานเลี้ยง ของ The king of War ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

หยางเฉินกล้าข่มขู่เหอหยวนหงเรื่องการเลือกผู้สืบทอดยังพอว่า แต่ที่ทุกคนนึกไม่ถึงคือจางจี้ที่เป็นถึงรองผู้บัญชาการของกองยุทธการจงโจว คำพูดที่พูดออกมากลับเต็มไปด้วยการข่มขู่

จางจี้มาในฐานะตัวแทนของกองยุทธการจงโจว การแดงออกของเขา ก็เท่ากับการแสดงออกของกองยุทธการจงโจว

เห็นที กองยุทธการจงโจวคงรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของตระกูลเหอมากแล้ว

เหอหยวนหงหน้าเสียอย่างถึงที่สุด เขาสามารถเมินเฉยต่อคำขู่ของหยางเฉินได้ แต่คำพูดของจางจี้ เขาจะทำเป็นไม่สนใจไม่ได้!

“รองผู้บัญชาการจาง ไม่ว่ายังไง คุณก็เป็นหนึ่งในสี่รองผู้บัญชาการของกองยุทธการจงโจว การเข้ามาแทรกแซงเรื่องภายในตระกูลของเราแบบนี้ มันไม่เกินไปหน่อยเหรอครับ?” 

ทันใดนั้นเอง ได้มีเสียงที่ไม่น่าฟังดังขึ้น

ทุกคนต่างหันไปมอง แล้วเห็นเหอจื้อที่ทำหน้าโกรธเกรี้ยว จ้องเขม็งมาที่จางจี้

เดิมทีเขาคิดว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับตำแหน่งผู้สืบทอดแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าในช่วงเวลาสำคัญ เหอหยวนหงจะเกิดเปลี่ยนขึ้นมา

อุตส่าห์ได้เห็นโอกาสอีกครั้ง แต่จางจี้กลับพูดขัดซะได้

จางจี้สายตาเคร่งขรึม หันมองเหอจื้ออย่างไม่ชอบใจ จากนั้นก็หันมองไปที่เหอหยวนหงยิ้มเยาะแล้วพูดไปว่า “กะอีแค่เรื่องภายในของตระกูลเหอ กองยุทธการจงโจวที่สูงส่งไม่ลดตัวลงมายุ่งหรอก!” 

“ผมแค่อยากเตือนด้วยความหวังดี ส่วนเรื่องที่ว่าตระกูลเหอจะเลือกยังไง มันก็เป็นเรื่องของพวกคุณ” 

พูดจบ เขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินจากไป

จนเขาเดินไปถึงหน้าห้องจัดเลี้ยง ก็ได้หยุดลงอย่างกะทันหัน แล้วพูดออกมาเสียงดังว่า “ทุกท่าน สองทุ่มคืนนี้ งานเลี้ยงที่จัดขึ้นในโรงแรมจงโจว อย่าลืมไปร่วมงานกันนะครับ!” 

พูดจบ เขาก็เดินดุ่มๆ ออกไป

ถึงเขาจะบอกว่ากองยุทธการไม่ได้สนใจเรื่องภายในของตระกูลเหอ แต่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างเป็นคนจากตระกูลใหญ่ของจงโจวพวกเขาจึงเข้าใจดีว่า การที่ตระกูลเหอไปคบคิดกับตระกูลบู๊โบราณนั้น กองยุทธการจงโจวรู้สึกไม่พอใจมาก

“เจ้าบ้านเหอ ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าช่วงเช้ายังมีการประชุมที่สำคัญมากๆ ต้องไป ขอตัวก่อนนะครับ!” 

“เจ้าบ้านเหอ ธุรกิจของตระกูลเราเกิดปัญหาขึ้น ผมต้องรีบกลับไปจัดการ ขอตัวกลับก่อนนะครับ!” 

“เจ้าบ้านเหอ ผมยังมีธุระต้องไปทำ ขอตัวกลับก่อนนะครับ!” 

……

ทันใดนั้น เหล่าผู้มีอิทธิพลของจงโจวต่างพากันลุกขึ้น แล้วหาข้ออ้างจากไป

ในกลุ่มคนเหล่านี้ ถึงจะมีคนจำนวนมากที่ลังเลระหว่างตระกูลบู๊โบราณกับสมาคมผู้อาวุโสโลกมนุษย์แต่พวกเขาก็รู้ดีว่า ตระกูลเหอได้ล่วงเกินกองยุทธการจงโจวไปแล้วและมันก็เท่ากันล่วงเกินสมาคมผู้อาวุโสไปด้วย

หรือแม้แต่ตระกูลบู๊โบราณเฉิน ก็ถือว่าถูกตระกูลเหอล่วงเกินไปด้วย

ตระกูลเหอจะยังเหลืออนาคตอีกมั้ย พวกเขาไม่รู้ ตอนนี้แค่อยากออกไปให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มีปัญหาที่ไม่จำเป็น

คนของตระกูลเหอมองดูเหล่าผู้มีอิทธิพลของจงโจวที่จากไปทีละคน ต่างพากันทำหน้าบึ้งตึง

ตระกูลเหอเป็นถึงตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในจงโจว เป็นหนึ่งในตระกูลที่ทรงอำนาจที่สุดแล้วจะเคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนได้ยังไง?

เหอหยวนหงกำหมัดแน่น ดวงตามีแต่ไฟแห่งโทสะที่ลุกไหม้

หยางเฉินมองไปที่เหอหยวนหง แล้วพูดไปยิ้มไปว่า “เจ้าบ้านเหอ ผมแนะนำอะไรคุณอย่างหนึ่งนะ คุณควรเลือกผู้สืบทอดที่เหมาะสมให้ตระกูลเหอจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นตระกูลเหอก็จะพังทลายในมือคุณจริงๆ แล้ว” 

พูดจบ เขาก็ลุกขึ้นแล้วจากไป

ส่วนเรื่องที่เหอหยวนหงจะเลือกใครมาเป็นผู้สืบทอดนั้น เขาไม่ได้สนใจอีกแล้ว

พอได้ฟังอย่างนั้น เฉินหยางพยักหน้าเบาๆ สายตาปรากฏความเยือกเย็น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ตอนแรกคิดว่า หลังจากที่พวกเรามาถึงจงโจว จะสามารถทำตามใจชอบได้ทุกอย่าง นึกไม่ถึงว่า มันยังเป็นไปไม่ได้อยู่ดี!” 

จู่ๆ เฉินไห่โจวก็เปลี่ยนประเด็น แล้วถามไปว่า “คืนนี้จะมีงานเลี้ยงจัดขึ้นที่โรงแรมจงโจวว่ากันว่าผู้อาวุโสสี่คนนั้นเป็นคนจัดเหรอ?” 

เฉินหยางพยักหน้า แล้วพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมอย่างถึงที่สุด “ไม่รู้ว่าจริงมั้ย ว่ากันว่าผู้อาวุโสสี่คนนี้ไม่เพียงเป็นผู้แข็งแกร่งวิถีบู๊แต่ยังเป็นนักปรุงยาด้วย และยังสามารถปรุงยาระดับสองได้ด้วย” 

เฉินไห่โจวขมวดคิ้ว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ถ้าเขาสามารถปรุงยาระดับสองได้จริง มันจะกลายเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก ดูท่า คืนนี้เราต้องไปสักหน่อยแล้ว ไปดูให้รู้ว่าผู้อาวุโสสี่คนนี้จะร้ายกาจขนาดนั้นจริงมั้ย” 

เฉินหยางถามต่อว่า “แล้วเรายังจะไปตระกูลอื่นต่อมั้ยครับ?” 

เฉินไห่โจวส่ายหน้า “เรารอไปก่อน ฉันรู้สึกว่า ผู้อาวุโสสี่ที่มาจงโจวคนนี้ ไม่ธรรมดามากงานเลี้ยงในคืนนี้ น่าจะโชว์อะไรดีๆ แน่” 

เฉินหยางขมวดคิ้ว “มีจางจี้คอยจับตามมอง ตระกูลเหอคงไม่กล้าติดต่อกับเราง่ายๆแน่ ถ้าไม่สามารถหาตระกูลชั้นนำของจงโจวให้ได้โดยเร็ว แผนการของเราในจงโจวคงได้รับผลกระทบอย่างหนักแน่” 

เฉินไห่โจวพยักหน้าเบาๆ พร้อมแสดงสีหน้าที่เคร่งขรึมออกมา

ตอนนี้ไม่ได้มีแค่ตระกูลบู๊โบราณเฉิน ตระกูลขนาดใหญ่อื่นๆ ของตระกูลบู๊โบราณต่างกำลังรุกรานเข้ามาในจงโจวอย่างตามใจชอบ ถ้าพวกเขาเกินชักช้า ก็จะล้าหลังตระกูลอื่นๆ ไปมาก

นอกจากในจงโจวแล้ว ตระกูลบู๊โบราณก็พยายามขยายไปที่โจวอื่นๆ เหมือนกัน และมันก็มีผลกับสิทธิ์และผลประโยชน์ของตัวแทนเหล่านี้ในตระกูลเหมือนกัน

ในเวลาทุ่มครึ่ง หน้าประตูโรงแรมจงโจว ได้มีรถหรูมากมายจอดเต็มแล้ว และในห้องจัดเลี้ยงที่อยู่ชั้นบนสุด อัดแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย

ที่อยู่ในนี้ต่างเป็นเครือญาติขององค์กรต่างๆ ของจงโจว ต่างได้รับคำเชิญ และพวกเขายังได้รับข้อมูลภายในที่เกี่ยวกับงานเลี้ยงตอนสองทุ่มด้วย ตอนนี้แต่ละคนจึงพากันทำหน้าดีใจกันใหญ่

ในวันปกติ การที่พวกเขาอยากได้ยานั้น มีเพียงต้องซื้อแลกเปลี่ยนกับโลกบู๊โบราณล่างเท่านั้น แถมยังต้องจ่ายในราคาที่สูงมาก

แต่งานเลี้ยงในคืนนี้ ผู้อาวุโสสี่เป็นคนจัดขึ้น ว่ากันว่าจะมีการเอายามากมายออกมาจำหน่าย แถมถ้าเทียบราคากับยาที่พวกเขาได้มาจากโลกบู๊โบราณแล้ว มันก็ถูกกว่ากันหลายเท่าตัว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War